บท
ตั้งค่า

บทที่ 4

“ผมเกรงว่าจะต้องขอยืนยันนะครับ”

คำพูดของเขาทำให้เธอยืนนิ่งขึงไปทันที

“ยืนยันเรื่องอะไรคะ?”

“ก็...ยืนยันว่าคุณควรจะกลับไปที่เกสท์ เฮ้าส์ทันทีได้แล้วน่ะสิครับ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นชัดเจน ขณะเดียวกันก็ได้ยินเสียงที่เธอสูดลมหายใจแรงๆ

“ฉันมีสิทธิ์จะไปไหนก็ได้ตามที่ฉันต้องการค่ะ”

แม้หญิงสาวจะพูดภาษาอังกฤษได้อย่างไร้ตำหนิ แต่ดูเหมือนเธอจะเข้าใจผิดในตัวเขาอยู่ บางทีอาจจะเป็นเพราะเธอยังไม่เข้าใจสภาพสังคมที่นี่ก็ได้ เจมส์จึงตัดสินใจว่าเขาควรจะต้องใช้ความพยายามอีกสักครั้ง

“ผมคิดว่า หญิงสาวที่เป็นผู้ดีมีตระกูลอย่างคุณ ไม่สมควรจะออกไปไหนตอนกลางคืน หรือแม้แต่ในตอนกลางวันก็ตามที โดยไม่มีสาวใช้หรือผู้ปกครองที่เหมาะสมตามมาคุ้มครองด้วยหรอกนะครับ”

“สาวใช้ฉันหลับอยู่ กลางดึกอย่างนี้ฉันไม่ใจร้ายพอที่จะปลุกเขาขึ้นมาเดินตามฉันหรอกค่ะ” เธอตอบห้วนๆ

“ถ้าอย่างนั้นผู้ปกครองล่ะครับ?”

“ฉันอยากอยู่คนเดียวตามลำพัง...”เธอตอบเลี่ยงไปเสียทางหนึ่ง “เพราะฉะนั้นถ้าจะให้เอาผู้ปกครองมาด้วย ฉันก็ไม่ได้ทำอย่างที่ตั้งใจน่ะสิคะ”

“ผมไม่คิดว่า...เราจะได้ทุกอย่างเช่นที่เราต้องการเสมอไปหรอกนะครับ คุณผู้หญิง” เจมส์ใกล้จะหมดความอดทนเต็มที

“เรื่องนั้นฉันทราบดีค่ะ”

“แต่ถึงยังไง คุณก็ไม่ควรออกมาเดินกลางสวนตอนดึกโดยไม่มีผู้ปกครองมาด้วยนะครับ”

“คุณเองก็ไม่เห็นมีนี่”

“นั่นมันคนละเรื่องเลยนะครับ”เจมส์เตะหินก้อนที่อยู่ใกล้เท้า

“เพราะอะไร?”

คำถามของเธอ บอกให้รู้ว่าหญิงสาวตั้งใจจะขัดคอเขาอย่างแท้จริง

“ก็เพราะผมเป็นผู้ชายและคุณเป็นผู้หญิงน่ะสิครับ”

“เชอะ...นั่นก็หมายความว่าผู้ชายจะทำอะไรก็ได้ ส่วนผู้หญิงทำไม่ได้สินะคะ?”

“ถูกต้อง...”

“ทำไม?”

เห็นได้ชัดว่าเขาออกจะหวังมากเกินไป ว่าเธอจะรับฟังในเหตุผล เพราะเมื่อมาถึงตอนนี้หญิงสาวผู้นี้ปฏิเสธความหวังดีของเขาโดยสิ้นเชิง

“ทำไม...อะไร?”

“ก็ทำไมผู้ชายสามารถไปไหนมาไหนหรือทำอะไรตามความพอใจได้ ในขณะที่ผู้หญิงจะต้องปฏิบัติตามกฎของสังคมอย่างเคร่งครัดล่ะคะ?”

“ก็เพราะว่านั่นคือวิถีในการดำเนินชีวิตน่ะสิครับและเพราะว่ามันเป็นอย่างนั้นมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว”

“ไม่เข้าท่า”

เจมส์บอกตัวเองว่าเขาจะไม่ยอมเสียอารมณ์อย่างเด็ดขาด เขาจะต้องไม่ใช้คำพูดรุนแรงแม้ว่าใจอยากจะทำอย่างนั้นเหลือเกินก็ตามที เขาจะต้องใช้ความพยายามต่อไปเพื่อที่จะทำให้เธอมองเห็นเหตุผลให้ได้

“การที่ผู้ชายสามารถทำอะไรหรือไปไหนมาไหนได้ตามใจชอบนั่นนะครับ คุณผู้หญิง เป็นเพราะโดยธรรมชาติแล้ว ผู้ชายมีรูปร่างใหญ่กว่า แข็งแรงกว่าผู้หญิง สามารถดูแลตัวเองได้ยังไงล่ะครับ”

หญิงสาวในชุดสีขาวยืดร่างขึ้นเต็มตัว เจมส์ออกจะแปลกใจเพราะเรือนร่างเธอค่อนข้างสูงกว่าผู้หญิงทั่วไป แม้ศีรษะเธอจะอยู่แค่ปลายคางเขาก็ตาม ทั้งยังบอกกับเขาว่า

“ฉันสูงพอๆกับผู้ชายหลายคนแล้วก็แข็งแรงกว่าความแข็งแรงของผู้ชายในอัตราเฉลี่ยเสียด้วยซ้ำ”

นั่นแสดงว่าเธอหลงประเด็นที่กำลังพูดกันอยู่โดยสิ้นเชิง...

