๓
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“พสุเปิดให้เราหน่อย”
เป็นนิทราที่มารอเขาตั้งแต่หัวค่ำเพราะรู้ข่าวว่าลินดาคบหากับภมรเนื่องจากอีกฝ่ายเดินมาบอกเธอเอง สิ่งแรกที่คิดถึงคือตอนนี้พสุจะเป็นอย่างไรบ้าง เธอนั่งรอเขาตั้งแต่เย็นจวบจนตอนนี้ที่เป็นเวลาเที่ยงคืนกว่าแล้ว บ้านของเขาก็ปิดไฟไปค่อนหลัง
“พสุ”เมื่อลองเปิดประตูก็พบว่าอีกฝ่ายไม่ได้ล็อกเธอจึงพยายามแบกร่างหนาออกมาดีที่เขาให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีจึงพาเดินมาที่บ้านของเธอได้
ร่างสูงสติแทบไม่สมบูรณ์เขาร้อนไปทั้งตัวและยิ่งได้กลิ่นกายสาวความกระหายมันก็ยิ่งเพิ่มขึ้น เมื่อนิทราปิดประตูบ้านเขาก็ไม่รอช้าคว้าร่างบางมาบดจูบทันทีโดยคนที่ไม่ทันได้ตั้งตัวก็ตาโตเพราะไม่เคยโดนจูบเลยสักครั้ง มือเล็กทุบเขาเบาๆเป็นการประท้วงแต่แรงแค่นั้นไม่สะเทือนคนตัวสูงเลยสักนิด
“พสุอย่า”
เป้าหมายของอีกคนเลื่อนไปที่ซอกคอหอมเขาสูดดมพร้อมกับฝากรอยไว้ทุกที่ที่ริมฝีปากผ่าน แม้จะเมาแต่แรงก็ไม่ได้ลดน้อยลงเลยสักนิดสติของเขาตอนนี้รู้เพียงว่าอยากได้คนตรงหน้าเสียเหลือเกิน เธอช่างหอมเย้ายวนเขาเสียจริง มือหนาทำหน้าที่ถอดเสื้อยืดของอีกฝ่ายออกทันทีโดยที่ปากก็ยังคงดูดดึงริมฝีปากบางอยู่
ความเร็วของเขาทำเอาเธอที่กำลังมัวเมากับรสจูบแทบจะไม่รู้ว่าตอนนี้ทั้งตัวเหลือเพียงบราสีหวานและกระโปรงบางเท่านั้น
“อืม อื้อ” เสียงหวานครางแผ่วยิ่งเพิ่มอารมณ์ให้เขา
พสุถอดเสื้อตัวเองอย่างรวดเร็วแล้วพุ่งเข้าหาเธอฝากรอยไว้ที่เนินอกทั้งสองข้าง ก่อนจะปลดตะขอ บราสีหวานออกเผยให้เห็นบัวตูมคู่งามที่ไม่เคยต้องมือชายใดมาก่อนลอยเด่นตรงหน้า เขาเข้าครอบครองแล้วดูดกลืนยอดสีหวาน ราวกับกระหายน้ำใบหน้าหวานแอ่นอกรับแหงนหน้าขึ้นคราง เสียงหวานเพราะไม่เคยพานพบความรู้สึกเช่นนี้มาก่อน ชายหนุ่มรีบถอดประโปรงสีหวานของเธอออกพร้อมกับถอดชุดชั้นในชิ้นสุดท้าย
ร่างบางเหลือเพียงตัวเปล่าเปลือยแต่เพราะอารมณ์ฝ่ายต่ำทำให้เธอขาดการรับรู้ทุกอย่าง เขาเองก็รีบถอดชุดออกจากตัวเองเช่นกันเพราะขัดเคืองเหลือเกิน สองร่างโผเข้าหากันอย่างเร่งรีบเพราะอารมณ์ที่เตลิด
“ลิน ลิน”
ชื่อของผู้หญิงอีกคนทำให้นิทราได้สติ ตอนนี้ทั้งร่างไม่เหลือชุดอะไรอีกแล้วเธอจึงพยายามผลักเขาออกไป
