๒
เช้าวันเสาร์ พสุตื่นมาด้วยความสดชื่นหลังจากที่เพื่อนสาวคนสนิทของเขานัดเจอที่ร้านอาหารเวลาเย็น ช่วงเช้าเขามีนัดตีกอล์ฟกับลูกค้าคนสำคัญเดินลงมาจากบันไดก็เจอบิดามารดากำลังนั่งดูโทรทัศน์พูดคุยกัน
“มาพอดีเลยลูก วันนี้พ่อกับแม่จะไปทำบุญที่นครสวรรค์นะ กลับพรุ่งนี้ตอนเช้า” วรรณภาเอ่ยบอกกับลูกชายคนเล็กหลังจากที่บอกภมรไปแล้วเมื่อชายหนุ่มจะออกไปข้างนอก
ร่างสูงเดินมานั่งข้างบิดา
“ไปกันสองคนหรือครับ” เขาถามอย่างอดเป็นห่วงไม่ได้
“แม่หอมก็ไป ป้าลดาก็ไป ไม่ต้องเป็นห่วงพ่อกับแม่หรอก” เขาพยักหน้ารับรู้คุยกับท่านทั้งสองสักพักก่อนจะขอตัวออกไปข้างนอก
วรรณนภามองตามลูกชายแล้วหันไปคุยกับคุณดิลก วิจิตรประภาผู้เป็นสามีทันที
“คุณคะ คุณว่าลูกสะใภ้คนเล็กของเราจะเป็นหนูลินดาหรือเปล่า” สามีกำลังดูข่าวอยู่หันมามองภรรยา
“ไม่รู้สิคุณ เห็นเจ้าเล็กก็ไปๆมาๆกับหนูลินดาตั้งนานไม่เห็นมีอะไรเกิดขึ้นเลย” เขาพูดตามที่คิด
“ฉันก็ว่าอย่างนั้น เสียดายหนูนิทฉันน่ะช๊อบชอบหนูนิทแต่ลูกชายคนเล็กไม่เอาด้วย หนูนิทน่ะเก่งงานบ้านงานเรือนหน้าตารึก็สะสวยนิสัยก็อ่อนหวานเรียบร้อย น่ารักมากๆเลยเสียดาย” คุณวรรณนภาเอ่ยชมหลานสาวที่เห็นมาแต่เด็ก
“คุณก็ไปบอกลูกชายของคุณสิ”
“ไม่เอาหรอก มีแต่ตาเล็กจะยิ่งหนีสิไม่ว่าถ้ารู้ว่าแม่อยากจับคู่ให้ ปล่อยให้เป็นไปตามฟ้าลิขิตแล้วกัน”
คงต้องปล่อยให้เป็นไปตามโชคชะตาว่าจะลิขิตความรักของลูกชายคนเล็กของตระกูลวิจิตรประภาจะให้เป็นอย่างไรหวังว่าคงไม่ใจร้ายกับลูกชายของบ้านนี้จนเกินไปแล้วกัน
“นิทเดี๋ยวแม่จะไปทำบุญที่นครสวรรค์กับน้าวรรณนะลูก อยู่บ้านคนเดียวได้ใช่ไหม” คุณยลลดาเอ่ยบอกลูกอีกครั้งหลังจากที่บอกไปแล้วเมื่อวาน
นิทราพยักหน้ารับรู้ระหว่างช่วยแม่เก็บกระเป๋า
“นิทรู้แล้วค่ะ แม่บอกนิทเป็นร้อยรอบแล้วมั้งเนี่ย” ลูกสาวพูดเย้าแหย่ผู้เป็นมารดา
“แม่ก็ย้ำอีกรอบไง ตกลงนอนคนเดียวได้นะ”
“สบายมากค่ะแม่ ไม่ต้องห่วงนิทหรอก” ว่าพลางรูดซิปปิดกระเป๋าให้เรียบร้อย
ร่างบางเดินมาส่งแม่ถึงบ้านของน้าวรรณที่นั่งดูทีวีรออยู่ข้างใน
“ฝากดูแลแม่ด้วยนะคะน้าวรรณ” ไหว้ทั้งคุณดิลกและคุณวรรณนภาแล้วก็เอ่ยฝากแม่ของตนเอง
“จ้ะ น้าจะดูแลแม่เราอย่างดีเลย”
