บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 2 งานเลี้ยง[1]

เหวินซ่งเหยา ไม่ได้เหยียบย่างเข้ามาในเรือนภรรยาเอกมาเป็นสิบปีแล้ว จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าครั้งสุดท้าย ได้พบหน้ากันเมื่อไหร่ กระทั่งวันนี้ 

"ท่านพี่" ฮุ่ยเจินเห็นผู้มาเยือนยืนตะลึงแข็งค้างอยู่หน้าประตู จึงลุกขึ้นต้อนรับตามมารยาทด้วยใบหน้าเฉยชา

นางเป็นเช่นนี้ตั้งแต่คลอดบุตรี เพราะในระหว่างที่นางเจ็บท้องคลอด สามีที่ควรอยู่ให้กำลังใจ กลับไปขลุกอยู่ในเรือนอนุสี่ ไม่เคยมาดูดำดูดีพวกนางสองแม่ลูกเลยสักครั้ง

และตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา ฮุ่ยเจินก็ไม่เคยยิ้มให้ผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าสามีอีกเลย รวมถึงไม่ยอมนอนร่วมเตียง นางย้ายตนเองและลูกมาอยู่เรือนเล็กท้ายจวนที่อยู่ห่างไกล เพื่อที่จะได้ไม่ต้องทนเห็นหน้าบุรุษที่นางเคยรัก ใช้สินเดิมของตัวเอง เลี้ยงดูสามชีวิตโดยไม่คิดพึ่งพาสกุลเหวิน

น้ำเสียงไร้อารมณ์ของฮุ่ยเจินทำให้เหวินซ่งเหยาได้สติ รู้สึกกระอักกระอ่วนเล็กน้อย ที่เผลอมองจ้องอีกฝ่ายจนลืมตัว เพราะอดที่จะตกตะลึงกับความงดงามของคนตรงหน้าไม่ได้

ฮุ่ยเจินอ่อนกว่าสามีแค่สามปีก็จริง แต่นางเป็นคนที่ค่อนข้างที่จะใส่ใจตัวเอง ทั้งยังไม่ชอบทาแป้ง ทาชาด ทำให้ผิวหน้ายังดูกระจ่างใสแลดูอ่อนเยาว์คล้ายหญิงสาวแรกรุ่น

"ข้ามีเรื่องต้องคุยกับเจ้า" ซ่งเหยาสาวเท้าไปนั่งลงบนตั่งข้างกายภรรยาอย่างถือวิสาสะ สายตายังคอยชำเลืองมองใบหน้างดงามไม่ห่าง 

"นายท่าน น้ำชาเจ้าค่ะ" จนกระทั่งถูกขัดจังหวะจากสาวใช้

"ออกไปก่อน ข้าต้องการคุยกับฮูหยินตามลำพัง"

ฉิงฉิงมองสบตาผู้เป็นนาย ก่อนจะล่าถอยออกไป

"ท่านพี่มีอันใดจะพูดกับข้าหรือ?" 

"เรื่องงานเลี้ยงที่จวนผู้ว่า"

ไม่ต้องรอให้อีกฝ่ายเอ่ยจนจบ ฮุ่ยเจินก็พอจะเดาได้ งานเลี้ยงสำคัญเยี่ยงนี้ เกรงว่าในเทียบเชิญคงระบุตัวตนชัดเจนเป็นแน่ สามีที่ไม่ได้พบหน้ากันมาสิบกว่าปี ถึงได้รีบมาหานาง

"ขออภัย ข้าไม่อยากทำให้ท่านขายหน้า" 

"เจ้าจะไม่ไป?!"

"เจ้าค่ะ ข้ากับลูกไม่เคยก้าวออกจากจวนมาสิบกว่าปี อยู่ๆ จะให้ออกไปงานเลี้ยงใหญ่โต เกรงว่าจะทำให้ตระกูลเหวินขายหน้า สู้ไม่ไปเลยเสียยังดีกว่า"

"ไม่ได้! งานนี้สำคัญต่อข้ามาก ข้าสั่งให้ไป เจ้าก็ต้องไป!" ความจริงในใจเหวินซ่งเหยารู้สึกหงุดหงิดเป็นทุนเดิมอยู่แล้วที่เห็นภรรยาทำตัวห่างเหิน  พอถูกปฏิเสธ น้ำเสียงที่เปล่งออกไป เลยกลายเป็นแข็งกระด้าง แต่มันกลับไม่มีผลต่อฮุ่ยเจิน 

"ข้าไปได้ แต่คงมิอาจพาเซียนเอ๋อไปด้วย"