“ปล่อยนะพสุ เราไม่ใช่ลินดา” เอ่ยด้วยความน้อยใจแต่อีกฝ่ายก็ไม่ฟังด้วยแรงน้อยนิดของเธอไม่สามารถทำอะไรเขาได้อยู่แล้ว
พสุพาร่างบางไปที่โซฟาก่อนจะทับเธอไว้ทั้งตัว สองมือถูกเขาตรึงไว้บนศีรษะแล้วจูบเธอไปเรื่อยก่อนจะหยัดตัวขึ้นมาเมื่อเห็นอีกฝ่ายมีอารมณ์คล้อยตามอีกครั้ง เขารู้ว่าเธอคือนิทราแต่อารมณ์ตอนนี้เขาไม่สามารถที่จะหยุดมันได้แล้ว
ร่างสูงพยายามเอาแท่งบุรุษเพศเข้าไปในกลีบดอกไม้สีหวานก่อนที่เขาจะรับรู้ได้ว่าเธอยังบริสุทธิ์เมื่อเยื่อพรหมจรรย์ขาด แต่ตอนนี้เขาหยุดไม่ได้อีกแล้ว
“แล้วมันจะดี” เขาปลอบเธอก่อนจะค่อยๆ ดันเข้าไปจนสุดเมื่อเธอพร้อมจึงโยกตามแรงอารมณ์เสียงครางดังไปทั่วห้องรับแขกก่อนที่เขาจะปล่อยเข้าไปในตัวเธอจนหมด
พสุพักเหนื่อยเพียงครู่เดียวก่อนที่จะเริ่มเกมรักอีกครั้ง เขาอุ้มเธอไปบนห้องนอนของเธอวางร่างบางไว้บนเตียงก่อนจะเริ่มเกมรักกับเธออีกครั้ง อีกครั้งและอีกครั้งจนกระทั่งรุ่งสางทั้งคู่จึงได้หลับไปเพราะความเพลีย
“กรี๊ดดดดดดดดด!!” เสียงกรีดร้องดังขึ้นทำให้สองร่างที่นอนอยู่บนเตียงงัวเงียลืมตาขึ้นมา เพราะเพิ่งได้นอนไปไม่กี่ชั่วโมงทำให้ทั้งคู่รู้สึกเพลียมากแต่เมื่อได้ยินเสียงดังขนาดนี้ถ้าให้หลับต่อก็คงนอนไม่ลง
“มีอะไรเกิดขึ้นพี่ลดา”
เสียงอันคุ้นเคยปลุกให้พสุลืมตาขึ้นมาทันที
“ว้ายตาเถร!”
ร่างสูงได้ยินเสียงแม่ตนเองเมื่อแน่ใจเขาก็ลุกขึ้นนั่งเห็นทั้งป้าลดาและแม่ของตนเองมองมาที่เขาด้วยความตกใจก่อนที่เขาจะค่อยๆ หันไปมองด้านข้างก็ยิ่งตกใจ เมื่อพบเพื่อนสนิทตั้งแต่เด็กของตนเองนั้นคือนิทรา
บ้าชิบ!ทำไมเมื่อคืนเขาไม่กลับบ้านเป็นเรื่องอีกจนได้
“ไปแต่งตัวทั้งสองคนแล้วลงไปคุยกันที่ข้างล่าง” วรรณนภาเอ่ยขึ้นเสียงเย็นก่อนจะเดินออกไปพร้อมยลลดาที่ยังคงช็อกอยู่ ยิ่งเห็นร่องรอยตามตัวลูกสาวยิ่งเกิดความเสียใจไม่คิดว่าจะได้มาเห็นภาพแบบนี้ด้วยซ้ำ
เมื่อคนทั้งสองปิดประตูห้องแล้วนิทราและพสุก็มองหน้ากันทันทีก่อนที่หญิงสาวจะค่อยๆ ลุกไปใส่เสื้อคลุม เธอพยายามข่มความเจ็บที่จุดซ่อนเร้นและบั้นเอวลงมา พยายามเข้มแข็งแต่ขากลับอ่อนจนล้มลงกับพื้นเมื่อใส่เสื้อคลุมเสร็จแล้ว
พสุยังคงนั่งนิ่ง ใช้เวลาคิด อยากจะไปช่วยเธอแต่ก็ไม่ทำเพราะตอนนี้เขาคิดว่าทำไมเขาต้องทำแบบนี้กับนิทรา แล้วทำไมนิทราไม่ปลุกเขาให้รีบตื่น ทำไมต้องให้ผู้ใหญ่มาเห็น เธอต้องการให้เขารับผิดชอบอย่างนั้นหรือ ความคิดทุกอย่างจู่โจมมาที่เขา
