บทที่ 2
ผไทถึงกับชะเง้อมอง เมื่อเพื่อนร่วมงานรุ่นน้องเดินหน้าเจื่อนๆ ออกมา เขาได้ยินเสียงโครมคราม เหมือนมีอะไรหล่นแตกในห้องของคีตภัทร เมื่อเห็นหน้าเบญญาภาแบบนั้น ก็พอจะเดาออกว่าอะไรเป็นอะไร เขากระแอมแล้วยืนขวางหน้าเบญญาภาไว้
“อะแฮ่ม ก่อวีรกรรมอะไรอีกน้องพี่”
“แหะ...”
เบญญาภาทำหน้ากึ่งยิ้มกึ่งเจื่อน จนผไทต้องหัวเราะก๊าก แล้วส่ายหน้าไปมา เขาก้มลงมองเศษแก้วกาแฟ ที่เจ้าตัวเอาใส่ถาดถือเดินออกมา ก็พอจะรู้แล้วว่าเบญญาภาไปทำอะไรไว้ เขาปลงแล้วเรื่องความซุ่มซ่ามของเบญญาภา ถ้ามีจัดอันดับกันล่ะก็ เจ้าตัวต้องได้ตำแหน่งนี้ไปอย่างแน่นอน ติดอันดับต้นๆ ของประเทศแหงๆ
“ดูจากหลักฐาน แตกกระจายขนาดนี้ โดนใครล่ะ คุณต่ายผู้จัดละคร หรือว่า...”
“คุณคีย์”
เบญญาภาตอบอ้อมแอ้ม ทำเอาผไทพยักหน้าก่อนจะกอดอก แล้วพูดเสียงขรึม
“เป็นอันว่าโดนนายเราดีกว่าโดนแขก เพราะเจอแค่นายโกรธ อีทีนี้ถ้าโดนแขก แกโดนโกรธสองเด้ง ไหนจะแขกโมโห แถมโดนเจ้านายจัดการอีก”
เบญญาภาถึงกับหัวเราะกิ๊กอย่างอดไม่ได้ แล้วส่ายหน้าช้าๆ
“พี่ไทพูดแปลกๆ ฟังแล้วให้กำลังใจดีจริงๆ”
“แกน่ะเคลียร์ได้ กับคุณคีย์ยังไงก็ไม่มีปัญหา”
ผไทยังอดพูดอย่างล้อเลียนต่อไม่ได้ เพราะเขารู้ตื้นลึกหนาบาง ระหว่างเบญญาภาและคีตภัทรดี ต่อให้เบญญาภาทำกาแฟหดรดคีตภัทรทั้งกา เผลอๆ ชายหนุ่มก็คงไม่โกรธ ทำเอาเบญญาภาหันมาค้อน
“เงียบน่าพี่ไท”
“หึ หึ ไอ้เบญเอ๊ย! มีโรงพยาบาลรักษาโรคซุ่มซ่ามไหมวะ ฉันจะส่งแกไปรักษา ยอมกู้เงินให้เป็นค่าหมอเลยเอ้า...”
เขามองตามหลังของเพื่อนร่วมงานรุ่นน้อง แล้วอดหัวเราะไม่ได้ ในความโก๊ะของเบญญาภา
“ตกลงก็เป็นตามนี้นะครับ เลยไม่ได้คุยกับทีมงานเลย”
เสียงหัวเราะของตฤณ ที่ได้ยินแว่วๆ ทำเอาผไท วิ่งกลับโต๊ะทำงานของตัวเองแทบไม่ทัน
“ครับ ตกลงตามนี้ครับพี่ต่าย ผมจะส่งชุดเดิมไป แต่เบญญาภาบางทีผมอาจจะเปลี่ยนเป็น วิรงรอง หรือไม่ก็ จิราพรนะครับ ผมกลัวว่าเจ้าตัวจะไปป่วนกองถ่ายพี่ เหมือนคราวก่อน”
ประโยคนั้นของคีตภัทร ทำเอาตฤณหัวเราะ แล้วตบบ่าชายหนุ่มรุ่นน้องเบาๆ
“ไม่หรอกน่าคีย์ น้องเบญน่ารักจะตายไป ดารายังชอบกันทั้งกองถ่าย แค่สะดุดสายไฟบ้าง ชนฉากบ้างน่ะคีย์ ไม่ได้ก่อเรื่องยุ่งอะไรเลย หึ หึ พี่ไปก่อนนะ เริ่มถ่ายทำอีกสองอาทิตย์ ที่เชียงใหม่ หนีจากทะเลไปภูเขาสวยๆ บ้าง”