“ที่ผมพูดนั่นมันมีความหมายเกินกว่าขนาดหรือความแข็งแรงเช่นที่คุณเข้าใจนะครับ คุณผู้หญิง”

“ถ้าเช่นนั้น...ก็ช่วยบอกฉันหน่อยสิคะ ว่าจริงๆแล้วคุณหมายความว่ายังไงกันแน่”

“สิ่งหนึ่งก็คือ...”เขาใช้ความคิดอย่างรวดเร็ว “เมื่อเผชิญหน้ากับอันตราย ผู้ชายสามารถตั้งมั่นอยู่ในความสงบได้น่ะสิครับ”

“ผู้หญิงออกเยอะไปที่สามารถทำอย่างนั้นได้ ฉันว่าคุณเองก็น่าจะเข้าใจนะคะ ว่าการรักษาสีหน้าหรือควบคุมอารมณ์ภายใต้สถานการณ์เลวร้าย มันเป็นเรื่องของความรู้สึกมากกว่าจะเกี่ยวกับเพศนะคะ”

เขาตัดสินใจว่าจะไม่ต่อปากต่อคำกับเธอในเรื่องหลังนี้

“แต่คุณก็ต้องไม่ลืมว่า ผู้ชายมีความสามารถในการใช้ปืน ใช้ดาบและอาวุธต่างๆด้วย”

“ฉันเองก็เป็นนักแม่นปืนคนหนึ่งเหมือนกัน” เธออวด

“ถ้าเช่นนั้น...เราก็เห็นจะต้องกลับมาพูดถึงเรื่องมรรยาทสังคมกันอีกครั้ง”

แต่ดูเหมือนหญิงสาวผู้นี้จะไม่ยอมแพ้เอาเสียเลย...

“ฉันคิดว่าถ้าเรามองกันให้ลึกซึ้ง อย่ามองแต่เพียงผิวเผินก็จะเห็นได้เลยนะคะ ว่าจริงๆแล้วสังคมมันก็ไม่ได้มีมรรยาทอะไรตรงไหนหรอก” คำพูดของเธอทำให้เจมส์ถึงกับขบกรามแน่นและเธอก็ยังพูดต่อไปอีกว่า “จะว่าไปแล้ว ฉันมีความรู้สึกอยู่ว่า คุณไม่ใช่ผู้ชายประเภทที่จะคาดหวังในเรื่องมรรยาทของสังคมสักเท่าไรนักหรอก ไม่เช่นนั้นคุณคงไม่ออกมาเดินอยู่ในสวนโดยแต่งตัวเพียงแค่ครึ่งแบบนี้แน่”

เขาน่ะเรอะ...แต่งตัวเพียงแค่ครึ่ง...? เขาแต่งเกือบจะเต็มยศเสียด้วยซ้ำ นี่เจ้าหล่อนคิดว่าตัวเองเป็นใครกันแน่...ราชินีชีบ้าหรืออย่างไร...เขาพยายามนับหนึ่งถึงสิบเข้าไว้

“การที่ผมแสดงความห่วงใยในตัวคุณก็เพราะผมได้รับการอบรมสั่งสอนมาให้เป็นสุภาพบุรุษ ที่จะต้องให้ความเคารพและคุ้มครองป้องกันสุภาพสตรีเท่านั้นละครับ”

“แล้วความเป็นสุภาพบุรุษของคุณจะให้ความคุ้มครองผู้หญิงทุกคน หรือเลือกแต่เฉพาะรายล่ะคะ?”

“ก็ต้องทุกคนสิครับ”เจมส์กำมือแน่น ทั้งที่รู้ว่าหญิงสาวกำลังยั่วอารมณ์โกรธของเขาอยู่

“ก็แล้วถ้าผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่สุภาพสตรีล่ะคะ มันสามารถเปลี่ยนมรรยาทสังคมที่เป็นกฎบังคับอยู่หรือเปล่า?”

เธอผู้นี้ต้องการต้อนให้เขาจนมุมจริงๆ...มันน่าโมโหหรือไม่นี่...?