“นิท เมื่อคืนเราขอโทษ” ในที่สุดก็เอ่ยปากบอกเมื่ออีกฝ่ายจะเดินเข้าห้องน้ำ
“เราไม่ได้ตั้งใจและเราไม่ได้สติ” คำพูดของเขาราวกับมีดที่เฉือนหัวใจเธอ ร่างสูงคว้าผ้าเช็ดตัวแถวนั้นมาพันรอบเอวก่อนเดินไปหาเธอ“แต่เราไม่เข้าใจทำไมเธอไม่ห้ามเรา ทำไมเธอถึงปล่อยให้มันเกิดขึ้น เธอต้องการอะไรกันแน่” เพราะความขาดสติทำให้คำพูดของเขาไม่ได้กลั่นกรองโดยดี ยามโกรธเขาสามารถโทษได้ทุกอย่าง
คำพูดของพสุยิ่งทำให้นิทราทรงตัวแทบไม่อยู่ เขาโทษเธอว่าทั้งหมดคือความผิดของเธอที่ไม่ห้ามไม่พยายามยับยั้งเขาใช่หรือไม่
“เราพยายามแล้ว” เอ่ยออกมาได้เท่านั้นจริงๆ
พสุถอนลมหายใจออกมา เหตุการณ์นี้มันเกินการควบคุมของเขา
นิทราผละไปอาบน้ำเธอพยายามเดินให้เป็นปกติแม้จะเจ็บมากก็ตาม เขาปล่อยข้างในและยังไม่ได้ล้างออก
เธอต้องทำความสะอาดตัวเองอยู่นานกว่าจะออกมาและก็ต้องตกใจ เมื่อออกมาแล้วเขาขว้างภาพใส่เธอ
“ที่ทำแบบนี้เพราะเธอชอบเราเหรอ” รูปภาพนับสิบแผ่นพร้อมกับสมุดไดอารี่ในมือเขาทำให้เธอเบิกตากว้าง
เขาค้นมันอย่างนั้นหรือ
“นี่มันแผนการของเธอใช่ไหมที่เห็นว่าเราเมาเลยพยายามเข้ามา เธอแอบชอบเราเลยหวังว่าครั้งนี้คงจะทำสำเร็จ ใช่!เธอทำสำเร็จแล้ว คงจะคิดมาอย่างดีว่าอยากให้แม่เรามาเจอ ใช่ไหม! ตอบสิ!” เขาเข้ามาเขย่าไหล่เธอเค้นคำตอบ
“เปล่า เราเปล่า” นิทราพยายามอธิบายแต่อีกฝ่ายไม่ฟังเลย
“ต่อจากนี้ จะไม่มีคำว่าเพื่อนอีกต่อไป” ดวงตาคมมองเธอราวกับโกรธแค้นมานานก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปพร้อมกับเสื้อผ้าของตนเองที่แม่ของเขาเอาขึ้นมาให้เพราะมันกองอยู่ที่ห้องรับแขกด้านล่าง
เมื่อร่างสูงเข้าไปในห้องน้ำนิทราก็เก็บรูปที่ตนเองไปขโมยมาได้ช่วงมัธยมที่รูปของพสุได้ขึ้นบอร์ดกิจกรรม หลบคนแทบตายกว่าจะได้รูปมาและช่วงมหาลัยที่อีกฝ่ายเป็นถึงเดือนมหาลัยมีรูปเต็มบอร์ดเธอก็แอบขโมยมาอีก ไม่คิดว่าเขาจะมาเจอ ไม่คิดจะบอกอีกฝ่ายด้วยซ้ำ
พสุออกมาด้วยชุดเรียบร้อยใบหน้าหล่อเรียบนิ่งไม่บ่งบอกอารมณ์ใดๆ เธอยืนรอเขาเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายพร้อมแล้วก็ลงไปข้างล่างที่ตอนนี้มีคุณดิลกนั่งรวมด้วยอีกคน ผู้ใหญ่ทั้งสามมีสีหน้าเรียบนิ่งก่อนที่หนุ่มสาวสองคนจะนั่งลงบนโซฟา
