บทที่ 2
"ท่านอา...นะ....ช่วยข้าหน่อยนะ"
ดาเมียร์เขย่าแขนกำยำไว้แน่น พลางมองร่างสูงด้วยสายตาเว้าวอน
"ไม่"
"โธ่....ท่านอา..นะ ท่านอาฟารัค ช่วยหลานคนนี้หน่อยนะ"
"ไม่...มันอันตรายเกินไป..ถ้าท่านพ่อของเจ้ารู้เรื่องเข้า รับรองข้ามีหวังหัวได้หลุดออกจากบ่า"
ร่างสูงเอ่ยเสียงเข้ม มองใบหน้างามอย่างเอื้อมระอา
"ท่านอา..ช่วยข้าหน่อยนะ ข้าไม่มีที่พึ่งแล้วจริงๆ ท่านเป็นคนเดียวที่จะช่วยข้าได้ ข้าแค่อยากจะทดแทนคุณที่ท่านสุลต่านได้ช่วยชีวิตข้าไว้เท่านั้นเอง ท่านอาก็ทราบดี ว่าถ้าไม่ได้สุลต่านซาฟาลช่วยข้าไว้วันนั้น ข้าคงจะไม่มีชีวิตรอดมาขอร้องท่านในวันนี้ได้หรอก"
ดาเมียร์เอ่ยเสียงเศร้า มองใบหน้าคมคายของผู้เป็นอาอย่างขอร้อง
ฟารัคมองใบหน้างามของหลานสาวอย่างชั่งใจ ทำใมเขาจะไม่รู้ว่าภายในใจของหลานสาวของเขานี้จะแค่ต้องการแทนคุณ มันมีอะไรอีกหลายๆอย่างที่บ่งบอกออกมาจากดวงตาใสกลมคู่นี้
เมื่อสองปีที่แล้วพอเขาทราบเรื่อง เขาแทบอยากจะไปฆ่าคนพวกนั้นให้สิ้น แต่พอทราบว่าสุรต่านซาฟาลและชีคอัคนัส อามันต์ ได้ถล่มตลาดค้าเนื้อสดนั้นราบ เขาอยากจะส่งเครื่องบรรณาการที่มีค่าที่สุดไปให้ สมกับที่ท่านได้ช่วยเหลือ ดาเมียร์ หลานสาวของเขา และเป็นลูกสาวคนเล็กของสุรต่านฟารูค เจ้าผู้ปกครองแคว้นริยาชแห่งนี้
แต่ดาเมียร์ได้ขอร้องเขาไว้ ว่าอย่าแพร่งเรื่องนี้ เพราะไม่อาจให้ท่านพ่อและดินแดนแคว้นริยาชต้องเสื่อมเสีย ถ้าหากข่าวที่ว่าลูกสาวคนเล็กของแคว้นถูกพวกค้าทาสจับตัวไป เรื่องนี้ท่านพี่ของเขาสุรต่านฟารัคก็เห็นดีเห็นงามด้วย เขาจึงได้แต่นิ่งเฉยเสีย
ดาเมียร์เฝ้าสอบถามข่าวคราวของสุรต่านซาฟาลไม่เคยขาด ด้วยว่าเขาเป็นทั้งสหายและคู่ค้าของสุรต่านซาฟาลมานาน จนหล่อนมาขอร้องเรื่องนี้กับเขา..เรื่องที่ทำให้เขาหนักใจเป็นอย่างมาก กลืนไม่เข้าคายไม่ออก หาเรื่องปวดหัวให้ซะแล้วสิแม่หลานสาวคนนี้
"เจ้าก็รู้ว่าสุลต่านซาฟาลมีนิสัยโหดร้ายขนาดไหน แล้วเจ้าไม่กลัวรึไงกัน"
"ข้า...."
