หัวใจทมิฬ (70%)
คนที่ยังฝังใจกับเรื่องราวเลวร้ายในอดีตสวนกลับด้วยน้ำเสียงกระด้างเจือดุดัน เขาก็ยังคงเชื่อมั่นในคำพูดสุดท้ายที่เมียรักของเขาเอ่ยบอกก่อนตาย ที่เชื่ออย่างสนิทใจเพราะอรอุมาไม่เคยมีพฤติกรรมออกนอกลู่นอกทางตลอดระยะเวลาที่แต่งงานกันมา หล่อนไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับผู้ชายคนไหน แล้วมันจะเป็นไปได้ยังไงที่หล่อนจะแอบไปมีสัมพันธ์สวาทกับลูกน้องคนสนิทของ และไม่ใช่ว่าเขาจะโง่งมเชื่อแบบไม่ลืมหูลืมตา แต่เป็นเพราะว่าเขาให้คนสืบย้อนหลังโดยละเอียดแล้ว กลับไม่พบพิรุธอะไร ไม่มีหลักฐานใดๆ บ่งชี้ได้ว่าทั้งคู่หักหลังเขา
“กูไม่เคยทำให้ใครตาย! ผู้หญิงคนนั้นตายเพราะความชั่วช้าสารเลวของมันเอง” คนถูกปรักปรำเชิดหน้าคอแข็งสวนกลับอย่างฉะฉาน ในเมื่อไม่ผิดเธอก็จะไม่มีวันยอมรับข้อหาที่เขายัดเยียดให้เป็นอันขาด
“หุบปาก! แล้วไสหัวมึงไปซะ!”
คนถูกตะเพิดไล่สะอึกอึ้งไปอึดใจใหญ่ หัวตาร้อนผ่าว ก่อนจะพยักหน้าเบาๆ แล้วเค้นเสียงที่พยายามไม่ให้สั่นไหวออกมา แต่กระนั้นมันก็ยังไม่วายติดจะสะท้าน
“กูไปแน่…และจะไปจากชีวิตมึงด้วย”
“ก็ไม่ได้รั้งไว้นี่” คนโอหังไหวไหล่อย่างไม่แยแส
“จากนี้หวังว่าเราจะไม่ต้องมายุ่งเกี่ยวกันอีก”
หลังจากสูดหายใจเข้าลึกๆ คุณหมอสาวก็เชิดหน้าประกาศตัดความสัมพันธ์อันแสนเปราะบางให้ขาดสะบั้น ไม่ว่าจะยังติดค้างอะไรกันอยู่เธอก็จะหาทางเป็นอิสระจากพันธะบ้าๆ ให้เร็วที่สุด
“กูไม่ได้อยากข้องเกี่ยวกับมึงสักนิด และหวังว่ามึงคงจำสัญญาได้นะ ถ้าวันใดที่มึงท้องกูจะรับเฉพาะลูก ส่วนแม่กูไม่รับ จะไสหัวไปไหนก็เชิญ”
ถ้อยคำตอกย้ำกรีดหัวใจให้เป็นแผลเหวอะหวะ ทำให้คนที่รู้สึกว่าตัวเองไร้ค่าแทบน้ำตาร่วง หากแต่จำต้องข่มกลั้นความรู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวเอาไว้ แล้วเค้นเสียงตอกกลับ
“มึงมันคนใจร้าย”
“ถ้ากูใจร้ายมึงก็อำมหิตไม่ต่างกัน เพราะมึงทำให้เมียกูตาย มึงพรากแม่ไปจากลูกชายกู เพราะฉะนั้นถ้ากูจะพรากลูกไปจากมึงมันก็สาสมแล้วนี่ ชีวิตแลกด้วยชีวิต แต่ไม่ใช่ความตาย”