“มันเกิดขึ้นได้ยังไง” คุณดิลกเริ่มขึ้นก่อนเมื่อมองเด็กทั้งสอง
“ผมผิดเองครับ ผมไปกินเหล้ามาแล้วไม่ได้สติเรื่องมันเลยเลยเถิด” เขาก้มหน้ายอมรับผิดพร้อมกับคลานเข่าไปกราบขอโทษคุณยลลดาแทบเท้าที่ทำร้ายลูกสาวของท่าน“ผมขอโทษที่ทำอะไรไม่ยั้งคิด” นิทรานั่งกุมมือนิ่งมองการกระทำของเขาด้วยความปวดใจ เขาขาดสติ เขาเมา เขาไม่รักเธอนั่นคือความจริงที่เจ็บปวดที่สุดแล้ว
“แกจะทำยังไง ลองบอกฉันมาสิ”
“ผมขอโทษครับ แต่ถ้าจะให้ผมแต่งงานกับเธอ ผมทำไม่ได้จริงๆ ผมไม่ได้รักนิท” เขาไม่อยากแม้แต่จะเอ่ยชื่อผู้หญิงร้อยมารยาคนนี้ออกมา ความเป็นเพื่อนของเขากับเธอจบลงตั้งแต่ที่เขารู้แล้วว่าเธอคิดแผนไม่ซื่อกับเขาแบบนี้
“แต่แกต้องแต่ง! ฉันพูดกับแม่ของหนูนิทแล้ว ฉันจะให้แกกับหนูนิทแต่งงานกัน” คุณดิลกเอ่ยขึ้นเสียงดัง ลูกสาวของเพื่อนรัก โดนลูกชายเขาย่ำยีขนาดนี้ถ้าไม่แสดงความรับผิดชอบเขาคงไม่มีหน้าไปพบเพื่อนยามจากโลกนี้ไป
“ไม่ต้องหรอกค่ะ ปล่อยให้มันผ่านไปเถอะนะคะ” เห็นว่าเขาไม่ต้องการที่จะแต่งงานกับเธอและสำหรับตัวเธอแล้วก็ไม่คิดจะแต่งงานกับพสุหากเขาไม่ได้รักเธอ
“ไม่ได้หรอก น้าไม่ยอมเด็ดขาดหนูต้องแต่งงานกับตาเล็ก เรื่องนี้ผู้ใหญ่จะคุยกันเอง เราสองคนแค่รู้ไว้ว่างานแต่งจะถูกจัดขึ้นในเดือนหน้า!” คำพูดของวรรณนภาถือเป็นประกาศิตไม่มีใครกล้าขัดได้อีก
พสุนิ่งไปก่อนจะหันมามองนิทรา
“ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวนะครับ” เขายกมือไหว้ผู้ใหญ่แล้วเดินออกมาจากบ้านหลังนี้ทันที
นิทราก็รีบลุกตามเขาออกไปเช่นกัน ผู้ใหญ่ทั้งสามมองหน้ากันก่อนที่ยลลดาจะกล่าว
“ทำแบบนี้มันจะดีหรือ เด็กไม่ได้รักชอบกัน”
“แต่หนูนิทเสียหายค่ะ ตาเล็กต้องรับผิดชอบไม่ว่ายังไงก็แล้วแต่” วรรณนภาเอ่ยขัด
แม้ยลลดาจะไม่เห็นด้วยแต่ก็ไม่กล้าแย้งเพราะในใจก็อยากให้ลูกสมหวังกับคนที่ลูกรัก เธอรู้มาตลอดว่าลูกสาวเธอแอบรักใครอยู่และหวังลึกๆ ว่าจะสมหวัง คราวนี้ความหวังก็คงจะเป็นจริงแล้ว
“ก็คงต้องแล้วตามกัน” ทั้งสามคุยเรื่องงานแต่งงานของลูกตนเองทันที
วรรณนภาแอบดีใจที่จะได้หญิงสาวที่เอ็นดูมาเป็นลูกสาวอีกคน งานแต่งครั้งนี้ของลูกชายเธอจะต้องเลิศที่สุด!
