บทที่ 3
"นังบ้า! "
ซ่า~
น้ำเปล่าเย็นฉ่ำถูกสาดเข้ามาปะทะกับใบหน้าสวยเฉี่ยวอย่างกะทันหัน โชคดีที่มีนาคมกลั้นหายใจเอาไว้ได้ทัน เธอถึงเดินสับขาออกไปจากร้านอาหารนี่ได้อย่างสง่างามไร้ที่ติ
แหม... ก็เผื่อว่าข่าวของเธอได้ลงหน้าหนึ่ง จะได้คุยโวได้ว่าท่าเดินสวยเริ่ดเชิด สมตำแหน่งนางร้ายดาวรุ่งที่กวาดรางวัลมาแล้วทุกเวที
"โอ๊ยย ท่าเดินปังไม่ไหว"
ชมตัวเองเสร็จสรรพ นางร้ายสาวก็เปิดประตูขึ้นไปนั่งบนรถทันที
มีนาคมเดินเข้ามาภายในผับชื่อดังใจกลางกรุงตามคำชวนของดลยา ผู้จัดการสาวที่ถูกเธอโทรไปดราม่าเรื่องความรักที่เหมือนละครหลังข่าวตั้งแต่หัววัน อีกฝ่ายจึงได้อนุโลมให้ดื่มเครื่องดื่มทุกชนิดภายในร้านได้อย่างเต็มที่ เนื่องจากสถานที่แห่งนี้คือกิจการทางบ้านของเจ้าตัวนั่นเอง
"อุ๊ยต๊ายย! พึ่งจะโผล่หัวมาได้นะยะชะนี ฉันกับเจ๊ยานั่งรอแกจนรากจะงอกออกมาจากก้นอยู่แล้วเนี่ย"
กิตติธีร์ หรือ กิต ที่ทุกคนในแก๊งพร้อมใจกันเรียกชื่อใหม่ของนางด้วยความรักใคร่เอ็นดูและหมั่นไส้เบาๆ ว่า 'กีกี้' เอ่ยทักขึ้นเป็นคนแรก ทันทีที่เห็นว่าสมาชิกคนสุดท้ายของแก๊งเดินเข้ามาร่วมวงด้วยสีหน้าบอกบุญไม่รับอย่างที่สุด
"ไหนรากแก ลุกขึ้นมาให้ดูรากที่ก้นหน่อยสิ๊"
กิตติธีร์ขึงตาตอบ ก่อนจะแหวใส่คนมาใหม่เสียงดัง
"ชะนีโรคจิต! "
คนถูกต่อว่าหัวเราะรวนอย่างไม่สะทกสะท้าน ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้หน้าเคาน์เตอร์บาร์ตามเพื่อนและผู้จัดการส่วนตัวที่นั่งอยู่ก่อนแล้ว
"อ่ะ ไหนๆ แกก็มาแล้ว เรามาพูดเรื่องความรักของแกกันดีกว่าไหม สรุปว่ายังไงยะ สุดท้ายเลิกไม่เลิก"
ดลยากำลังที่นั่งปั้นหน้าดุใส่บรรดาพวกผู้ชายที่เข้ามากะลิ้มกะเหลี่ยนักแสดงในสังกัดของตนหันมาถาม เนื่องจากเมื่อช่วงบ่ายอีกฝ่ายโทรไปปรับทุกข์กับเธออยู่หลายชั่วโมง และนี่ก็คือที่มาของการนัดเจอกันในครั้งนี้นั่นแล
"ก็คงต้องเลิกแล้วมั้งคะ หนูเหนื่อยแล้วอะพี่ยา"
"มั้ง? มั้งมันหมายความว่ายังไงยะชะนี สรุปว่าจะเลิกไม่เลิก ขอคำตอบที่มันเคลียร์กว่านี้ได้ไหม" กิตติธีร์ถาม แล้วบิดเบ้ริมฝีปากใส่เพื่อน เพราะตนเชียร์ให้มีนาคมเลิกกับอารยะมาตั้งนานแล้ว
"พูดยากว่ะ ฉันกับเขาคบกันมาตั้งสามปี ความผูกพันมันก็มีป่ะแก"
"ย่ะ แล้วความผูกพันมันช่วยให้แม่เขาชอบแกขึ้นมาบ้างป่ะล่ะ แล้วคราวนี้เอาเงินมาฟาดหัวแกกี่ล้าน ถ้าไม่สมตำแหน่งนางร้ายเบอร์หนึ่งของช่อง ก็อย่าไปรับเชียว"
"แหม... แกเห็นฉันหน้าเงินขนาดนั้นเลยหรอ นังกีกี้"
กิตติธีร์คว่ำปากใส่คนถามอีกยกด้วยความหมั่นไส้ เพราะจำได้ว่าตอนที่เข้าวงการใหม่ๆ คนข้างตัวเค็มจนทะเลต้องเรียกแม่ แล้วแบบนี้จะไม่เรียกว่างกได้ยังไง
"แล้วคราวนี้เขาเสนอให้แกเท่าไหร่" ดลยาถาม
"เขาให้เรียกเอาเลยค่ะ"
"ว๊ายย! ตาเถร แล้วแกเรียกไปกี่ล้าน" กิตติธีร์ถามด้วยความตื่นเต้นเกินเบอร์ จนแทบจะลุกขึ้นมาเต้นระบำฮาวายบนเคาน์เตอร์อยู่แล้ว
"สิบ"
"สิบล้านหรอ"
มีนาคมพยักหน้าให้แทนคำตอบ ทำเอาเพื่อนซี้และผู้จัดการสาวประสานเสียงหัวเราะอย่างพอใจ แล้วชูนิ้วโป้งมาทางเธอเพื่อแสดงความชื่นชม
"แล้วเขาให้ป่ะ"