4
23.30 น.
ปรินทร์เข้ามาในห้องนอนหลังจากออกไปดื่มคลายเครียดกับยุรนันท์และดลภพในคลับประจำ ภายในห้องมีเพียงแสงจากโคมไฟหัวเตียงที่เปิดอยู่ สายตาปรินทร์จับจ้องร่างพราวฟ้าที่นอนหลับบนเตียง เขายังจำวันที่พบเธอครั้งแรกได้ดี วันนั้นพราวฟ้าเข้ามาในห้องทำงานเขาพร้อมกับอุดม ผู้จัดการแผนกบัญชี ทั้งคู่นำบัญชีที่เป็นพิรุธของฝ่ายจัดซื้อมาให้ดู ซึ่งคนที่ตรวจสอบเจอคือพราวฟ้า
พราวฟ้าทำให้ปรินทร์ทึ่งในความสามารถ เธอไม่ได้เรียนจบบัญชีโดยตรง วุฒิการศึกษาที่มาสมัครงานคือมัธยมศึกษาปีที่หก แต่รู้เรื่องบัญชีดีมาก เก่งกว่าพนักงานบัญชีหลายคนในบริษัทเสียอีก ที่เธอเก่งและมีความรู้ด้านนี้เป็นเพราะ พราวฟ้าเคยทำงานในบริษัทรับทำบัญชีครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องบัญชีและภาษี เจ้าของบริษัทเป็นนักบัญชีมืออาชีพ มีความสามารถมากคนหนึ่งเป็นครูสอนให้พราวฟ้ารู้งานเรื่องบัญชี พราวฟ้าทำบัญชีได้ทุกอย่าง รวมถึงเรื่องภาษีก็เก่งไม่น้อยหน้าใคร
ความที่พราวฟ้าต้องจัดการเรื่องการทุจริตร่วมกับปรินทร์ ทำให้ทั้งสองคนได้ใกล้ชิดกัน ปรินทร์ที่คิดว่าคงรักใครไม่ได้อีก กลับรักพราวฟ้าอย่างง่ายดาย โดยหาเหตุผลไม่ได้ว่าทำไม อีกสามเดือนต่อมาเขาให้เธอลาออกจากงาน แล้วพามาอยู่บ้านในฐานะภรรยา ตำแหน่งที่ปุริมกับอรุณไม่ต้องการให้พราวฟ้าครอบครอง แต่ก็ต้องจำยอมอย่างไม่เต็มใจ
ตลอดระยะเวลาเกือบสามปี พราวฟ้าเป็นเมียที่ดี เธอไม่เรียกร้องอะไรจากปรินทร์สักอย่าง ไม่ว่าจะเป็นแก้วแหวนเงินทอง ของใช้ราคาแพงที่เขาหาซื้อให้ได้โดยง่าย แค่เพียงเอ่ยปาก แต่ก็ไม่ เธอไม่ต้องการสิ่งใดนอกจากความรักของเขา
อีกหนึ่งเรื่องที่ปรินทร์นับถือพราวฟ้า นั่นคือความอดทน เขารู้ดีว่าคนในบ้านไม่ชอบหน้าพราวฟ้า ไม่อยากให้เป็นเมียเขา จึงกลั่นแกล้งและพูดจาไม่ดีใส่ตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาอยู่บ้านหลังนี้ จนกระทั่งวันนี้ พราวฟ้ายังคงเจอเหตุการณ์เดิมๆ ทุกเมื่อเชื่อวัน ทว่าเธอกลับไม่เคยบอกกล่าวให้เขาฟัง เพราะไม่อยากให้ตนไม่สบายใจ พราวฟ้าทำราวกับว่า ไม่เคยมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นกับตัวเอง เป็นเขาที่ไม่ค่อยใส่ใจความรู้สึกของภรรยามากนัก ไม่เคยถาม ไม่เคยปลอบ ได้แต่มองและปล่อยผ่าน
ร่างสูงใหญ่เบี่ยงเท้าเดินไปยังห้องน้ำ เป็นดั่งเช่นทุกครั้งที่เขาจะเห็นยาสีฟันถูกบีบบนแปรงสีฟัน ส่วนชุดนอนเธอแขวนไว้ตรงตู้เสื้อผ้า บนเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าจะมีผ้าขนูสีขาวขนาดกลางสำหรับเช็ดศีรษะพับอย่างเป็นระเบียบวางไว้ เผื่อปรินทร์สระผมจะได้ใช้ผ้าผืนนี้เช็ดหัว พราวฟ้าทำหน้าที่ภรรยาได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง
หลังจากอาบน้ำเสร็จปรินทร์นุ่งผ้าขนหนูผืนเดียวออกมา เขามานั่งริมเตียงใช้ผ้าขนหนูเช็ดหัว ก่อนหันไปมองโต๊ะหัวเตียงที่มีแก้วน้ำที่มีน้ำอยู่เกือบเต็ม มีฝาปิดกันไม่ให้ฝุ่นละอองเข้าไปด้านใน ใกล้กันมีแก้วใบเล็กที่มียาวิตามินสามเม็ดอยู่ในนั้น