วาจาโหดร้ายในท้ายประโยคทำให้น้ำตาคนฟังแทบหยดแหมะอยู่รอมร่อ มือทั้งสองข้างกำเป็นหมัดแนบลำตัวสั่นเทิ้ม ปากอิ่มที่เม้มเข้าหากันสั่นระริก ถึงแม้จะรู้แก่ใจดีว่าเธอป้องกันไม่ให้ตัวเองท้องอย่างแน่นหนา แต่หากว่าความผิดพลาดมันเกิดขึ้น เธอดันซวยท้องขึ้นมา เธอจะไม่มีวันยอมรับข้อตกลงบ้าๆ นอกเหนือจากที่เจ้าสัวทรงพลเป็นคนกำหนด ส่วนข้อตกลงบีบหัวใจที่จอมพลเป็นฝ่ายยัดเยียดให้เธอจะทำทุกวิถีทางให้มันเป็นโมฆะ หากแต่ตอนนี้กลับค้านอะไรมากไม่ได้ นอกจากทำเพียงไหลไปตามน้ำให้คนโอหังตายใจ
“งั้นจากนี้ไปมึงก็ห้ามมายุ่งกับกูอีก”
“หึ…ก่อนจะทำปากดี กรุณาดูก่อนเถอะ ว่าตัวเองท้องหรือยัง อ้อ…แล้วก็อย่าเข้าใจผิดล่ะว่ากูอยากได้ลูกจากแม่อย่างมึง กูแค่โดนพ่อบังคับก็เท่านั้น”
“อีกไม่เกินสามเดือนก็รู้ แต่ในระหว่างนี้มึงห้ามมายุ่งกับกู ทำเหมือนตายจากกันไปเลยยิ่งดี”
คุณหมอสาวสวนกลับอย่างฉะฉาน ท้ายประโยคไม่ลืมที่จะสร้างเงื่อนไขประวิงเวลา เผื่อว่าน้ำเชื้อไอ้คนใจร้ายมันแรงกล้าจนยาคุมเอาไม่อยู่ แล้วทำให้ท้องขึ้นมาจริงๆ เธอจะได้หาทางหนีทีไล่ และหอบลูกหนีไปให้ไกลๆ จากผู้ชายร้ายกาจที่กำลังยืนจังก้าอยู่ตรงหน้า เรื่องอะไรเธอจะไปยกเลือดในอกให้ผู้ชายไร้หัวใจพรรค์นั้น
“หึ…หลงตัวเองไปหน่อยไหมคุณหมอ ผู้หญิงไม่ได้มีแค่มึงคนเดียวเสียหน่อย” จอมวายร้ายเหยียดปากเยาะหยัน และท่าทางโอหังนั้นก็ทำให้ปิยฉัตรกำหมัดแน่น
“ผู้ชายก็ไม่ได้มีแค่มึงเหมือนกันนั่นแหละ”
“ก็ลองไปเอากับผู้ชายคนอื่นระหว่างท้องลูกกูสิ กูเอาตาย!” คราวนี้เจ้าของใบหน้าเรียบสนิททว่าแววตาเอาเรื่องเค้นเสียงลอดไรฟัน ขณะสืบเท้าเข้าหาร่างแน่งน้อยมากขึ้น
“หึ…อันธพาลแบบนี้เมียรักของมึงน่าจะยังอยู่นะ เผื่อบางทีมึงจะได้เป็นคนลงมือฆ่ามันกับชายชู้ด้วยตัวเอง…” กล่าวยังไม่ทันจะจบเสียงกระด้างเจือคำรามก็สวนขึ้นทันควัน
“ถ้ามึงไม่อยากโดนกูเอาปืนยิงแสกหน้าเหมือนวันนั้น…ก็หุบปากซะ!”
