บทย่อ
ยามเกลียด...เกลียดเข้าไส้ ถึงเวลารักเมื่อใด...คำว่าหมดทั้งใจยังน้อยไป ......... “โอ๊ย!” เสียงร้องเจ็บดังขึ้น ปรียาพรถูกเหวี่ยงไปบนพื้นห้อง “เธอกล้ามากนะที่สวมเขาให้ฉัน ฉันอยากรู้เหลือเกินว่าเธอต้องการเงินอะไรหนักหนาถึงกลับไปรับงาน เงินที่เธอสูบไปจากแม่กับยายของฉันไม่พอหรือไง หรือว่าทนความร่านของตัวเองไม่ไหว ผู้หญิงอย่างเธอหิวเงินไม่พอ ยังหิวผู้ชายอีก ทุเรศที่สุด ฉันไม่น่าแต่งงานอีตัวอย่างเธอเลย” “เพี้ยะ” ความอดทนของมนุษย์มีขีดจำกัด ปรียาพรเป็นปุถุชนธรรมดาระงับความโกรธไม่ได้ ยิ่งเขามาดูถูกซ้ำๆ อย่างนี้ เธอจะไม่ทนอีกต่อไป ฟาดฝ่ามือลงบนแก้มยุรนันท์ แม้กลัวเขา แต่เธอก็ทำ “อย่ามาดูถูกกันให้มากนะ ถ้าฉันไม่ดี ฉันมันร่าน หิวผู้ชาย ไม่คู่ควรกับคุณ งั้นเราเลิกกัน พรุ่งนี้ไปหย่ากันที่อำเภอ แล้วต่างคนต่างไป จะได้ไม่ต้องทนอึดอัดกันอีก” ปรียาพรคิดว่าทางดีที่สุด ทว่ายุรนันท์ไม่คิดเช่นนั้น เขาคิดว่าเธอมีเป้าหมายใหม่ ถึงได้พูดขอหย่า กำแพงแห่งความโกรธที่ว่าสูงแล้ว ตอนนี้สูงมากขึ้นหลายเท่า ใบหน้าเขาแดงก่ำ ดวงตาลุกโชนด้วยแรงแห่งโทสะ มองปรียาพรอย่างดุดัน ก้าวเดินมาหาภรรยาด้วยท่าทางคุกคาม “เธอกับครอบครัวตั้งใจเข้ามากอบโกยเงินทองจากฉัน จัดฉากเรื่องคืนนั้น ทั้งที่เธอก็รู้เต็มอกว่าเราไม่มีอะไรกัน แต่เธอก็ไม่พูดแย้ง พ่อกับแม่เธอก็เอาแต่พูดว่าฉันต้องรับผิดชอบ ทั้งที่รู้เต็มอกว่า ผู้หญิงเน่าๆ อย่างเธอไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบ นอนด้วยครั้งสองครั้งคงไม่สึกหรอเพราะผ่านงานมาโชกโชน ซึ่งเธอก็รู้ว่าอะไรเป็นอะไร แล้วจะมาพูดว่าฉันดูถูกเธอได้ยังไงห๊า” ยุรนันท์ตะเบ็งเสียงจนเธอตกใจ “ถ้าฉันไม่ดี เราก็เลิกกัน หย่ากันไปเลย” ปรียาพรคิดหาหนทางไม่ออกนอกจากวิธีนี้ เขาจะได้ไม่ต้องทนอยู่กับภรรยาที่คิดว่าเป็นอดีตโสเภณี เธอเองก็จะได้ไม่ต้องเจ็บปวดซ้ำซาก “หย่าเหรอ” เขาทวนคำเสียงเย็น “ฉันหย่าแน่ เรื่องอื่นฉันพอยอมรับได้ แต่เรื่องสวมเขานี่ไม่ไหว แต่ก่อนหย่าฉันอยากลองสักครั้ง อยากรู้ว่าทำไมมีแต่ผู้ชายอยากดมดอกไม้เน่าๆ กันนัก แค่ฉันเดินผ่านก็จะอ้วกแล้ว ดอกไม้ไร้กลิ่นหอมอย่างเธอคงไม่ทำให้ฉันมีความสุขหรอก แต่ฉันก็อยากลอง” ยุรนันท์จ้องมองปรียาพรไม่วางตา นัยน์ตาเขามีพลังแห่งความโกรธมิเปลี่ยนแปลง ปรียาพรตกใจ หัวใจเธอเต้นแรงมาก คำพูดเขาไม่ต้องแปลความหมาย ยิ่งทำให้ความหวาดกลัวอาบทั่วจิตใจ อยากอธิบายให้ยุรนันท์เข้าใจ แต่ด้วยอารมณ์เขาตอนนี้พูดมากแค่ไหนก็คงไม่ฟัง ไม่เข้าไปในหู ทางเดียวคือต้องเอาตัวรอดออกจากห้องนี้ ทว่าความคิดเธอช้าไป...