ใช่แล้ว...เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่พราวฟ้าจัดเตรียมให้ปรินทร์กินทุกคืนก่อนนอน
ปรินทร์กินยาทั้งสามเม็ด ใช้ผ้าขนหนูเช็ดหัวสามสี่ครั้ง ก่อนวางมันลงใกล้กับแก้วยาว่างเปล่า เขาไม่ลุกขึ้นไปแต่งตัว แต่หันกลับมามองคนกำลังนอนหลับ มือแข็งแรงยกผ้าห่มขึ้นสูง สอดตัวเข้าไปในผ้าห่มผืนหนา ขยับตัวนอนซ้อนแผ่นหลังภรรยา ลำแขนพาดเอวคอดกิ่วแล้วรั้งร่างเธอเข้าหาตัว
“ทราย” ปรินทร์ปลุกพราวฟ้าด้วยเสียง และริมฝีปากคลอเคลียตรงซอกคอ พราวฟ้างัวเงียตื่น เอี้ยวหน้ามองสามี
“พี่โดม” เธอเรียกชื่อเขา ก่อนพลิกตัวมาทางเขาแล้วกอดตอบ
“พี่มีเรื่องจะคุยด้วย”
“พี่โดมจะคุยเรื่องอะไรคะ”
“พี่จะบอกทรายว่า พี่ไม่ได้คิดอะไรกับเปิ้ลมากไปกว่าเพื่อน ตอนนี้พี่มีทรายเป็นเมีย พี่รักเมียพี่ และจะมีทรายคนเดียวไปตลอดทั้งชีวิต ทรายต้องเชื่อพี่นะ อย่าเชื่อใคร และอย่าเชื่อในภาพที่เห็น” ณ ตอนนี้เขารู้สึกตามวาจา พราวฟ้ายิ้ม กระเถิบตัวเข้าหาร่างหนากึ่งเปลือยของสามี
“ทรายเชื่อพี่โดมค่ะ ทรายรักพี่โอม”
แม้ว่าหลายครั้งและหลายภาพที่เห็น บ่งบอกถึงความสนิทสนมเกินเพื่อนระหว่างปรินทร์กับทิวาทิพย์ ทว่าเธอกลับเชื่อคำพูดเขาตอนนี้สนิทใจ ไม่ใช่เพราะโง่หรือไม่ยอมรับความจริง แต่เป็นเพราะความรักล้วนๆ เมื่อเขาบอกว่าไม่มีอะไรก็ตามนั้น
“พรุ่งนี้เราไปห้างกันดีไหม พี่จะพาทรายไปซื้อเสื้อผ้าสวยๆ หลายๆ ชุดเลย กระเป๋าสักใบสองใบ เสร็จแล้วก็ไปหาอะไรอร่อยๆ กินกัน จากนั้นก็ไปดูหนัง” นานหลายเดือนแล้วที่ปรินทร์กับพราวฟ้าไม่ได้ไปไหนมาไหนด้วยกัน เมื่อเขากล่าวชวน มีหรือสาวหน้าตาน่ารัก เจ้าของรอยยิ้มหวานจะไม่ตกปากรับคำ
“ดีค่ะ ทรายอยากกินสุกี้ค่ะ”
“ก่อนพี่จะพาทรายไปกินสุกี้ พี่ขอกินทรายก่อนนะ...อยากกินจนตัวสั่นแล้วรู้ไหม”
ใบหน้าพราวฟ้ายังคงระบายด้วยรอยยิ้ม ความรู้สึกที่เกิดขึ้นช่วงเย็นวันนี้ ไม่ว่าเป็นความเสียใจ น้อยใจและเจ็บปวด เวลานี้หายเป็นปลิดทิ้ง ราวกับว่าเธอโยนออกจากจิตใจไปทั้งหมด แทนที่ด้วยคำรัก หวาน และคำมั่นสัญญาของปรินทร์
พราวฟ้าเผยอปากรับจุมพิตของสามี จูบที่ทำให้สองร่างสะท้านไปทั้งตัว จูบที่ปรินทร์รู้ดีว่าหวานและหอมมากเพียงใด ทุกครั้งที่เขาจุมพิตพราวฟ้า จะรู้สึกราวกับว่าโบยบินอยู่บนท้องนภาอันสดใส หัวใจเขาเอิบอิ่ม เกิดความซาบซ่านขึ้นมาทันใด เธอทำให้ปรินทร์กระชุ่มกระชวยกลับไปเป็นวัยรุ่นหัดสวาท
ท่วงทำนองแห่งรักดำเนินไปอย่างเร่าร้อน พราวฟ้าเป็นสาวอ่อนหวาน อ่อนโยนและขี้อาย แต่เมื่อร่างเปล่าเปลือยอยู่ภายใต้ร่างหนาของสามี เธอกลายเป็นสาวเร่าร้อน ยกสะโพกรับแรงกำลังของปรินทร์ได้อย่างร้ายกาจ ก่อนเป็นฝ่ายคุมเกมอยู่เหนือร่างหนาตามที่เขาต้องการ
เสียงครางกระเส่าบ่งบอกถึงความหฤหรรษ์จากเกมรัก พร้อมกันนี้หัวใจสองดวงฟูฟ่องรับความสุขที่พุ่งใส่ทั้งคู่ราวกับสายน้ำหลาก มันมากมายอิ่มไปทั้งดวงใจ
หลังจากความสุขผ่านพ้นไป ปรินทร์ใช้ลำแขนตนให้พราวฟ้าหนุนต่างหมอน ตะคองกอดเธอไว้ไม่ห่าง เขาจูบหน้าผากกลมเกลี้ยงของภรรยาสองครั้ง กล่าวคำราตรีสวัสดิ์ ก่อนหลับตาลงแล้วหลับไปพร้อมกับเธอ