"คืนนี้ พวกเจ้าสองแม่ลูกจะต้องไปร่วมงานเลี้ยงในจวนผู้ว่าพร้อมข้า! อย่าแม้แต่จะคิดบ่ายเบี่ยง ฮุ่ยเจิน ข้ายอมลงให้เจ้าตลอดสิบปี ไม่เคยคิดจะมารบกวน หากว่าเรื่องแค่นี้ เจ้าผู้เป็นถึงภรรยาเอกช่วยแบ่งเบาไม่ได้ ระวังข้าจะหย่าขาดจากเจ้า! ถ้าวันนั้นมาถึง เจ้ายังจะได้พบหน้าลูกสาวอีกหรือไม่ ลองคิดดูให้ดี!!" 

เอ่ยจบเหวินซ่งเหยาก็สะบัดชายแขนเสื้อ สาวเท้าออกจากเรือนไปโดยไม่รอฟังคำตอบ 

พ้นหลังบิดาฟางเซียนก็ก้าวออกมาจากห้องด้านใน ก่อนจะนั่งลงบนตั่งข้างกายมารดา กอดเอวอีกฝ่ายไว้แน่น เพื่อเป็นการปลอบประโลม 

"ในเมื่อเลี่ยงไม่ได้ พวกเราก็ไปเถิดเจ้าค่ะ ลูกโตแล้ว ทุกคำที่ท่านแม่สอนสั่ง เซียนเอ๋อจำได้ขึ้นใจ ท่านแม่อย่าได้กังวล"

"แม่เกรงว่างานเลี้ยงคืนนี้จะไม่ใช่งานเลี้ยงธรรมดาน่ะสิ"

"อย่างไรเจ้าคะ" เด็กสาวเลิกคิ้วมองมารดาด้วยความสงสัย ทำให้ฮุ่ยเจินต้องหันมาจับไหล่สองข้างของบุตรสาว ก่อนจะจ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่งาม

"ผู้แทนพระองค์มาครั้งนี้ ดูท่าแล้วคงจะมาหาเด็กสาวเพื่อส่งไปเป็นเครื่องบรรณาการแก่แคว้นจ้าว"

แคว้นจ้าวถือเป็นแคว้นใหญ่ที่มีอำนาจมาก เป็นแคว้นที่มีความมั่นคงและยังร่ำรวยมั่งคั่ง ซึ่งแคว้นเชว่ไม่อาจเทียบได้ ทำให้ทุกๆ ปีต้องส่งเครื่องบรรณาการไปถวาย และในกระบวนของบรรณาการทั้งหมด ที่ขาดไม่ได้คือหญิงงาม

เมื่อสมัยก่อน ถ้าหากฮุ่ยเจินไม่ชิงแต่งงานเสียก่อน ก็คงต้องกลายเป็นเครื่องบรรณาการไปแล้ว

และเมื่อไม่นานมานี้ มีข่าวว่าแคว้นเจ้าได้เปลี่ยนผู้ครองแคว้น ว่ากันว่านอกจากเป็นฮ่องเต้ที่ยังหนุ่มแน่นแล้ว ยังเป็นจอมเผด็จการที่ร้ายกาจมากอีกด้วย นั่นยิ่งทำให้เหวินฮูหยินไม่ต้องการให้บุตรสาวไปร่วมงานเลี้ยง

"ลูกเข้าใจแล้วเจ้าค่ะ แต่ก็ใช่ว่าพวกเราจะไม่มีหนทางนี่เจ้าคะ"

"หืม? เซียนเอ๋อมีแผนอะไรลูก"

เด็กสาวยกยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะกระซิบข้างหูมารดา อีกฝ่ายถึงได้ยิ้มออก "ดีๆ ลูกแม่ช่างฉลาดเสียจริง"

"ถ้าอย่างนั้นลูกไปเตรียมข้าวของก่อนนะเจ้าคะ จะได้ทันใช้ในตอนเย็น"

"รีบไปเถิด"

พ้นหลังบุตรี ฮุ่ยเจินถึงได้ถอนหายใจออกมาด้วยความ โล่งอก นางไม่นึกเลยว่าสามีถึงขั้นเอาเรื่องของบุตรสาวมาข่มขู่ เยื่อใยเส้นบางๆ ที่เหลืออยู่ระหว่างนางกับชายคนรัก เกรงว่าจะขาดสะบั้นลงในวันนี้เสียแล้ว

ยอมลงให้ข้าตลอดสิบปีงั้นหรือ หึ! ไม่ใช่เป็นข้าหรอกหรือ ที่ต้องทนเจ็บช้ำมาตลอดสิบปี 

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel