7 เลิกคิดสักที
ดั่งร้ายรักมาเฟียร้าย
ตอนที่7
เลิกคิดสักที
คฤหาสน์ตระกูลซือ
"ไอ้คาร์ลมันบินกลับมาแล้วเหรอ?"จางเหว่ยเอ่ยถามกับลูกน้องคนสนิทอย่างเจาเมื่อเจาได้มารายงานว่าคาร์ลบินกลับมาจากประเทศไทยแล้ว
จางเหว่ยหรือซือ จางเหว่ยเป็นผู้นำมาเฟียแห่งตระกูลซือ ตระกูลซือของเขากับตระกูลเหยาเราทั้งสองตระกูลไม่ค่อยจะลงรอยกันหรือเรียกง่ายๆว่าเป็นศัตรูกัน ตระกูลซือและตระกูลเหยาทั้งสองตระกูลเป็นศัตรูกันมานานตั้งแต่สมัยรุ่นทวดจนมาถึงรุ่นเหลนอย่างพวกเขา ถ้ามีตระกูลซือที่ไหนที่นั่นต้องไม่มีตระกูลเหยา
"ครับนาย"เจาพยักหน้า
จางเหว่ยสั่งให้คนของเขาค่อยติดตามดูความเคลื่อนไหวของคาร์ลตลอดเวลาเพื่อจะได้มีโอกาสที่จะกำจัดคาร์ลทิ้งไปถ้าคาร์ลตายไปก็จะไม่มีผู้นำตระกูลเหยาและตระกูลซือของเขาก็จะขึ้นมาเป็นใหญ่แทนตระกูลเหยา
"มันบินไปไทยทำไม?"จางเหว่ยถาม
"คนของเรารายงานมาว่าคุณคาร์ลบินไปไทยเพื่อไปดูบริษัทที่ตั้งอยู่ที่ประเทศไทยครับ"
"งั้นเหรอ?"
"ครับนาย...แต่มีอีกเรื่องคนของเรารายงานมาว่าที่คุณคาร์ลบินไปประเทศไทยไม่ใช่แค่ไปดูบริษัทอย่างเดียวแต่ตามล่าคนทรยศด้วยครับ"เจาเอ่ยรายงานในเรื่องที่ได้รู้มา
"คนทรยศใครกันที่กล้าทรยศมัน?"จางเหว่ยเอ่ยถามด้วยความอยากรู้
"เฟิงอี้กับเจียอิ่งครับเฟิงอี้เป็นลูกพี่ลูกน้องของคุณคาร์ลส่วนเจียอิ่งเป็นผู้หญิงที่คุณคาร์ลเลี้ยงเอาไว้ ทั้งสองคนทรยศแอบมีความสัมพันธ์ ลึกซึ้งกันลับหลังคุณคาร์ลแถมคุณเฟิงอี้ยังขโมยข้อมูลในบริษัทไปขายและยักยอกเงินในบริษัทไปด้วยและทั้งสองคนก็หนีไปยังประเทศไทย"
"แล้วอย่างไรต่อ?"
"คนของเราบอกว่าคุณคาร์ลฆ่าคุณเฟิงอี้ทิ้งครับส่วนผู้หญิงก็ส่งกลับอยู่ในซ่องโสเภณีเช่นเดิม"
"ชีวิตมันช่างน่าสมเพชจริงๆแม้แต่ญาติแท้ของมันยังคิดทรยศ"จางเหว่ยหัวเราะออกมาอย่างเย้ยหยันที่รอบตัวคาร์ลมีแต่คนทรยศ
"เจา"
"ครับนาย"
"ให้คนของเราจับตาดูมันไว้ถ้ามีโอกาสก็ฆ่ามันได้เลยเข้าใจไหม?"
