บทที่ 6.(ทำงานใช้หนี้)
ดอกรักในมือมาร
บทที่ 6.(ทำงานใช้หนี้)
Perm Talk.
คอกม้า...
ผมมองร่างอ้อนแอ้นของไอ้ดอกรักที่กำลังใช้แปรงขัดพื้นด้ามยาวขัดถูคอกม้าด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสะใจ งานแรกของมันในวันนี้คือทำความสะอาดคอกม้า
"เฮ้ย! มึงออกแรงอีกสิวะ! ตัวอย่างกับควายแต่ออกแรงยังกับมด กลัวพื้นมันเจ็บมันรึไง!?" ผมตวาดใส่มันเสียงดุดัน เมื่อเห็นมันทำท่ากระย่องกระแย่งเหมือนคนขาดสารอาหารของมัน ยิ่งมองก็ยิ่งขัดหูขัดตา!
ไอ้ดอกรักมันเงยหน้าขึ้นมองผมเหมือนจะค้อน แต่พอผมถลึงตาใส่มันเท่านั้นแหล่ะ มันก็รีบก้มหน้าก้มตาถูคอกม้าต่อไปทันที
"เสี่ยครับ... เสี่ย... เสี่ยเปรม..." แล้วอยู่ ๆ เสียงของคนงานในไร่ที่ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันชื่ออะไรก็ดังขึ้น ก่อนที่มันจะวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาหาผม
"มีอะไรวะ!?" ผมถาม แต่สายตาจ้องมองที่ไอ้ดอกรักตลอดเวลา
"เสี่ยปลื้มกับคุณนายแสนดีมาครับ" ผมหันไปมองหน้าไอ้คนงานที่ยังมีอาการเหนื่อยหอบทันที ก่อนจะเอ่ยถามมันกลับเพื่อความแน่ใจ
"พ่อกับแม่มาเหรอ?"
"ครับเสี่ย..."
'พ่อกับแม่มาทำไม?' ผมถามตัวเองในใจ คงอยากจะมาดูว่าลูกชายที่ตัวเองส่งมาดัดสันดานที่นี่จะมีความเป็นอยู่ยังไงอย่างนั้นล่ะสิ หึ! ... ทั้งที่รักลูก แต่ก็ยังอยากที่จะเห็นลูกตกระกำลำบาก เป็นพ่อแม่ที่แปลกคนดีแท้
"กูรู้แล้ว...ส่วนมึงไอ้ดอกรัก!" ผมบอกกับคนงาน ก่อนจะหันไปเรียกไอ้ดอกรักเสียงเข้ม
"ทำงานของมึงให้เสร็จ อย่าคิดอู้นะมึง เสร็จแล้วก็ไปขนหญ้าแห้งมาให้ม้าด้วย เดี๋ยวกูจะกลับมาดู ส่วนมึงเฝ้ามันไว้อย่าให้มันอู้งานเด็ดขาด!"
ผมสั่งคนงานให้เฝ้าไอ้ดอกรักไว้ด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด ก่อนที่ผมจะเดินกลับไปทางเรือนใหญ่เพื่อไปหาพ่อกับแม่
Perm End.
..........................
Dokrak End.
"เสี่ยเปรมไม่อยู่แล้ว คุณดอกรักพักก่อนก็ได้ครับ" คนงานในไร่ของเสี่ยเปรมพูดขึ้น หลังจากที่อีเสี่ยเปรมหน้าเลือดนั่นเดินลับสายตาไปแล้ว
"ไม่เป็นไรหรอก ฉันอยากทำให้เสร็จเร็วๆ มากกว่า"
เราปฏิเสธความหวังดีของคนงาน ในขณะที่เดินไปหยิบสายยางมาฉีดพื้นที่เลอะไปด้วยฟองของผงซักฟอก
"มาครับผมช่วย จะได้เสร็จไว ๆ" คนงานพูดพร้อมกับเอื้อมหยิบไม่กวาดทางมะพร้าวขึ้นมากวาดน้ำที่ขังอยู่ให้ไหลลงร่องน้ำไป
"ไม่ต้องหรอก! เดี๋ยวถ้าเสี่ยเปรมกลับมาแล้วเห็นเข้า เขาอาจจะไม่พอใจ และนายก็จะพลอยโดนหางเลขไปด้วย"
เราปฏิเสธความหวังดีของคนงานอีกครั้ง ถึงแม้ว่าเราจะเหนื่อยแทบขาดใจ แต่เราก็ไม่อยากให้ใครต้องมาเดือดร้อนเพราะเรา
"คุณดอกรักไม่ต้องเกรงใจผมหรอกครับ ตอนนี้เสี่ยเปรมไม่อยู่แล้ว กว่าจะกลับมาก็คงอีกนาน รีบเถอะครับช่วยกัน"
"ขอบคุณนะ" เราเอ่ยขอบคุณคนงานด้วยความซึ้งใจ เมื่อเขายืนยันที่จะช่วยเราให้ได้
"ไม่รู้ว่าเสี่ยเปรมเขาคิดอะไรอยู่นะครับ ถึงได้ใช้งานผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อย่างคุณดอกรักขนาดนี้" คำพูดของคนงานทำให้เราอดที่จะคิดไม่ได้...