1
“ไม่!...ยังไงผมก็ไม่แต่ง หัวเด็ดตีนขาดยังไงก็ไม่แต่งครับ”
ยุรนันท์ยืนกรานเสียงหนักแน่น สีหน้าจริงจัง เมื่อได้ยินความต้องการของคุณหญิงรื่นฤดี ผู้เป็นมารดาและยังมีนวลผ่อง ยายที่เคารพรัก รวมถึงแนวร่วมอีกหนึ่งคนคือ ประภาวรรณ น้องสาว
“แกต้องแต่ง แกต้องรับผิดชอบหนูอุ้ม รับผิดชอบในเรื่องที่แกทำลงไป” คนเป็นแม่ไม่ยอมแพ้ บอกกลับไปทันที
“ผมไม่ได้ทำอะไรเลย ทำไมคุณแม่ไม่เชื่อผม ถ้าผมทำจริงๆ ต่อให้เมามากแค่ไหนก็ต้องรู้ตัวบ้าง แต่นี่ผมไม่รู้ตัวเลย ไม่รู้สึกนิดเดียว” ยุรนันท์ยืนยันความบริสุทธิ์ของตนเอง “ผมว่านะ ผมโดนอุ้มมอมเหล้าแล้วแบล็กเมล์ผมแน่ๆ คุณแม่ คุณยายไม่รู้หรอกว่า อุ้มเป็นยังไง ร้ายแค่ไหน เธอไม่มีอะไรดีด้วยซ้ำไปครับ”
“ยายไม่รู้หรอกว่าอุ้มเป็นยังไง ร้ายแค่ไหน แต่ที่รู้คือ ฉันมีหลานชั่ว นิสัยไม่ดี ไม่มีความรับผิดชอบ ไม่มีความเป็นลูกผู้ชาย ยายไม่คิดเลยว่าหลานชายที่เลี้ยงมากับมือจะเป็นอย่างนี้ ทำให้ยายเสียใจ ทำให้ยายร้องไห้ ทำให้ยายผิดหวัง ฮือ...เสียใจจริงๆ” คุณยายนวลผ่องร้องไห้เสียใจยกใหญ่
“โห...พี่ชายหยกนี่ยอดคน ยอดชายจริงๆ นอกจากจะเป็นผู้ชายที่ไม่มีความรับผิดชอบแล้ว ยังใจร้าย ใจดำทำคุณยายร้องไห้อีก พี่เฮิร์ปไม่สงสารคุณยายบ้างหรือไงคะ ทนได้เหรอที่เห็นคุณยายร้องไห้ ฮือ...หยกไม่คิดเลยว่า จะมีพี่ชายเป็นคนแบบนี้ โถ...คุณยายของหยก”
ประภาวรรณกอดคนเป็นยายแล้วร้องไห้ ยุรนันท์เห็นแล้วอยากเอาหัวโหม่งพื้น
“ฮือ...แม่ก็ไม่คิดว่าจะมีลูกชายเป็นคนแบบนี้ ที่เคยหวังไว้ไม่ได้ตามหวังเลย เสียใจจริงๆ ผิดหวังสุดๆ ฮือ...อยากจะตายตามคุณพี่ไปจริงๆ จะได้พ้นๆ ไปจากลูกชายเลวๆ ฮือ...”
รื่นฤดีโศการ่วมด้วย ยุรนันท์ถึงกับถอนหายใจแรงๆ ตอนนี้ไม่ใช่แค่อยากเอาหัวโหม่งพื้น แต่อยากเอาหัวโขกพื้นหลายๆ ครั้งมากกว่า ไม่คิดว่าตนเองจะตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้
‘นั่น...เอาเข้าไป แท็กทีมกันเลย’
“โอเคครับ แต่งก็แต่ง” ทันทีที่ได้ยินคำพูดยุรนันท์ คนกำลังร้องไห้ทั้งสามคนเงียบเสียง หันมองต้นเสียงเป็นตาเดียว
“จริงนะ ไม่โกหกนะ” รื่นฤดีถามลูกชาย
“จริงครับ” คนตอบมีทีท่าเหนื่อยใจอย่างเห็นได้ชัด
“คุณแม่ขา ฤดีว่าเราไปหาฤกษ์ยามกันดีกว่าค่ะ”
น้ำเสียงและสีหน้ารื่นฤดีต่างกับเมื่อครู่ชัดเจน เช่นเดียวกันกับนวลผ่องและประภาวรรณ
“ไปสิไป แม่รอวันนี้มานานแล้ว คอยดูนะจะจัดงานให้ใหญ่โตมโหฬารเลย” นวลผ่องยิ้มกว้าง ดีใจที่หลายชายจะมีครอบครัว
สองแม่ลูกยิ่งกว่ากิ่งก่าเปลี่ยนสี ปรับโหมดอารมณ์ได้เร็วมาก รวมถึงประภาวรรณด้วย
“คุณแม่ขา คุณยายขา หยกจะจองตัวช่างแต่งหน้าไว้รอเลยนะคะ คนนี้คิวแน่นมาก แต่งหน้าเลิศค่ะ”