ตฤณนึกถึงลูกน้องสุดป่วนของคีตภัทร แล้วอมยิ้ม สาวหน้าใสน่ารักนามว่าเบญญาภา ที่มักจะก่อวีรกรรมอยู่เรื่อยๆ รอบก่อนที่เจ้าตัวไปทำงานที่กองถ่ายเขา เบญญาภาก็ทำเรื่องวุ่นวายนิดหน่อย เพราะความซุ่มซ่ามของเจ้าตัว เนื่องจากมีเอฟเฟคทำฉากไฟไหม้ เบญญาภาไปยืนตรงที่เขากำลังทำเอฟเฟคกัน เศษไฟกระเด็นใส่เธอ มันติดและลามเข้ากับสมุดที่เธอหอบไว้ในมือ และแล้วก็ได้เรื่อง เมื่อเบญญาภาวิ่งวุ่นไปทั่วกองถ่าย พร้อมกับสมุดที่ไหม้ไฟ ปากร้องตะโกนว่าไฟไหม้ๆ กองถ่ายแทบถล่ม ทำเอาคีตภัทรต้องไปจัดการขอโทษขอโพย วุ่นวายกันไปเลยทีเดียว แต่ตฤณก็เห็นเป็นเรื่องน่าเอ็นดู แถมบอกว่าขอบใจ ที่ทำให้นึกพล็อตละครเรื่องใหม่ออก
คีตภัทรยกมือไหว้ชายหนุ่มรุ่นพี่ เมื่อพาตฤณเดินออกมาส่ง จนถึงหน้าบริษัท เขาถอนใจเมื่อนึกถึงสาวหมวยหน้าใส ตัวป่วนประจำสนพ.ของเขา เบญญาภา
“เบญ เข้าไปพบผมด้วย”
ชายหนุ่มพูดเสียงดุๆ เมื่อเดินเข้ามาเห็นว่า เจ้าตัวนั่งเรียบร้อยที่โต๊ะทำงานแล้ว หญิงสาวสะดุ้ง ก่อนจะมองตามหลังเขาไปอย่างขลาดๆ อดถอนใจเฮือกใหญ่ออกมาไม่ได้ แล้วเดินตามเขาไป พยายามให้ช้าที่สุด จนคนเห็นเหตุการณ์อย่างผไททส่ายหน้า คนหนึ่งก็ดุไม่เลิก อีกคนก็กลัวไม่หาย เฮ้อ...นึกแล้วก็พานให้กลุ้มใจแทนคนทั้งคู่จริง จริ๊ง...
..............................................................................................................................................
เบญญาภาเปิดประตูเข้าไปทันที ที่ได้ยินเสียงเอ่ยอนุญาต เธอยิ้มแหยๆ ให้กับเจ้าของห้อง ที่ตอนนี้ทำหน้าบึ้ง มองเธอด้วยสายตาดุๆ เสื้อยืดสีขาวของเขา เป็นคราบกาแฟ มันเห็นได้ชัดเจนตอนนี้ เพราะเริ่มซึมเข้าไปเนื้อผ้า ดูยังไงก็ซักไม่ออกเด็ดขาด เธอกำลังจะทรุดลงนั่งบนเก้าอี้อยู่แล้ว เสียงห้าวๆ นั่นก็ดังขึ้นเสียก่อน
“ใครให้นั่ง”
“ก็...เบญไม่นั่งก็ได้” เธอพูดเสียงอ่อยๆ หน้าซีดลงทันที พลางหลบตาเขา
โธ่เอ๋ย...เบญญาภาคิดในใจ ทุกทีเราทำยิ่งกว่านี้ ไม่เคยเห็นจะดุขนาดนี้ ไปกินรังแตนจากไหนมานะ เธอยืนตัวตรง พลางก้มหน้านิ่ง ทำเอาคนที่อยากจะแกล้งชักจะสงสาร เขากระแอมเบาๆ แล้วพูดเสียงให้อ่อนลงว่า
“มานี่สิ คุณเบญ”
“เอ๊ะ?” เบญญาภาทำคิ้วขมวด ขณะที่คีตภัทรยังทำหน้าเฉย แล้วเรียกเธอซ้ำอีกรอบ
“มานี่ก่อน มีอะไรจะให้ช่วย”
“ค่ะ”
เบญญาภาเดินหงอยๆ ไปยืนข้างเขา คีตภัทรเงยหน้ามองใบหน้าหวานใส ที่ก้มต่ำ ริมฝีปากเม้มแน่นแล้วถอนใจ พลางเอื้อมมือใหญ่ของตัวเอง ไปจับต้นแขนเธอ ก่อนที่เบญญาภาจะทันตั้งตัว ก็ถูกเขาฉุดดึงแรงๆ ไปบนตักกว้างเสียแล้ว
“คุณคีย์ !”
