บทที่ 5
และระหว่างที่ทั้งคู่กำลังประสานเสียงหัวเราะกันอยู่นั้น ดลยาที่นั่งตรวจดูความเรียบร้อยของร้านก็รีบสะกิดเรียกให้คนข้างตัวหันไปมองบุคคลที่พึ่งเดินผ่านหน้าตนไปเมื่อสักครู่
"พวกแกเห็นอย่างที่ฉันเห็นหรือเปล่า"
ทั้งสามพร้อมใจกันมองไปยังจุดเดียว ก่อนจะพบเข้ากับร่างสูงโปร่งในชุดสูทคุ้นตาของใครบางคน และใครบางที่ว่านี่ก็ดันเป็นคนคนเดียวกันกับแฟนหนุ่มที่พึ่งถูกมีนาคมบอกเลิกไปเมื่อตอนกลางวันนี้เอง
ดลยารีบหันไปมองนักแสดงสาวในสังกัดของตนด้วยท่าทีละล้าละลัง เพราะเกรงว่าอีกฝ่ายจะบุกไปถามไถ่อาการของแฟนเก่าที่โต๊ะแล้วเป็นเรื่องเป็นราวกันขึ้นมา ซึ่งแน่นอนว่าเธอไม่มีทางปล่อยให้มันเกิดขึ้นเด็ดขาด
"แก... อย่าบุกไปตบนังนั่นเชียวนา"
คำเตือนของกิตติธีร์ทำเอาผู้จัดการสาวต้องกลืนน้ำลายลงคอเอื๊อกใหญ่ เนื่องจากอารยะไม่ได้เข้ามาในผับเพียงลำพัง แต่ข้างกายของเขากลับมีผู้หญิงหน้าตาดีคนหนึ่งมาด้วย
"ไม่หรอกน่า"
"หือ? ไม่หรอกน่าของแกนี่มันหมายความว่ายังไงวะ แกรู้จักนังนั่นด้วยหรอ"
นางร้ายสาวพยักหน้าตอบอย่างไม่ใส่ใจนัก แล้วไขข้อข้องใจให้กับทุกคน "ผู้หญิงคนนั้นชื่อดาเป็นเลขาของอาร์ม ฉันเห็นเขาบ่อยจนชินแล้วล่ะแก ท่าทางก็ไม่ได้ดูร้ายกาจอะไร ออกจะ..."
พูดยังไม่ทันขาดคำดารินที่นั่งอยู่ข้างเจ้านายหนุ่มก็รั้งคอเสื้อของอีกฝ่ายเข้ามาใกล้ แล้วบดขยี้ริมฝีปากหนาอย่างเร่าร้อน จนดวงตาทั้งสามคู่ที่จ้องมองพวกเขาอยู่ในระยะไกลเบิกโพลงด้วยความตกตะลึง
เลขาสาวเลื่อนมือขึ้นไปโอบรอบลำคอของชายหนุ่ม เพื่อจับยึดลำคอแกร่งของเขาเอาไว้ให้มั่น ในขณะที่ร่างแบบบางของเจ้าหล่อนแทบจะปีนป่ายขึ้นไปก่ายเกยบนตักของคนตรงหน้าอยู่รอมร่อ
อารยะชะงักไปชั่วครู่เมื่อถูกจู่โจมด้วยสัมผัสที่เร่าร้อนและพร้อมจะปรนเปรอความสุขให้เขาได้ทุกเมื่อของเลขาสาว แตกต่างกับใครบางคนที่ไม่ว่าจะทำอย่างไร เธอก็ไม่ยอมศิโรราบให้กับความต้องการของเขาเสียที แถมวันนี้เจ้าตัวยังโทรมาบอกเลิกเขาด้วยเหตุผลเดิมๆ อีก
นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน!
มือเรียวสวยของคนที่กำลังยืนมองอดีตแฟนหนุ่มนั่งพลอดรักอยู่กับเลขาจากระยะไกลกำหมัดเข้าหากันแน่น เพื่อสะกดกลั้นไฟโทสะที่ปะทุขึ้นในอก พลางท่องวนไปวนมาในใจซ้ำๆ ว่าเธอกับเขาเลิกกันแล้ว และคนที่บอกเลิกก็ยังเป็นเธอเสียด้วย
"เอายังไงดีวะเจ๊" กิตติธีร์หันไปขอความเห็นจากคนข้างตัว ที่มืดแปดด้านไม่ต่างกัน
"ฉันว่าเราพาไอ้มีนมันกลับคอนโดก่อนเถอะ"
"ไม่กลับ! " นางร้ายสาวบอกเสียงแข็ง ก่อนจะคว้าแก้วค็อกเทลของตนเองขึ้นมากรอกใส่ปากรวดเดียวหมด
"เฮ้ย! เบาๆ สิชะนี ถึงค็อกเทลนี่จะเอลฯ น้อย แต่กินไปกินมามันก็เมาได้เหมือนกันนะยะ"
"ไม่รู้ล่ะ ก็วันนี้พี่ยาบอกว่าจะเลี้ยง"
"ว๊ายย จริงหรออีเจ๊"
กิตติธีร์หันไปถามหน้าตาตื่น และคำตอบที่ได้รับกลับมาก็คือรอยยิ้มแห้งของผู้จัดการสาวที่พลั้งปากพูดเรื่องกินฟรีออกไปเมื่อตอนกลางวัน
"ห้ามกลับคำนะคะ พี่ยา"
"โอ๊ยยย ถ้าแกเมาหัวราน้ำขึ้นมาจะทำยังไง พรุ่งนี้ไม่มีงานมีการทำแล้วหรอยะ"
มีนาคมไหวไหล่อย่างไม่ยี่หระ เพราะพรุ่งนี้ช่วงหัวค่ำเธอมีแค่งานเลี้ยงปิดกล้องเท่านั้น จึงไม่มีอะไรให้ต้องสนใจอีก นอกจากแก้วค็อกเทลสีสวยที่วางอยู่เบื้องหน้า
"วันนี้แกขับรถมาหรือเปล่า"