นั่นสิ... ไม่รู้ทำไมอีเสี่ยบ้าอำนาจนั่นถึงได้ทำเหมือนจงเกลียดจงชังเรานักหนา คนอะไร ทั้งปากร้าย ทั้งหยาบคายกับผู้หญิงที่เพิ่งจะเคยเจอหน้า นิสัยไม่เหมือนพ่อกับแม่ของตัวเองเลยสัดนิดเดียว
น้าแสนดีทั้งสวย ทั้งใจดี ส่วนลุงปลื้มถึงจะดูเหมือนดุ แต่จริง ๆ แล้วก็ใจดีเหมือนกัน แต่ทำไมถึงได้มีลูกชายนิสัยร้ายกาจ ไร้เหตุผลแบบนี้ก็ไม่รู้ เราคิดอย่างแปลกใจ
"เสร็จซะที...ฮู่ว..." เราเป่าลมออกจากปากที่ล้างคอกม้าเสร็จซะที ก่อนจะหันไปมองโรงเก็บหญ้าแห้งที่อยู่ถัดคอกม้าไปประมาณสองร้อยเมตร ก่อนจะถอยหายใจออกมาอย่างเหนื่อยอ่อน ยิ่งเห็นแดดก็ยิ่งท้อใจ
"เฮ้อ!... เอาน่า... อย่าเพิ่งท้อสิ... อีกนิดเดียวเอง" เราบอกกับตัวเองเบา ๆ พร้อมกับสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ เรียกแรงฮึดสู้ที่อยู่ภายในใจให้ลุกขึ้นมาอีกครั้ง
"คุณดอกรักพักก่อนเถอะครับ เดี๋ยวผมขนให้เอง"
คนงานพูดอย่างหวังดีอีกครั้ง แต่เราก็ส่ายหน้าปฏิเสธเพราะไม่อยากเอาเปรียบเขา แค่ที่เขาเสนอตัวมาช่วยก็เกรงใจมากพออยู่แล้ว
"ช่วยกันดีกว่า เสร็จแล้วค่อยพักพร้อมกัน" พูดจบเราก็เดินฝ่าเปลวแดดไปที่โรงเก็บหญ้า และรีบลงมือขนหญ้าใส่รถเข็นทันที
"!" แต่จู่ ๆ ความผิดปรกติก็เกิดขึ้นกับร่างกายของเรา จากการที่เราก้ม ๆ เงย ๆ และลุกนั่งติดต่อกันเป็นเวลานานมันทำให้เรามีอาการหน้ามืด และที่แย่ไปกว่านั้น ตั้งแต่เช้าจนถึงตอนนี้ ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเราเลยแม้แต่น้ำสักหยดเดียว
"คุณดอกรักเป็นอะไรครับ?" เสียงของคนงานเอ่ยถาม แต่เรากลับได้ยินเสียงของเขาดังมาจากที่ไกลแสนไกล
"ฉัน..." เราพูดได้แค่นั้น ทุกอย่างในความรู้สึกของเราก็ดับวูบไป...
Dokrak End.
.................
Perm Talk.
"พ่อกับแม่มาทำไม อย่าบอกนะว่าจะมารับผมกลับกรุงเทพฯ" ผมเอ่ยปากถามพ่อกับแม่อย่างกวน ๆ ทันทีที่ก้าวเท้าเข้าไปในบ้านแล้วเห็นทั้งสองคนนั่งอยู่ที่โซฟา
"เปล่า... แม่แกเขาจะมาหาดอกรักต่างหาก" คำตอบของพ่อทำให้ผมชักสีหน้าไม่พอใจขึ้นมาทันที
ไอ้ดอกรักอีกแล้ว นี่มันมีความสำคัญมากขนาดที่พ่อกับแม่ต้องมาถึงที่ไร่เลยเหรอเนี่ย!?
"ใครมันคาบข่าวไปบอก!?" ผมถามอย่างเอาเรื่อง อย่าให้รู้ว่าใคร กูจะอาละวาดให้บ้ากันไปข้างหนึ่งเลยเหอะ
"ทำไมพูดแบบนั้นเสี่ยเปรม ไม่มีใครคาบข่าวอะไรทั้งนั้นแหล่ะ แม่โทรมาเมื่อเช้า แล้วบังเอิญถามถึงดอกรักก็เลยรู้เรื่อง ก็เท่านั้น"
"แม่จะถามถึงมันทำไม คนที่แม่ควรจะถามถึงควรเป็นผมสิ ผมเป็นลูกของแม่ไม่ใช่มัน!"
ผมพูดใส่อารมณ์อย่างหงุดหงิด ยิ่งเห็นว่าแม่มีท่าทีเป็นห่วงเป็นใยไอ้ดอกรักมากกว่าลูกในไส้อย่างผม ผมก็ยิ่งเพิ่มความเกลียดชังมันมากขึ้นไปอีก
"เปรม!" เสียงปรามจากพ่อ ทำให้ผมต้องเงียบปาก ถึงจะไม่ค่อยเต็มใจก็เถอะ แต่เสียงเย็น ๆ ที่ออกมาจากปากของพ่อทำให้ผมไม่อยากเสี่ยง ลองถ้าตาลุงนี่ทำเสียงแบบนี้เมือไหร่ นั่นหมายถึงว่าเขาเริ่มไม่พอใจที่ผมทำนิสัยกร้าวร้าวแบบนี้
"ช่างเถอะเสี่ย..." แม่หันไปพูดกับพ่อ พร้อมกับลูบมือพ่อไปมาเบา ๆ เพื่อให้พ่อใจเย็นขึ้น แล้วแม่ก็หันมาพูดกับผม
"เสี่ยเปรมพาแม่ไปหาน้องที่ไร่โน้นที"
"น้อง... น้องไหน!?" ผมย้อนถามแม่อย่างงง ๆ
"ก็ดอกรักไงล่ะ พาแม่ไปที"
"...." ผมเงียบไปทันที ที่รู้ว่าน้องที่แม่พูดถึงเป็นใคร
อะไรวะ! นี่ถึงขนาดยกย่องไอ้ขี้โกงนั่นมาเป็นน้องผมเลยเหรอ!?
"ไม่ต้องถ่อไปถึงไร่โน้นหรอกแม่ ตอนนี้ไอ้ดอกรักมันก็อยู่ที่ไร่ของเรานี่แหล่ะ"
"อ้าวเหรอ.. .ดีเลย งั้นเสี่ยเปรมพาแม่ไปหาน้องเดี๋ยวนี้เลยนะ... ว่าแต่ น้องทำอะไรอยู่ที่ไร่ของเราล่ะตอนนี้?"
ผมยกยิ้มขึ้นที่มุมปากทันที เมื่อนึกถึงสภาพตอนที่ไอ้ดอกรักมันขัดถูคอกม้าอย่างสะใจ
"อยู่ที่คอกม้า ผมให้มันทำความสะอาดคอกม้าใช้หนี้เราอยู่"
"เสี่ยเปรม! นี่ลูกให้ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อย่างดอกรักไปทำความสะอาดคอกม้าอย่างนั้นเรอะ!?"
"เมื่อกี้แม่ว่ายังไงนะ ใครเป็นผู้หญิง!?" ผมถามแม่อีกครั้ง เพราะเมื่อครู่นี้ ที่แม่พูดเหมือนผมจะได้ยินไม่ชัด แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้คำตอบที่ชัดเจน เสียงตะโกนโวยวายของคนงานก็ดังขัดขึ้นมาซะก่อน
"คุณดอกรักเป็นลม! คุณดอกรักเป็นลม!"
เท่านั้นเอง... แม่ของผมวิ่งพรวดพราดออกจากบ้านตรงไปยังคอกม้าเป็นคนแรก โดยมีผมกับพ่อวิ่งตามไปติด ๆ
Perm End.