เบญญาภาอุทานอย่างตกใจ เมื่อเสียหลักไปบนตักกว้าง แถมเจ้าของตักก็รัดพันเธอไว้แนบอกเสียเลย ใบหน้าหวานใสแดงเรื่อ คนทำยิ้มอย่างชอบใจ พลางย่นจมูกใส่เธอ ก่อนจะพูดเสียงห้าวๆ นัยน์ตาเป็นประกายระยับ
“บอกกี่ครั้งไม่จำเลยนะเบญ ต้องให้ทบทวนกันไหม”
“ทบทวนอะไรคะ? แหมก็เบญไม่ได้ตั้งใจจะซุ่มซ่ามสักหน่อย”
เบญญาภาทำหน้าเหวอ เธอทำผิดอะไรกันนะ ขณะที่คนฟังยิ้มกริ่ม พลางมองริมฝีปากอิ่มตาปรอย คนในอ้อมแขนที่เข้าไปอยู่ในหัวใจเขาตอนนี้ มันทำให้คีตภัทร หมดความยับยั้งชั่งใจเอามากมาย ดูเอาเถอะ แค่ฟังชื่อนายแมทธิว ที่ทำท่าว่าเคยชอบเบญญาภา เขายังโมโห
“เรื่องเรียกชื่อผมไง ผมบอกแล้วว่าให้เบญเรียกว่าอะไร”
“ว้า...นึกว่าเรื่องอะไร”
เบญญาภาถอนใจ ก่อนจะทำตาโต ใบหน้าแดงจัดเมื่อเขาก้มลงมาใกล้ เธอมองประตูสลับกับมองหน้าเขา ด้วยสายตาตื่นๆ มือเรียวหยุดริมฝีปากเขาไว้ได้ทัน ก่อนที่มันจะลงมาแตะสัมผัสกับริมฝีปากเธอ
“อย่านะคะ เดี๋ยวใครมาเห็น ที่นี่บริษัทนะคะคุณคีย์”
“แนะ คุณคีย์อีกแล้ว”
ชายหนุ่มทำเสียงดุๆ นัยน์ตาคมดุของเขามองเธอ ด้วยสายตาตัดพ้อ ที่จนแล้วจนรอด เธอก็ยังไม่ยอมเรียกเขาตามที่ขอสักที เขาเคยขอให้เธอเรียกเขาว่าพี่คีย์ แต่เผลอ ทีไร เบญญาภาก็เรียกเขาแบบเดิมอีกแล้ว สัมพันธภาพระหว่างเขากับเธอ ไม่ใช่เจ้านายกับลูกน้อง หากแต่เป็นคนรัก
“พี่คีย์ก็ได้ค่ะ”
เบญญาภารีบพูดเร็วๆ พลางใช้มือผลักอกกว้างไว้ หัวใจเธอเต้นรัวเร็ว เมื่อมองสบตากับคนตรงหน้า ที่มองเธอตาหวาน แถมจ้องริมฝีปากเธอตาปรอย ต้องเอาตัวรอดไว้ก่อนล่ะเรา เบญญาภาคิดในใจ ใครโผล่มาอายเขาตายเลย
“แต่คุณเรียกผมว่าคุณคีย์ ตามสัญญาต้องปรับ”
“เบญสัญญาเมื่อไหร่กัน คุณ เอ้ย พี่คีย์ ห้องทำงานนะคะ เดี๋ยวใครมาเห็น”
เธอย้ำอีกรอบ ทำเอาคีตภัทรถอนใจ แล้วคลายอ้อมกอดแต่โดยดี สายตาคมกริบมองเบญญาภา ที่รีบลนลานจากตักเขา อดขัดใจไม่ได้ จนต้องพ้อออกมาเบาๆ
“ผมไม่ว่าหรอกนะเบญ ถ้าใครที่นี่จะรู้ว่าผมกับคุณเป็นอะไรกัน ผมไม่ได้คิดมาก”
“แต่เบญคิดมากนี่คะ”
เธอแย้งขึ้นมาทันที ทำเอาชายหนุ่มถึงกับเงยหน้าขึ้นมองเธอ เขาไม่เข้าใจเธอเลย เขาคบกับเธอและต้องการจะเปิดเผย เบญญาภาเม้มริมฝีปาก ก่อนจะรีบอธิบายเพราะกลัวเขาจะเข้าใจผิด