นิทราไม่ลืมกำชับให้แม่ดูแลตัวเองจนผู้ใหญ่อดหัวเราะกับสาวน้อยที่ห่วงแม่เกินเหตุไม่ได้ นิทรามองดูรถตู้คันหรูแล่นไปจนลับตาแล้วชะเง้อมองเข้าไปภายในบ้านที่เธอไม่ได้มาเป็นเวลานาน มองไปยังโรงรถก็ไม่เจอรถของพสุจึงเดาได้ว่าเขาไม่อยู่บ้านร่างเล็กแอบเสียดายตัดใจเดินกลับบ้านเพื่อไปทำงานของตนเองต่อ
พสุเดินเข้ามาภายในร้านอาหารที่เขากับลินดาชอบมารับประทานประจำเพราะใกล้กับมหาวิทยาลัยที่เรียนแถมอาหารยังอร่อยอีกด้วย เป็นร้านโปรดของหญิงสาวเลยละ ไม่รู้ว่าตอนนี้ร่างบางมาหรือยังเพราะเขามาก่อนเวลานัดสิบนาทีแต่กลับแปลกที่โต๊ะประจำมีลินดานั่งอยู่ก่อนแล้ว ทั้งสองสบตากันก่อนเขาจะคลี่ยิ้มออกมาเมื่ออีกคนโบกมือทักทาย ไม่ได้เจอกันตั้งสองวันหลังจากที่เธอบอกไม่ให้เขาไปรับไป ส่งแล้ว
“มาเร็วจังเลย อุตส่าห์มาก่อนเวลายังไม่ทันลิน”
ร่างบางยิ้มกว้างแม้ดวงตาจะดูไม่สดใสก็ตามและพสุก็พอจะ ดูออก
“กินอะไรมายัง สั่งอาหารก่อนไหม”
พสุพยักหน้ารับเพราะช่วงบ่ายเขากินไปนิดเดียวจริงๆ เนื่องจากเรื่องที่คุยทำให้ต้องโฟกัสไปที่งานของบริษัทก่อน
สั่งอาหารมาได้สามอย่างก็คุยกันระหว่างรอ ส่วนมากพสุจะเป็นฝ่ายนั่งฟังลินดาพูดเสียมากกว่าเมื่ออาหารมาทั้งสองก็เริ่มลงมือรับประทานแต่คนตัวเล็กกลับกินไปได้นิดเดียวก่อนจะวางช้อนส้อมแล้วดื่มน้ำ
“อิ่มแล้วเหรอ ทำไมอิ่มเร็ว” เขาถามในขณะที่ยังรับประทานอยู่เพราะหิวมากจริงๆ
“ก็กินเยอะไม่ได้ เดี๋ยวอ้วนพอดี”
“อ้วนบ้างก็ดีนะ ลินผอมจนจะปลิวไปตามลมได้อยู่แล้วเนี่ย” เขาเย้าเธอก่อนจะเริ่มรับประทานต่อจนอาหารเกลี้ยงทุกอย่าง พสุดื่มน้ำตาม
“อิ่มมาก แน่นสุดๆ เลยตอนนี้” ลินดายิ้มให้ก่อนจะชวนเขาไปเดินย่อยอาหารที่สวนสาธารณะใกล้บ้าน ทั้งสองขับรถไปคนละคันแต่ถึงในเวลาไล่เลี่ยกัน
พสุดูออกว่าเพื่อนมีท่าทีไม่สบายใจแล้วอยากจะถาม แต่ก็รอให้อีกฝ่ายพูดเองมากกว่า
พระอาทิตย์เริ่มตกดินทำให้ลินดาตัดสินใจที่จะบอกกับพสุ
“คือลินมีเรื่องจะบอก” ในขณะที่เดินไปสักพักลินดาก็เอ่ยขึ้นพลางหยุดเดิน
“เราว่าละ ลินดูเหมือนมีอะไรกังวลใจแปลกๆ”
ความกังวลเกิดขึ้นเมื่อจะบอกอีกฝ่าย แน่นอนว่าพสุต้องเสียใจแต่ถ้าปล่อยไว้มันก็ยิ่งไม่เป็นการดีกับฝ่ายไหนเลย เธอจะต้องบอกเขา
“เรามีแฟนแล้ว”
คำพูดของร่างบางทำเอาพสุนิ่งงันไป หัวใจเหมือนหยุดเต้นไปชั่วครู่แล้วถามออกมาเสียงสั่น
“ว..ว่าไงนะ มีแฟนแล้ว ลินหลอกเราหรือเปล่า” ถามพลางยิ้ม แม้จะเป็นยิ้มที่ดูแห้งแล้งก็ตาม