“ไอ้ผู้ชายเฮงซวย! โง่เป็นควาย! เมียสวมเขาให้ยังจะหูหนวกตาบอดอีก…”
ยังไม่ทันจะขาดคำเธอก็ต้องเบิกตากว้าง เมื่อถูกกระชากแรงๆ จนร่างบางปลิวไปปะทะแผงอกกว้าง ชั่วพริบตาคนโอหังก็กระแทกปากลงมาบดขยี้อย่างดิบเถื่อนเป็นการลงทัณฑ์ จูบเผ็ดร้อนไร้ซึ่งความปรานีโดยไม่นำพาอาการดิ้นรนขัดขืน ยิ่งเธอยกมือทุบลาดไหล่กว้างแบบไม่ยั้งเขาก็ยิ่งขยี้ปากอิ่มจนเลือดแทบไหลซิบ จูบดุดันระคนหยาบคายไม่ผ่อนปรนกระทั่งเธอเหมือนจะขาดใจเขาจึงยอมผละห่างคล้ายรังเกียจ และการกระทำกักขฬะก็ทำให้ปิยฉัตรโกรธจนเลือดขึ้นหน้า ทันใดนั้นเธอก็ถลาเข้าไปตวัดฝ่ามือใส่ซีกแก้มสากเต็มเหนี่ยวสองครั้งติดๆ
ฉาด!!!
ฉาด!!!
“คนเลว! ป่าเถื่อน! ไร้อารยธรรม…”
เธอยังพ่นคำบริภาษใส่ใบหน้าถมึงทึงไม่ทันสาแก่ใจก็โดนมือใหญ่ตะปบเข้าตรงแก้มทั้งสองข้าง จากนั้นก็กระชากให้แหงนเงยใบหน้าขึ้น แล้วฉกปากร้อนร้ายลงมาจูบอย่างดุดัน และยิ่งเธอต่อต้านเขาก็ยิ่งต้องการปราบพยศ จูบเอาๆ จนสาแก่ใจ ก่อนจะผละห่างอย่างไม่แยแส ส่งผลให้ร่างอ่อนปวกเปียกทรุดลงไปกองกับพื้นอย่างหมดสภาพ เจ้าของปากเจ่อเพราะฤทธิ์จูบลงทัณฑ์หอบหายใจจนตัวโยน
“ถ้ายังอวดเก่งไม่เลิก มึงจะโดนมากกว่าจูบ…” คนที่ยืนค้ำหัวอยู่ก้มลงมากระซิบข่มขู่ ก่อนที่เธอจะผลักเขาออกห่าง แล้วเค้นเสียงติดจะหอบก่นด่า
“ไอ้คนทุเรศ…”
“ขอบคุณที่ชม”
นายหัวหนุ่มไหวไหล่เบาๆ แล้วเอ่ยรวนหน้าตาย และท่าทางกวนประสาทนั่นก็ทำให้ปิยฉัตรนึกอยากจะกระโจนไปข่วนหน้าหล่อๆ หากแต่ทำได้เพียงเค้นเสียงขุ่นตอบโต้
“กูเกลียดมึง!”
“หึ…กูรักมึงตายล่ะ หาทางกลับเองนะ ไม่ว่างไปส่ง…”
หลังจากพ่นวาจาไร้เยื่อใยออกมา จอมวายร้ายก็ก้มลงฉวยเสื้อตรงพื้นขึ้นพาดบ่า ก่อนจะเดินล้วงกระเป๋าจากไปแบบไม่เหลียวหลัง ทิ้งให้คนถูกกระทำนั่งร้องไห้อยู่ตรงขอบสระอย่างแสนจะอัดอั้นตันใจ
ตั้งแต่กลับจากทริปเลี้ยงรุ่นเมื่อสามอาทิตย์ก่อนปิยฉัตรก็ทำเรื่องขอย้ายลงมากรุงเทพ อันที่จริงเธอไม่ได้อยากย้ายจากเชียงใหม่มาเจอความวุ่นวายในเมืองหลวงเลยสักนิด หากว่าจิตแพทย์ที่เธอรับการบำบัดอยู่จะไม่ลาออก และท่านก็แนะนำให้เธอมารักษาต่อกับคุณหมออีกท่านหนึ่งที่ประจำอยู่สาขากรุงเทพ