“เดี๋ยวก่อนพสุ” ร่างบางวิ่งมาจับมือเขาแต่อีกฝ่ายสะบัดออกทันทีราวกับรังเกียจกันเหลือเกิน
“อย่ามาใกล้ฉัน เพราะเธอทำให้ทุกอย่างมันเป็นแบบนี้” คำเรียกที่เปลี่ยนไปทำให้ใจดวงน้อยสั่นไหวแต่ก็ยังยิ้มสู้
“เราไม่ได้ทำ เธอต่างหากที่ทำ เธอไม่ฟังที่เราบอกเลย”
“แล้วทำไมเธอไม่ขัดขืน!แค่เอาอะไรทุบหัวฉันให้สลบไปมันยากเหรอ หรือเพราะเธอรอเวลานี้มานานแล้ว” เขาถามกลับ
นิทราส่ายหน้าไปมา
“เราไม่เคยคิดแบบนั้นกับเธอเลยนะ เราเป็นเพื่อนกันไม่ใช่เหรอ”
“คำว่าเพื่อนมันจบไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว เราไม่ใช่เพื่อนกันและฉันเกลียดเธอ!” เขาผลักเธอออกห่างแล้วเดินเข้าไปภายในบ้านทันทีปล่อยร่างบางให้ยืนน้ำตาไหลลงมาคนเดียว
หลังจากนี้มันคือความจริงสินะ ความจริงที่นอกจากเขาจะไม่รักแล้วยังเกลียดเธออีกด้วย เป็นแบบนี้แล้วชีวิตครอบครัวของเธอกับเขาจะเกิดอะไรขึ้น
“เล็กเกิดอะไรขึ้น” คนในบ้านมักจะเรียกภมรว่าคุณใหญ่ซึ่งก็คือลูกคนโตของบ้านและเรียกพสุว่าคุณเล็กเพราะทำให้ทั้งสองเรียกกันด้วยชื่อนี้ตลอด
“ทำไมพี่ไม่บอกวะว่าคบกับลิน” เจอหน้าคนเป็นพี่เขาก็ตรงเข้าไปกระชากคอเสื้อทันทีด้วยส่วนสูงที่ใกล้เคียงกันทำให้ทั้งสองสบตากันนิ่ง แววตาของคนเป็นพี่นิ่งแต่พสุกลับเดือดดาลหากเผาคนตรงหน้าได้เขาคงทำไปแล้ว
“พี่ขอโทษ พี่รักลินจริงๆ”
“พี่รักทั้งๆที่รู้ว่าผมก็รักลินอย่างนั้นเหรอ พี่ทำแบบนี้ได้ยังไง พี่ทำได้ยังไง!” เขาบอกเล่าเรื่องลินดาให้ภมรฟังเสมอและเขาก็ต้องมาเจ็บเพราะคนที่เขาไว้ใจทั้งสองคนทรยศหักหลัง
ไม่สิคนที่เขาไว้ใจทั้งสามคนต่างหาก..