"ได้ครับนาย"เจาพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ
ประเทศไทย
สองอาทิตย์ต่อมา
"ยัยหนูนาทำอะไรฉันเห็นเธอเอาแต่นั่งกดโทรศัพท์จนไม่ยอมกินก๋วยเตี๋ยวในถ้วยสักทีจนเส้นเล็กมันอึดเต็มถ้วยไปหมดแล้ว"หลินหลินเอ่ยถามอย่างสงสัยเมื่อหนูนาเอาแต่กดโทรศัพท์ในขณะที่พวกเรานั่งทานข้าวกันอยู่ในศูนย์อาหารของมหาวิทยาลัย
"เธอหาอะไรของเธอหนูนา?"ลูกแก้วที่นั่งอยู่ก็เอ่ยถามขึ้นด้วยอีกคน
"ก็หาข่าวอยู่นะสิ"หนูนาบอกแต่ตายังก้มอยู่ที่โทรศัพท์ไม่ยอมวางตา
"ข่าว/ข่าว"หลินหลินกับลูกแก้วพูดขึ้นมาพร้อมกันและหันหน้ามามองกันอย่างอัตโนมัติ
"ข่าวอะไรหนูนา?"ลูกแก้วถาม
"นั่นสิข่าวอะไรหนูนามันถึงทำให้เธอไม่ยอมกินสักที?"หลินหลินถามด้วยอีกคน
"ก็ข่าวของผู้ชายที่ฉันเล่าให้ฟังไง"หนูนามองซ้ายมองขวาและพูดกับเพื่อนเบาๆไม่อยากให้ใครได้ยิน
"หมายถึงผู้ชายที่โดนยิงตายต่อหน้าเถอะน่ะเหรอ?"หลินหลินถาม
"อือ"หนูนาพยักหน้า
"แล้วเธอจะหาข่าวเขาไปทำไมหนูนา?"ลูกแก้วถามอย่างไม่เข้าใจ
"ฉันก็แค่สงสัยคนโดนยิงตายแต่กลับไม่มีข่าวว่าเจอหรืออะไรออกมาเลยทุกอย่างมันเงียบเกินไป"หนูนาพูดขึ้นด้วยสีหน้าที่เป็นกังวล
"เออนั่นน่ะสิทำไมถึงไม่มีข่าวออกมาเลยคนตายเลยนะ"หลินหลินเองก็สงสัย
"ฉันว่านะที่ไม่มีข่าวออกมาก็เพราะว่าคนที่ชื่อคาร์ลอะไรนั่นคงจะต้องเป็นคนที่มีอำนาจมากแน่ๆข่าวถึงได้เงียบแต่ถึงข่าวจะดังขึ้นมาก็จับมือใครดมไม่ได้หรอกนะ"ลูกแก้วบอก
"ตำรวจบ้านเราก็เก่งอยู่นะยัยลูกแก้วอย่างไงก็ถ้ามีข่าวออกต้องจำคนที่ชื่อคาร์ลได้แน่นอน"หลินหลินบอก
"ไม่มีทาง เธอลืมแล้วเหรอที่หนูนาเคยบอกว่าเขาไม่ใช่คนไทยฉันว่าป่านนี้เขาคงบินหนีกลับไปที่ประเทศตัวเองแล้วมั่ง"ลูกแก้วพูดขึ้นทำให้หลินหลินกับหนูนาพยักหน้ากันอย่างเห็นด้วย
"อาจจะเป็นไปได้อย่างที่ยัยลูกแก้วพูดนะหนูนาฉันว่าเขาบินกลับไปประเทศไปแล้วล่ะแต่ช่างเถอะยัยหนูนาเลิกเป็นกังวลสักทีเรื่องมันก็ผ่านมาแล้ว"หลินหลินเอ่ยบอกให้เบาใจ
"ใช่หลินหลินพูดถูกเธอเลิกคิดเลิกสนใจได้แล้ว"ลูกแก้วเสริมขึ้นเธอไม่อยากให้เพื่อมานั่งคิดมาก
"อือก็ได้"หนูนาพยักหน้าก่อนที่จะเก็บโทรศัพท์มือถือลงกระเป๋าและก้มหน้าทานก๋วยเตี๋ยวตรงหน้าต่อ ก็อย่างที่เพื่อนเธอบอกเธอควรเลิกสนใจเรื่องนี้สักที
ตอนเย็น
