บทย่อ
“ไม่... อย่า... อย่าค่ะคุณเขต” หล่อนกรีดร้องด้วยความตกใจ เมื่อชุดที่ตัวเองใส่ถูกฉีกกระชากจนขาดวิ่น ไม่เว้นแม้แต่กางเกงชั้นในที่สวมใส่อยู่ เขาจ้องมองร่างเปลือยเปล่าของหล่อนด้วยสายตาหื่นกระหายไม่ผิดจากสายตาของไอ้แท็กซี่หื่นคนนั้นเลย หล่อนมองเขาอย่าหวาดกลัว ยกมือขึ้นไหว้วิงวอนให้เขาปรานี แต่กลับไม่ได้ความเมตตาตอบกลับมาเลย เมื่อเขาทาบทับลงมาหา ดูดกัดร่างกายของหล่อนอย่างอำมหิต มือใหญ่บีบขยำเต็มแรงจนเนื้อสาวแดงช้ำเจ็บปวด ปากอ้ากว้างกลืนกินทุกความหวาน ยัดเยียดความทรมานจากรอยฟันคมให้อย่างไร้ความปรานี
ตอนที่ 1
อมาวสี อินธนิน คือชื่อของหล่อน หรือเพื่อนๆ มักจะเรียกสั้นๆ ว่า หนูนา หล่อนเป็นเด็กสาวจากต่างจังหวัด จบแค่มัธยมศึกษาชั้นปีที่ 6 ก่อนจะเดินทางเข้ามาเสี่ยงโชคในเมืองหลวง
ค่าเทอมของน้องๆ อีกสามคนคือสิ่งที่หล่อนต้องจ่าย รวมถึงค่ายาจากโรคประจำตัวของผู้เป็นบิดาด้วย มารดาของหล่อนเป็นคนงานก่อสร้างอยู่ที่บ้านนอก ในบ้านเต็มไปด้วยรายจ่ายที่มีมากกว่ารายรับ
หญิงสาวในชุดฟอร์มของพนักงานทำความสะอาดเงยหน้าขึ้นมองตึกสูงระฟ้าเบื้องหน้า ความจนทำให้หล่อนต้องขยันมากกว่าคนอื่นอีกเป็นร้อยเท่า
“พี่หนูนา พ่อป่วยอีกแล้ว ต้องไปหาหมอ”
“พี่หนูนา อาทิตย์หน้าต้องไปทัศนศึกษา คุณครูให้จ่ายตังคนละสามร้อยบาท”
“พี่หนูนา ผมอยากได้รถตักดินเป็นของขวัญวันเกิดครบ 7 ขวบครับ”
“หนูนา ข้าวสารหมด แม่ไม่มีเงินเลย”
ทุกเสียงของคนในครอบครัวที่หล่อนรักมากมายทำให้หล่อนต้องสู้ สู้เพื่อปากท้อง สู้เพื่ออีกหลายชีวิตที่รออยู่ข้างหลัง
หญิงสาวละสายตาจากท้องฟ้า ลงมามองพื้นดิน สองเท้าเหยียบย่างเข้าไปภายในสถานที่ทำงานด้วยหัวใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความหวัง
วันนี้คือวันที่เงินเดือนออก หล่อนจะโอนเงินไปให้พ่อกับแม่และน้องๆ ที่บ้านนอก
“หนูนา มาทำงานแต่เช้าเลยนะ”
เสียงทักทายจากเพื่อนร่วมอาชีพดังขึ้น หล่อนหันไปยิ้มให้อย่างมีไมตรี
“สวัสดีค่ะพี่เพ็ญ”
เดือนเพ็ญเป็นแม่บ้านรุ่นพี่ที่ถูกบริษัทรับทำความสะอาดส่งมาอยู่ที่นี่ก่อนหน้าหล่อน และแน่นอนว่าเดือนเพ็ญจะรู้เกี่ยวกับที่นี่ดีเชียวล่ะ
“วันนี้หน้าตาแจ่มใสเชียวนะ”
หล่อนเดินไปหยุดใกล้ๆ กับคู่สนทนา วางกล่องข้าวที่ในนั้นมีเพียงแค่ข้าวเปล่าและไข่เจียวลงบนโต๊ะ ภายในห้องพักของแม่บ้าน
“วันนี้เงินเดือนออก ฉันก็เลยดีใจเป็นพิเศษน่ะจ้ะ”
“แหม ไอ้เราก็นึกว่าดีใจที่จะได้เห็นคุณเขตตะวันเสียอีก”
แก้มสาวแดงระเรื่อ และรีบหันไปมองรอบๆ ตัว “พี่เพ็ญอย่าพูดเสียงดังสิคะ เดี๋ยวใครมาได้ยินเข้า”
เดือนเพ็ญหัวเราะร่วน
“ใครมาได้ยินก็ช่างประไร เราก็แค่มโนไปเรื่อยแค่นั้นเอง มันไม่มีทางเป็นจริงสักหน่อย”
หล่อนยิ้มบางๆ รู้สึกได้ถึงความแตกต่างระหว่างตัวเองที่เป็นเพียงแค่แม่บ้านทำความสะอาดแสนต่ำต้อย กับผู้ชายที่เพียบพร้อมอย่าง เขตตะวัน รักษ์สกุล เขาเป็นถึงผู้บริหารระดับสูง เป็นเจ้าของบริษัทแห่งนี้ ไม่มีวันที่เขาจะชายตามองหล่อนแน่นอน
“แต่ฉันก็ไม่อยากให้ใครรู้อยู่ดีน่ะพี่เพ็ญ อายคนอื่นน่ะ”
เดือนเพ็ญเดินเข้ามาตบบ่าบอบบางของหญิงสาวที่อ่อนเยาว์กว่าตัวเองอย่างเห็นใจ
“เราเกิดมาจน ทำได้แค่แหงนหน้ามองและเอาไปฝันเท่านั้นแหละ”
ใช่ เดือนเพ็ญพูดถูกต้องทุกอย่าง
แค่เก็บเอาไปฝัน ให้หัวใจชุ่มชื่นพอมีแรงทำงานต่อ แค่นั้นแหละสำหรับหล่อน
“จ้ะ”
เดือนเพ็ญยิ้มน้อยๆ พลางเดินไปดูตารางงานที่หัวหน้าแปะเอาไว้ที่ผนัง
“วันนี้เวรพี่ขึ้นไปทำความสะอาดห้องคุณเขตตะวันนี่น่า”
อมาวสีนิ่งเงียบ ขณะหยิบผ้ากันเปื้อนมาสวมใส่เพื่อเตรียมเริ่มปฏิบัติงาน
“แต่พี่จะให้หนูนาขึ้นไปแทน”
“ห๊ะ”
คนที่กำลังผูกผ้ากันเปื้อนอยู่ชะงักค้าง ดวงตากลมโตที่หวานฉ่ำเบิกกว้าง
“พี่เพ็ญ...”
“ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ ไม่ชอบหรือไง ได้ไปเจอคุณเขตตะวันน่ะ”
ชอบสิ ทำไมจะไม่ชอบล่ะ แต่หล่อนรู้สึกประหม่า และเกรงกลัวต่อสายตาเย็นชาของผู้ชายคนนั้น จนบางครั้งก็อยากจะทำแค่แอบมองเพียงเท่านั้น
“แต่... แต่ฉัน... ฉันต้องไปทำที่โรงอาหารนะพี่เพ็ญ”
“พี่ไปแทนไง”
“คือว่าฉัน... ฉัน... ไม่อยากรบกวนพี่เพ็ญน่ะจ้ะ” หล่อนอึกอักและแสนลำบากใจ
เดือนเพ็ญเดินมาหยุดตรงหน้า และคว้ามือขาวสะอาดที่ค่อนข้างกร้านเพราะผ่านการทำงานหนักมาตั้งแต่เล็กแต่น้อยของอมาวสีมากุมเอาไว้
“ไม่ต้องเกรงใจพี่หรอก พี่อยากให้หนูนามีความสุขบ้าง ได้เห็นใกล้ๆ ก็ยังดีกว่าแอบมองอยู่ในที่ไกลๆ นะ จริงไหม”
หล่อนอึ้งไป รู้สึกหวาดหวั่นในอกเหลือเกิน
“แต่ฉันเกรงว่าจะตื่นเต้นเกินไป และจะเป็นเหมือนเมื่อเดือนก่อนนั้น”
เมื่อเดือนก่อน หล่อนได้เข้าไปทำความสะอาดในห้องทำงานของเขตตะวัน และชายหนุ่มกลับมาพอดี หล่อนเห็นเขา หล่อนตกใจ และเป็นลม
“ไม่หรอกน่า จะเป็นลมอะไรกันบ่อยๆ ไปให้คุณเขตตะวันเห็นหน้า เผื่อท่านจะได้เห็นความสวยในตัวของเธอไง หนูนา”
“ฉันคงไม่สวยพอที่จะเข้าไปอยู่ในสายตาของคุณเขตตะวันได้หรอกค่ะ”
เดือนเพ็ญเลิกคิ้ว เอียงคอมองหน้าหวานของอมาวสีอย่างพิจารณา
“พี่ว่าหนูนาสวยกว่ายายคู่ขาคนล่าสุดของคุณเขตตะวันอีกนะ”
หล่อนหัวเราะเบาๆ เพราะเชื่อว่าเดือนเพ็ญแค่แกล้งพูดให้หล่อนขำเท่านั้น
“ไม่ต้องมาหัวเราะเลย นี่พี่พูดจริงๆ นะ หนูนาสวย ยิ่งมองยิ่งสวย”
หล่อนไม่เคยคิดว่าตัวเองสวย หรือว่าดูดีเลย แต่กระนั้นก็ไม่อยากจะปฏิเสธคำชมจากเดือนเพ็ญให้เสียน้ำใจ หล่อนจึงยิ้มรับ
“ขอบคุณพี่เพ็ญมากนะคะ”
“ไม่ต้องขอบคุณหรอก แล้วนี่ตกลงเราแลกเวรกันนะ”
แม้ว่าจะรู้สึกหวาดหวั่นหากต้องสบตากับเขตตะวันอีกครั้ง แต่ก็ไม่อาจจะปฏิเสธได้
“จ้ะพี่เพ็ญ”
เดือนเพ็ญฉีกยิ้มกว้าง “ถ้าได้เป็นเมียมหาเศรษฐีแล้วอย่าลืมพี่นะจ๊ะ”
“พี่เพ็ญน่ะ พูดอะไรก็ไม่รู้ ตลกจังค่ะ” หล่อนหัวเราะขบขัน เพราะมันเป็นจริงไปไม่ได้หรอก
“อ้าว ไม่แน่นะ เรื่องแบบนี้มันอยู่ที่พรหมลิขิต”