“ถ้าพี่ไม่เป็นแฟนกับลินมันคงไม่เกิดเรื่องบ้าๆ แบบนี้ขึ้น เพราะพี่ มันเป็นความผิดของพี่คนเดียว” ว่าแล้วเขาก็ผลักอีกฝ่ายออกไปแล้วเดินขึ้นบนห้องด้วยความฉุนเฉียว
ภมรที่กำลังสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อเห็นบิดามารดาเดินมาก็ตรงเข้าไปหาท่านทั้งสองทันที
“เกิดอะไรขึ้นหรือครับคุณพ่อ”
คุณดิลกมองหน้าลูกชายคนโตแล้วบอกให้เข้าไปนั่งคุยกันที่ห้องโถงใหญ่ซึ่งภมรก็ไม่เอ่ยขัดเขาเดินตามบิดาไปเงียบๆ แม้ในใจจะร้อนรนก็ตาม
“พ่อจะให้ตาเล็กแต่งงานกับหนูนิท”
คำถามเกิดขึ้นทันทีในใจของภมร ..ทำไมถึงต้องทำแบบนั้น
“ผมไม่เข้าใจครับพ่อ ทำไมต้องให้เล็กแต่งงานกับนิท สองคนนั้นไม่ได้รักกัน” เอ่ยถามออกไปจนทั้งพ่อและแม่ต้องถอนหายใจ
“ก็ไอ้น้องชายตัวดีของเราน่ะไปมีอะไรกับหนูนิท แม่ไม่อยากให้หนูนิทเสียหาย บอกป้าลดาไปว่าจะรับผิดชอบเองเลยให้ตาเล็กแต่งงานกับหนูนิท”
เขามึนไปหมดแล้วตอนนี้
..พสุไปมีอะไรกับนิทราอย่างนั้นหรือแล้วมันเกิดขึ้นได้อย่างไรเพราะน้องชายเขาไม่มีท่าทีว่าจะรักชอบอีกฝ่ายได้เลย
“แม่ยังโมโหไม่หาย! ไปทำบัดสีแบบนั้นที่บ้านป้าเขาได้ยังไง หมดกันชื่อเสียงของวงศ์ตระกูลเพราะลูกชายคุณคนเดียวเลย” ว่าจบก็หันไปบ่นสามีแล้วเดินออกไปปล่อยให้คุณดิลกมองตามแล้วถอนหายใจออกมา
..ไปทำบุญมาแท้ๆ แต่กลับต้องมาเจอเรื่องหนักใจ
“อีกเดือนหนึ่งจะมีงานแต่งของน้องแกเกิดขึ้น ก็ช่วยๆ พ่อหน่อยแล้วกันนะ” เขาตบบ่าลูกชายเดินตามภรรยาออกไป
ปล่อยให้ภมรได้แต่นั่งอึ้งเพราะเรื่องราวเกิดขึ้นเร็วเกินไป
“คุณใหญ่คะ คุณลินดามาขอพบค่ะ” แม่บ้านพูดจบภมรก็รีบลุกขึ้นไปหาแฟนสาวทันที
ลินดาเห็นชายหนุ่มที่รักก็รีบเดินมาหาทันทีพร้อมกับใบหน้าเคร่งเครียด
“พี่ภมรคะเกิดอะไรขึ้น ลินได้ข่าวว่าพสุจะแต่งงานกับนิทหรือคะ”
..ข่าวไปไวเหลือเกิน
เขาพยักหน้าแล้วพาเธอไปยังสระน้ำหลังบ้าน สาวสวยเดินตามไปเพราะอยากจะรู้เรื่องว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทั้งสองนั่งลงที่โต๊ะริมสระ
“พี่ก็ไม่รู้รายละเอียดชัดเจนรู้แค่เพียงว่าเล็กไปมีอะไรกับนิทแล้วป้าลดาเห็น คุณแม่เลยแสดงความรับผิดชอบด้วยการให้เล็กแต่งงานกับนิท” ฟังแล้วลินดาก็แทบจะเป็นลม
..ทั้งสองมีอะไรกันอย่างนั้นหรือ! เป็นไปได้อย่างไรกัน
“จริงหรือคะพี่ภมร หรือว่ามันจะเป็นเพราะลินบอกพสุว่าเราเป็นแฟนกันเขาเลยประชดหรือเปล่า”
“พี่ไม่รู้ พี่เดาใจนายเล็กไม่ออกเลย” เขาส่ายหน้าอย่างหมดหนทาง เรื่องราวดูเหมือนจะซับซ้อนเกินกว่าที่เขาจะรู้
สองคนนั่งมองผืนน้ำจนกระทั่งโทรศัพท์ของลินดาดังขึ้นและเธอต้องไปทำธุระของบริษัทจึงขอตัวจากเขา
ภมรเดินไปส่งแฟนสาวแล้วเข้ามาภายในบ้านสวนทางกับพสุ ที่เดินออกมาพอดีเขาจะเอ่ยทัก แต่อีกฝ่ายก็เดินเลยไปราวกับเขาไม่มีตัวตน
..ทุกอย่างมันเกิดเร็วไปหมดแม้ว่าเขาจะทำใจไว้แล้วก็ตามแต่นี่มันเหนือความคาดหมายของเขาเกินไป