บทที่ 2 แฝดพี่ตระกูลมอโร 1.1
“ไม่เป็นไรครับ” สาวๆ สวยๆ อย่างนี้เฟรเดอริคให้อภัยได้เสมอ
“ขอโทษอีกครั้งนะคะ พอดีฉันลืมปิดกระเป๋า ของมันก็เลยตกใส่หัวของคุณ”
หญิงสาวเอ่ยบอกขณะที่ทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ข้างชายหนุ่มต่างชาติที่นั่งจ้องมองเธอตาไม่กะพริบ ตั้งใจจะหยิบไอพอดของตัวเองออกจากหน้าตักของเขาความคิดที่จะหยิบหยุดลงทันควันเมื่อเห็นว่าของที่ตัวเองต้องการหยิบตกลงไปอยู่ระหว่างขาหนีบพอดี มันใกล้กับใจกลางร่างกายของเขาเหลือเกิน
“ขอโทษนะคะ รบกวนช่วยหยิบไอพอดให้ฉันได้มั้ยคะ”
คำพูดของพลอยพัตราเรียกสติของเขาให้คืนกลับมา ก้มใบหน้ามองไอพอดที่ตกอยู่ตรงระหว่างขาหนีบ มือใหญ่หยิบมันขึ้นมาก่อนจะส่งให้หญิงสาวแสนสวยข้างกาย
“ขอบคุณค่ะ”
คำขอบคุณเปล่งออกมาจากปากของเธอเบาๆ เมื่อเขาวางไอพอดลงบน ฝ่ามือนุ่มที่แบรอรับเครื่องเล่นเพลง สีหน้าที่ยิ้มแย้มของพลอยพัตราเริ่มเปลี่ยนเป็นบึ้งตึง เนื่องจากมือใหญ่อีกข้างซ้อนทับด้านล่างของฝ่ามือ ตอนนี้หญิงสาวจึงถูกชายหนุ่มรูปงามจับมือเอาไว้ไม่ยอมปล่อย เธอพยายามชักมือออกจากฝ่ามือทั้ง สองข้างของเขาที่จับไว้ไม่ยอมปล่อย ทว่ามันไม่ได้เป็นผลสำเร็จ เขากลับเพิ่มแรงน้ำหนักมือในการจับมากขึ้น
“ปล่อยมือของดิฉันด้วยค่ะ”
พลอยพัตราเอ่ยบอกอีกฝ่ายเสียงเข้ม จ้องมองใบหน้าคมหล่อด้วยสายตาที่ ไม่พอใจ เฟรเดอริคยิ้มก่อนจะปล่อยมือนุ่มแสนนุ่มของเธออย่างจำใจ
“คุณชื่ออะไรครับ”
ความเจ้าชู้ของเฟรเดอริคออกลายทันที คนที่ถูกถามไม่ตอบ หยิบหูฟังออกมา จากกระเป๋าใบเล็กของตัวเองต่อเข้ากับเครื่องไอพอด ก่อนจะเปิดเพลงด้วยระดับเสียงที่ดังที่สุด เพื่อที่จะได้ไม่ได้ยินคำพูดของเขา คนที่หน้าบึ้งตึงแทนหญิงสาวคือเฟรเดอริค เขาไม่เคยถูกฉีกหน้าอย่างนี้มาก่อนเลย ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนเพิกเฉยกับคำถามและคำพูดของเขา แต่เธอคนนี้ไม่เพียงแต่ไม่ตอบคำถามของเขา ยังเมินเฉยความหล่อขั้นเทพของเขาอีกด้วย ไม่น่าให้อภัยเป็นที่สุด ทำเช่นนี้มันหยามกันชัดๆ
“คุณชื่ออะไร?”