ดาเมียร์มองหน้าคมคายของผู็เป็นอาอย่างลังเล ก่อนจะหวนคิดไปถึงเสี้ยวหน้าเรียบเฉยเย็นชา ดวงตานิ่งสงบของบุรุษร่างสูงที่ปลิดชีพพวกวายร้า่ยที่จะทำร้ายหล่อนดับดิ้นต่อหน้าอย่างไม่ใยดี
ก่อนดวงตากลมโตจะฉายแววมุ่งมั่น มองสบตาคมของผู้เป็นอาอย่างแน่วแน่
"ข้าไม่กลัวเจ้าค่ะ ท่านสุลต่านไม่ทำอะไรคนดีๆหรอก ข้าเชื่อเช่นนั้น...นะ..ท่านอา ช่วยข้าด้วยนะ...ช่วยดาเมียร์หน่อยนะคะท่านอา"
"ดาเมียร์สัญญา ดาเมียร์จะรับใช้ท่านสุรต่านอย่างดี ดูแลเท่าที่ดาเมียร์จะทำได้ โดยไม่ให้เดือดร้อนมาถึงท่านอาและท่านพ่ออย่างแน่นอน..นะคะ"
"แต่.....สุลต่านเป็นผู้ชาย..แล้วเจ้าเป็นผู้หญิง จะไปอยู่ที่วังนั้นได้อย่างไร"
"ดาเมียร์จะคอยรับใช้อย่างห่างๆค่ะท่านอา ทำกับข้าวกับปลา ปัดกวาดเช็ดถู ตามแต่สุรต่านจะสั่งเจ้าค่ะ อีกอย่างดาเมียร์รู้มาว่าสุลต่านซาฟาลไม่สนใจผู้หญิงนี่เจ้าค่ะ คงไม่มีปัญหา"
"ถึงท่านสุลต่านซาฟาลจะไม่สนใจผู้หญิง แต่ก็ได้ชื่อว่าเป็นบุรุษเพศ อีกอย่างเจ้าเป็นถึงบุตรสาวของสุลต่านฟารูค เจ้าจะทำงานแบบนั้นได้อย่างไรกัน เราให้เจ้าไปทำอะไรแบบนั้นไม่ได้"
"โธ่...ท่านอา...สุลต่านมีนางในฮาเร็มเป็นร้อยไม่ใช่เหรอคะ ดูอย่างท่านพ่อซิ มีน้อยซะเมื่อไหร่กัน คงไม่อะไรกับเด็กผู้หญิงรับใช้หรอกค่ะ"
"ผิดแล้วหลานรัก..สุลต่านซาฟาลไม่เคยมีนางในฮาเร็ม ท่านรักสันโดษ ไม่ชอบยุ่งวุ่นวายกับสตรี เห็นว่าน่ารำคาญ"
ฟารัคเอ่ยยิ้มๆถึงสหาย
"งั้นก็ยิ่งดีสิคะ..นะ..นะ ่ท่านอา ช่วยดาเมียร์ด้วยนะ..นะ.."
ฟารัคแทบสำลักเมื่อรู้ว่าเสียทีหลานสาวแล้ว ทำหน้าละเหี่ยใจ มองดวงตากลมโต ที่มีน้ำคลออยู่น้อยๆนั้นอย่างเอ็นดู
"เอาล่ะ เอาล่ะ...เจ้าต้องรับปากข้าก่อน ข้าให้เวลาเจ้าแค่ 1 ปี เท่านั้นสำหรับการทดแทนคุณครั้งนี้ แล้วก็หากเกิดเรื่องไม่ชอบมาพากลรึว่าหากว่าสุลต่านจับได้ว่าเจ้าคือดาเมียร์แห่งแคว้นริยาช เจ้าต้องกลับบ้าน เข้าใจมั้ย"
ฟารัคมองใบหน้างามของหลานสาวนิ่งจริงจัง
"ได้ค่ะ..ดาเมียร์สัญญา"
หญิงสาวฉีกยิ้มกว้างสดใส พลางโผเข้ากอดร่างสูงใหญ่ของผู้เป็นอาอย่างยินดี
ดาเมียร์ยิ้มแก้มปริ เมื่อคิดไปถึงเสี่ยวหน้าคมเข้ม สายตาคมกริบเย็นชา ของ...สุลต่านซาฟาล
.....................................................................................................................................................................