“จองเลย เรื่องค่าจ้างไม่อั้น แม่พร้อมจ่าย”
“จัดงานใหญ่นะ โรงแรมอะไรดีนะ คิดก่อน” นวลผ่องทำท่าคิด แต่ก็ต้องถูกดักคอจากหลานชาย
“จัดเล็กๆ ก็พอมั้งครับ เวลาเลิกกันจะได้ไม่คิดเสียดายเงิน”
ยุรนันท์พูดแทรก เขาไม่คิดว่า ชีวิตคู่ระหว่างตนกับปรียาพรจะจีรังยั่งยืน แค่เดือนเดียวสำหรับเขาก็มากพอ
“ถ้าแกเลิกกับอุ้มวันไหน วันนั้นสมบัติของฉันจะเป็นของอุ้มทันที ส่วนแกจะไม่ได้อะไรจากฉันเลยสักบาท” นวลผ่องสวนหลานชาย ใบหน้าบ่งบอกถึงความจริงจัง “แต่งแล้วห้ามเลิก จำใส่หัวไว้”
ยุรนันท์ถึงกับทำหน้าเหวอ เขาอยากรู้เหลือเกินว่า ปรียาพรมีดีอะไร หรือมีเวทย์มนต์ร่ายคาถาใส่นวลผ่อง รื่นฤดีและประภาวรรณ ทำให้ทั้งสามหลงใหลเช่นนี้
เรื่องนี้ต้องขยาย...เขาต้องรู้เรื่องที่ตนสงสัยให้ได้
แล้วเจอกันปรียาพร...อยากเป็นเมียยุรนันท์นักล่ะก็
ยุรนันท์จัดให้...
ไร่พันลภ
ทุกวันอาทิตย์คือวันหยุดของคนงานในไร่ ที่ส่วนมากจะพักผ่อนอยู่ในห้องพักที่ทางเจ้าของไร่จัดเตรียมไว้ให้ บ้างก็มานั่งคุยกัน ทำอาหารง่ายๆ กินกันตรงกลางลานกว้าง แต่สำหรับปรียาพร แม้ว่าวันนี้ไม่ต้องทำงานในไร่ ทว่างานบ้านเธอต้องทำคนเดียวทั้งหมด
เริ่มจากจัดเตรียมอาหารเช้าให้ทุกคนในบ้าน เนื่องจากวันหยุดจะไม่มีการเลี้ยงอาหารคนงาน ต่อจากนั้นก็ไปซักผ้ากองโตของสมาชิกในครอบครัวด้วยมือ หลังจากใช้เวลาในการซักผ้านานร่วมสองชั่วโมง ปรียาพรมากวาดบ้านถูบ้านทั้งสองชั้นจนสะอาดเอี่ยม งานต่อไปที่ทำคือ ล้างห้องน้ำ
ขณะที่ปรียาพรเหน็ดเหนื่อยกับงานบ้าน คนในบ้านกลับนั่งๆ นอนๆ ดูทีวีและเล่นมือถืออย่างสบายใจ ไม่คิดจะช่วยเธอทำอะไรสักอย่าง ได้แต่มองและทำเป็นไม่สนใจเช่นเคย คนในบ้านที่ว่านี้คือจำเริญและสายใจบิดามารดาบุญธรรม อีกคนคือปรียารัตน์หรืออุ๋ม ลูกสาวในอุทรของจำเริญกับสายใจ
ใช่แล้ว...ปรียาพรไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดกับครอบครัวนี้ เธอจึงถูกปฏิบัติเยี่ยงทาสมากกว่าเด็กที่รับเลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก ความรัก ความเอ็นดูแลความเมตตาที่มีให้ปรียาพรหมดไป ตั้งแต่จำเริญกับสายใจรู้ว่า กำลังมีทายาทเป็นของตัวเอง
ไม่แปลกที่ปรียาพรจะเหมาทำงานบ้านคนเดียว โดยไม่มีใครคิดช่วย ยิ่งปรียารัตน์ยิ่งแล้วใหญ่ นอกจากไม่คิดช่วยยังทำให้เหนื่อยซ้ำสอง ประมาณคำพูดที่ว่ามือไม่พายเอาเท้าราน้ำ แกล้งทำน้ำหกบ้าง นอนขวางเพื่อไม่ให้ทำความสะอาดบ้านได้สะดวก เพราะหากบ้านไม่สะอาดถูกใจสายใจ ปรียาพรก็จะโดนดุโดนว่า คนที่นั่งยิ้มเมื่อเห็นพี่สาวนอกสายเลือดโดนตำหนิคือปรียารัตน์