ลินดานิ่งเธอส่ายหน้าน้อยๆ
“เราเพิ่งคบกับเขาได้ห้าวัน ขอโทษนะ”
“ใคร มันเป็นใคร” เขาถามเน้นย้ำเมื่อรู้ได้ว่าสิ่งที่เธอบอกไม่ใช่เรื่องโกหกอีกต่อไป ตอนนี้ลินดาไม่โสดอีกต่อไปแล้วในหัวใจของเธอมีเจ้าของจับจองเป็นที่เรียบร้อยและนั่นไม่ใช่เขา ใจของเขามันเจ็บปวดเหลือเกินที่หญิงสาวซึ่งเฝ้ามองมานานมีแฟน ทั้งๆ ที่ตลอดเวลาที่เขาอยู่ด้วยเธอไม่เคยมีท่าทีว่าจะมีแฟนเลย เธอโสดมาตลอดจนกระทั่งวันนี้ที่บอกว่ามีแฟนแล้ว
“ลินขอโทษพสุลินขอโทษจริงๆ ลินคบกับพี่ภมร”
ราวกับมีสายฟ้าฟาดลงมาที่ตัวเขามันชาวาบไปหมดเมื่อรู้ว่าคนที่หักหลังเขาคือใคร
..คือพี่ชายแท้ๆ ของเขานั้นเอง!
“เมื่อไหร่ มันเกิดขึ้นได้ยังไง ทั้งๆ ที่เรารักลินมาตลอดแล้วทำไม” คำถามมากมายเกิดขึ้นเขาพูดแทบไม่รู้เรื่องตอนนี้สมองประมวลผลอะไรไม่ได้อีกแล้วนอกจากคำว่าทรยศที่เขามอบให้คนเป็นพี่ชาย
“ลินแอบรักพี่ภมรมานานแล้ว ลินเลยไม่เคยมองใครเลยแม้กระทั่งพสุ”
เป็นคำตอบที่ทำลายเขาได้อย่างน่าเจ็บปวด เพียงเท่านี้เขาก็เข้าใจทุกอย่างแล้ว คนที่ไม่ถูกเลือกคือเขาสินะ เธอรักพี่ชายเขามาตลอดแล้วทำไมไม่บอกกันบ้าง ปล่อยให้เขาเป็นไอ้โง่ได้อย่างไรมาตั้งนานแสนนาน
พสุยิ้มเยาะตัวเอง
“ขอให้โชคดีแล้วกัน” พูดได้เท่านั้นร่างสูงก็เดินกลับไปที่รถทันทีโดยไม่หันมามองคนที่พยายามเรียกตัวเองอีกเลย ใบหน้าที่มักมีรอยยิ้มประดับเรียบนิ่งจนน่ากลัว เขาปิดประตูรถเสียงดังแล้วขับออกไปด้วยความเร็วจุดหมายปลายทางก็คือผับดังร้านประจำของเขา
เมื่อมาถึงชายหนุ่มก็สั่งเหล้าเข้มๆ มาทันทีดื่มราวกับน้ำโดยไม่ได้มองเลยว่าตอนนี้ตนเป็นเป้าสายตาของใคร
“นั้นเจ้านายเธอใช่ไหมเม” เลขาสาวสวยที่มานั่งดื่มกับเพื่อนหันไปมองก็ยกยิ้มขึ้นมาเมื่อพบกับเจ้านายตนเอง
“ใช่แล้ว คืนนี้ฉันคงไปกับพวกเธอไม่ได้แล้วละ ขอโทษด้วยนะ” เอ่ยลาเพื่อนก่อนจะลุกออกจากโต๊ะแต่โดนเพื่อนอีกคนจับแขนไว้ก่อน
“เดี๋ยวสิ ฉันมีของเล่นมาให้เธอด้วยนะ” ถุงขนาดเล็กที่มีผงสีขาวอยู่ด้านในถูกยื่นให้เมขลาทันที
“ลองเอาไปใช้ดูนะ ถือเป็นประสบการณ์แปลกใหม่ ใช้เสร็จเอามาเล่าให้ฟังด้วยนะ” ทั้งกลุ่มยิ้มให้กันอย่างมีเลศนัย
เมขลารับของมาจากเพื่อนแล้วเก็บไว้อย่างดี ร่างบางเดินตรงไปยังพสุที่นั่งดื่มคนเดียวเงียบๆ หมดแล้วเติมใหม่จนร่างสูงโอนเอนไปมา