"แน่ใจนะหนูนาว่านอนคนเดียวได้แล้ว?"หลินหลินเอ่ยถามเมื่อเดินมาที่ลานจอดรถของคณะพร้อมกับหนูนาส่วนลูกแก้วแยกตัวกลับไปก่อนแล้ว
อยู่ๆหนูนาก็บอกว่าจะกลับไปนอนที่คอนโดของตัวเองแล้วหลังจากที่นอนคอนโดของหลินหลินมาสองอาทิตย์เต็ม
"อือแน่ใจฉันอยู่คอนโดเธอนานเกินไปแล้วเกรงใจ"หนูนาเอ่ยบอกอย่างรู้สึกเกรงใจเพื่อนสนิท
"คิดมากเกินไปแล้วยัยหนูนา...ว่าแต่คิดดีแล้วนะว่าจะกลับไปนอนที่คอนโดตัวเอง"หลินหลินถามย้ำอีกครั้ง
"แน่ใจฉันโอเคขึ้นแล้ว"
"แน่นะ"
"แน่สิ"หนูนาพยักหน้าและยิ้มออกมา
"โอเคถ้างั้นก็ตามใจแต่ถัามีอะไรก็รีบโทรหาฉันด่วนเลยนะเข้าใจไหม?"หลินหลินเอ่ยบอกอย่างเป็นห่วง
"เข้าใจแล้วค่ะคุณแม่"หนูนาพูดจบก็หัวเราะออกมาก
"ดีมากถ้างั้นก็แยกย้ายกลับกันเถอะ"หลินหลินเอ่ยบอกหนูนาจึงพยักหน้ารับจากนั้นทั้งสองคนก็แยกย้ายกันกลับคอนโด
คอนโดหนูนา
"คิดถึงห้องตัวเองชะมัดเลย"หนูนาเดินเข้ามาในคอนโดของตัวเองหลังจากที่ไม่ได้กลับมาสองอาทิตย์เธอคิดถึงห้องของตัวเองสุดๆไปเลยก่อนจะเดินไปนั่งที่โซฟากลางห้อง
ติ๊ง
เสียงแจ้งเตือนจากแอปพลิเคชันไลน์ดังขึ้นหนูนาจึงรีบล้วงมือเข้าไปหยิบโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋าสะพายออกมาก่อนจะยิ้มออกมาเมื่อหลินหลินกับลูกแก้วส่งไลน์มาในกลุ่มแชต
(หลินหลิน : "ถึงห้องหรือยังยัยหนูท่อ?)
(หลินหลิน : "โอเคไหมอยู่คนเดียวได้หรือเปล่า?)
(ลูกแก้ว : "หนูนากลับไปคอนโดแล้วเหรอโอเคแล้วเหรอถึงกลับไปอยู่คนเดียว?)
หนูนา : "ฉันโอเคแล้วขอบใจเพื่อนรักทั้งสองคนมากนะที่เป็นห่วงแต่ฉันอยู่ได้ไม่ต้องห่วง"
(หลินหลิน : "ถ้าไม่โอเครีบโทรหาฉันเลยนะเข้าใจไหมยัยหนูท่อ")
(ลูกแก้ว : "ถ้ายังกลัวอยู่มานอนบ้านพี่เจ้าสมุทรก่อนก็ได้นะที่บ้านมีห้องเยอะเลย)
หนูนา : "ไม่เป็นไรฉันอยู่ได้ฉันโอเคอย่าหวงเลยนะ"
(หลินหลิน : "แน่นะ")
(ลูกแก้ว : "แน่ใจนะว่าโอเค")
หนูนา : "แน่ที่สุดจ้ะถ้างั้นฉันไปอาบน้ำก่อนนะไว้คุยกัน"
หนูนากดตอบทั้งสองคนเสร็จก็กดปิดหน้าจอโทรศัพท์พร้อมกับยิ้มออกมาเล็กน้อยให้กับความเป็นห่วงของเพื่อนตัวเอง
"เลิกคิดสักทีหนูนาเลิกๆๆเดี๋ยวนี้"หนูหน้าสะบัดไร้ศีรษะไปมาเมื่ออยู่ๆก็นึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น
เธอต้องอย่าคิดห้ามคิดพอๆไม่คิดแล้วก่อนที่จะลุกขึ้นไปอาบน้ำและเตรียมตัวพักผ่อน