เฟรเดอริค ผู้ชายที่ไม่เคยยอมแพ้ผู้หญิงคนไหน กระชากหูฟังข้างซ้ายของเธอออก ก่อนจะตะโกนถามชื่อเข้าไปในส่วนรับฟังด้วยเสียงค่อนข้างดัง พลอยพัตราสะดุ้งและตกใจกับการกระทำที่ไร้มารยาทของชายหนุ่มคนนี้ คนรอบข้างทั้งลูกน้องและผู้โดยสารคนอื่นๆ ต่างหันมามองเฟรเดอริคเป็นตาเดียว ก่อนจะเบนสายตามองสาวไทยคนที่ถูกถามคำถาม สร้างความอายให้กับพลอยพัตรายิ่งนัก
“คุณจะบ้าหรือไง เสียมารยาทที่สุด”
พลอยพัตราทนไม่ไหวกับความประพฤติที่ไร้ซึ่งมารยาทและสมบัติผู้ดีของชายหนุ่ม เธอจึงสวนกลับไปก่อนจะผงะใบหน้าของตัวเองออกห่างทันที ที่ใบหน้าคมเลื่อนเข้ามาใกล้...ใกล้จนผิวแก้มของเธอสัมผัสความร้อนของลมหายใจที่เขาระบายออกมา ดวงหน้าหวานซับสีเลือดจาง หัวใจสาวเต้นแรงขึ้นมาฉับพลัน
“เธอนั่นแหละเสียมารยาท ฉันถามชื่อเธอ เธอก็ไม่ตอบ ตอบมาตั้งแต่คราวแรกที่ถามมันก็สิ้นเรื่องแล้ว”
เฟรเดอริคไม่สะทกสะท้านกับคำว่ากล่าวของพลอยพัตรา กลับย้อนคำพูดจนคนที่ฟังถึงกับอึ้ง แสดงว่าเธอผิดหรือนี่ที่ไม่ตอบคำถามของเขา ช่างเป็นผู้ชายที่แย่มาก มากที่สุดเท่าที่เธอเคยเห็นมา
“ที่ฉันไม่ตอบเพราะไม่อยากรู้จักคุณ พูดแค่นี้คงจะเข้าใจนะคะถ้าคุณฉลาดพอ”
พลอยพัตราตัวสั่นด้วยความโกรธ น้ำเสียงที่พูดออกไปจึงสั่นตามไปด้วย จ้องมองผู้ชายที่เสียมารยาทมากที่สุดในโลกเขม็ง แทนที่เขาจะสำนึกในความผิดของตัวเองและคำด่ากระทบของเธอ เปล่าเลย เขากลับยิ้มแฉ่งไม่รู้สึกกับพูดและกิริยารังเกียจที่หญิงสาวแสดงออกให้เขารับรู้
“เผอิญเหลือเกินว่าฉันโง้...โง่ ก็เลยไม่เข้าใจความหมายที่เธอพูด ว่าแต่เธอ ชื่ออะไรล่ะ?”
เฟรเดอริคพูดหน้าตาย แกล้งทำเป็นดื้อตาใส พลอยพัตราอยากจะกรีดร้องออกมาในความหน้าด้านหน้าทนของชายหนุ่มคนนี้ หญิงสาวไม่เคยเจอกับสถานการณ์อย่างนี้มาก่อนถึงกับทำอะไรไม่ถูก ความกลัวเริ่มเข้ามาครอบงำจิตใจ เพราะดูท่าทางชายหนุ่มคนนี้จะไม่ยอมเลิกราง่ายๆ
“ถ้าฉันบอกชื่อคุณ คุณจะเลิกยุ่งวุ่นวายกับฉันหรือเปล่า?” เธอต้องการคำยืนยันจากปากของเขาก่อนที่จะตอบคำถามที่เขาอยากรู้
“ใช่ เลิกยุ่งเลย” เฟรเดอริคพูดเสียงหนักแน่น แววตาจริงจัง พลอยพัตราหลงเชื่อเลยตอบคำถามที่เขาอยากรู้ออกไป
“ฉันชื่อพลอยพัตรา หวังว่าคุณคงทำตามสัญญานะ” หญิงสาวย้ำเรื่องสัญญาอีกหน
“ชื่อเรียกยากจัง ฉันเรียกเธอว่า เพตราดีกว่า เรียกง่ายกว่ากันเยอะเลย ว่าแต่เธอเป็นคนไทยเหรอ?”
เขาเดาได้ไม่อยากว่าพลอยพัตราเป็นคนไทย เพราะผิวพรรณหน้าตา สีผมรวมทั้งชื่อบ่งบอกความเป็นไทยอยู่แล้ว แต่ที่ถามออกไปเพื่อความแน่ใจมากกว่า หญิงสาวปรายตามองชายหนุ่มที่นั่งข้างๆ อย่างไม่พอใจ เธอก็บอกชื่อไปแล้วยังจะมาเซ้าซี้ถามอะไรอีก
“ใช่ ฉันเป็นคนไทย คุณไม่ต้องเอนตัวมาหาฉันมากนักหรอก ฉันเหม็นกลิ่นตัวของคุณจนจะอ้วกอยู่แล้ว”
ไม่เพียงแต่พูดเท่านั้น มือนุ่มข้างหนึ่งปิดที่จมูก อีกข้างหนึ่งผลักร่างหนาที่เอนตัวมาหาเธอให้ออกห่าง เฟรเดอริคเสียความมั่นใจในตัวเองทันทีที่ได้ยินคำพูดประโยคนี้ของเธอ เขาเลื่อนลำตัวมานั่งตรง ยกแขนข้างขวาขึ้น ใช้ปลายจมูกดมไปที่ใต้พับแขน ทำเช่นนี้กับแขนข้างซ้ายด้วย เพื่อทดสอบว่าเขามีกลิ่นตัวที่เหม็นชวนอ้วกอย่างที่เธอบอกหรือไม่ เพราะเขามั่นใจว่าน้ำหอมที่เขาใช้อยู่เป็นประจำ เป็นหัวน้ำหอมชั้นเลิศ ไม่เหม็นอย่างแน่นอน อีกอย่างน้ำหอมกลิ่นนี้สาวๆ ทั่วประเทศฝรั่งเศส ต่างลุ่มหลงในมนต์ขลังของน้ำหอมกันทุกคน แล้วมันจะเหม็นได้อย่างไร