“คุณพสุไม่คิดว่าจะเจอกันที่นี่นะคะ” เธอทักเขาแล้วนั่งลงข้างๆ ทันที“ดื่มเยอะระวังเมาแล้วกลับไม่ได้นะ”
เขาไม่ได้สนใจเธอยังคงเติมต่อไปเรื่อยๆ ให้ดับความว้าวุ่นในใจของตนเอง เมขลาเข้าไปกอดแขนเขาพลางเอนตัวซบจนพสุรำคาญสะบัดเธอออก
“จะไปไหนคะ” เมื่อเห็นเขาลุกขึ้นเลยถาม
“เข้าห้องน้ำ” ว่าจบก็เดินออกไปยิ่งเพิ่มโอกาสให้หญิงสาวเธอเทผงสีขาวที่ได้มาจากเพื่อนใส่แก้วให้เขาทันทีแล้วหันไปมองเพื่อนของตนเองที่ส่งยิ้มมาให้ คนให้เข้ากันก่อนจะวางไว้ที่เดิม
ไม่นานร่างสูงก็เดินมายังโต๊ะของตนเอง เขาดื่มรวดเดียวหมดจนเมขลาที่มองยิ้มพอใจ ดื่มไปไม่นานร่างสูงก็รู้สึกร้อนเนื้อร้อนตัวไปหมดความต้องการพุ่งทะยานจนต้องหันไปจูบสาวที่นั่งข้างกายโดยไม่คิดจะยับยั้งชั่งใจ ทั้งสองจูบกันอย่างดูดดื่มจนคนอื่นต่างสนใจ
เมขลาจึงผละออกจากเขาแล้วพาเดินออกไปจากผับ โดยมีสายตาหลายคู่ยังคงมองอยู่อย่างสนใจ
พสุพยายามจะจูบอีกฝ่ายแต่เธอก็บอกให้ใจเย็นรอถึงรถก่อน ดีที่เขาเป็นสมาชิกผับจ่ายเงินรายปีสามารถเช็กยอดทั้งปีจ่ายครั้งเดียวซึ่งเขาก็มาไม่ค่อยบ่อยนักที่มาส่วนมากก็เพราะคุยงานกับลูกค้าจึงมาสังสรรค์บ้างตามโอกาส
ผลัวะ
ในขณะที่สองร่างกำลังจูบกันตรงลานจอดรถร่างของพสุก็ถูกต่อยเข้าจนอีกฝ่ายเซล้มลงไป
“พี่เข้ม!” เมขลาเห็นหน้าคนที่เข้ามาทำร้ายเจ้านายตนเองก็ต้องตกใจ
“ยังจำผัวมึงได้อยู่เหรอ!” อีกฝ่ายตะโกนใส่หน้าผู้หญิงก่อนจะลากเธอให้ออกไปจากตรงนี้ เขาไม่ได้สนใจพสุอยู่แล้วจึงไม่คิดติดใจเพราะรู้สันดานเมียตัวเองดี
“พี่จะพาฉันไปไหน”
“มึงเงียบ!กูไม่ทำอะไรไอ้นั้นหรอก คนที่จะโดนคือมึง” ว่าจบก็ลากเธอออกไปด้วยแรงมหาศาลของบุรุษทำเอาเมขลาก้าวตามแทบไม่ทัน ไม่วายหันไปมองอีกคนที่นอนอยู่บนพื้นท่าทางทุรนทุราย
เสียดายโอกาสครั้งนี้เหลือเกิน กะว่าจะได้กินอยู่แล้วเชียวกลับพลาดไปเสียได้
พสุค่อยๆ ลุกขึ้นมาเขาหยิบกุญแจมาเปิดรถแม้สติยังไม่ครบถ้วนสมบูรณ์รู้เพียงว่าจะต้องกลับบ้านให้ได้ อาการปวดตรงกลางลำตัวตีขึ้นมาจนเขาต้องกุมมันเอาไว้ ร้อนเนื้อร้อนตัวไปหมดขับรถกลับมาได้แต่ก็เกินความเร็วที่กำหนดไว้ไม่มีด่านตรวจระหว่างทางกลับบ้านเลย
รถคันหรูจอดลงตรงหน้าบ้านวิจิตรประภาก่อนที่เขาจะฟุบลงไป พยายามกลั้นอารมณ์ระงับสติอารมณ์เต็มที่