แต่ขณะเดียวกันเขาก็ต้องยอมรับว่า การต่อปากต่อคำกับเธอสนุกไม่น้อย ยิ่งกว่านั้นดูเหมือนเธอยังมีอะไรที่อยากพูดให้เขาฟังมากกว่านั้น

“สำหรับผู้หญิงบางคน ที่บังเอิญมาในครอบครัวชั้นต่ำ ทั้งที่ไม่ได้มีความผิดบาปใดๆติดตัวเลย แต่ก็ยังสามารถไปไหนมาไหน คบหาใครต่อใครโดยเฉพาะผู้ชายได้ตามใจชอบ แต่ผู้หญิงที่เกิดมาในตระกูลผู้ดีและยิ่งถ้าไม่ได้แต่งงานด้วยแล้ว มันไม่ได้ต่างไปกว่าสัตว์ที่ถูกขังอยู่ในกรงทองเลย...”

เจมส์ลูบไล้ปอยผมตรงต้นคออยู่อย่างใช้ความคิด ก่อนจะตอบออกไปว่า

“เราทุกคนล้วนแล้วแต่เป็นทาสของสังคมไม่ทางใดก็ทางหนึ่งด้วยกันนะครับ”

“ใช่ค่ะ ฉันเห็นด้วยกับคุณ”

“แต่ถึงยังไงผมก็คงไม่ยอมให้คุณเดินเล่นในสวนกลางดึกอย่างนี้ตามลำพังแน่ มันไม่ปลอดภัยเลยนะครับ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่บอกความจริงใจ

“ขอรับรองค่ะ ว่าฉันจะปลอดภัยดีทุกประการ...”เธอนิ่งอึ้งไปครู่สั้นๆก่อนจะกล่าวต่อ “นอกเสียจากว่า...จริงๆแล้วคุณไม่ได้เป็นสุภาพบุรุษอย่างที่ฉันคิดเท่านั้น...”

ซึ่งเขานั้นเป็นสุภาพบุรุษอยู่แล้วอย่างไม่ต้องสงสัยเลย ดังนั้น ท่าทางที่เขาแสดงออกจึงเปลี่ยนไป มันมีความไว้ตัวอยู่ในน้ำเสียงเมื่อเขาบอกกับเธอว่า

“ทำใจให้สบายเถอะครับคุณผู้หญิง รับรองว่าคุณจะปลอดภัยที่สุดเมื่ออยู่กับผม”

“ถ้าเช่นนั้นฉันก็ไม่จำเป็นต้องกังวลกับการที่จะเดินเล่นในสวนแห่งนี้ไม่ว่าจะเป็นตอนกลางวันหรือกลางคืนสิคะ”

“แต่คุณก็ต้องรู้นะครับ ว่ามันอาจจะมีคนร้ายที่ปีนกำแพงสวนเข้ามา” เขาพยายามให้เหตุผล ทั้งที่รู้ว่าเรื่องอย่างนั้นมันเป็นไปได้ยากมาก

“ฉันจะบอกให้นะคะ ว่าทุกวันนี้มันมีโจรผู้ร้ายมากมายที่เข้าไปนั่งอยู่ในห้องรับแขกภายในบ้านของสุภาพสตรีในสังคมชั้นสูงเสียด้วยซ้ำ ซึ่งถ้าจะพูดกันตามความจริงแล้ว ไม่มีที่ไหนหรอกค่ะที่สุภาพสตรีทั้งหลายจะปลอดพ้นจากภัยอันตรายได้”

“ผมเห็นจะต้องขออนุญาตกล่าวย้ำอีกสักครั้งนะครับ คุณผู้หญิง ว่าคุณจะปลอดภัยเสมอเมื่ออยู่กับผม”

“เอาละค่ะ ในเมื่อคุณเฝ้าแต่ย้ำนักย้ำหนา ว่าฉันไม่สมควรจะเดินอยู่คนเดียวตามลำพัง คุณจะเดินไปกับฉันด้วยก็ได้นะคะ”

ให้ตายสิ...ดูเหมือนขณะนี้เขาได้กลายเป็นเหยื่อเกมของตัวเองเข้าให้แล้ว...เจมส์เพิ่งได้คิด...แต่มันก็สายไปแล้วจริงๆ...!~

เขาช่างเป็นผู้ชายที่ทระนงในตัวเองเหลือประมาณ แถมยังเย่อหยิ่งจองหอง พยายามจะแสดงอำนาจแล้วก็แสนจะมีความเป็นอังกฤษไปทุกกระเบียดนิ้ว

แต่เขาก็ช่างเป็นผู้ชายที่หล่อเหลือใจ หล่ออย่างที่ซีซิลไม่เคยพบเห็นผู้ชายคนไหนจะหล่อได้ขนาดนี้มาก่อน...

แม้สีหน้าจะบึ้งตึงเช่นที่กำลังเป็นอยู่ขณะนี้ ที่เธอพอจะมองเห็นได้ด้วยแสงสว่างจากโคมไฟข้างถนน แต่ทั้งรูปร่างและหน้าตาของบุรุษแปลกหน้าผู้นี้ ก็ทำให้ซีซิลตื่นใจได้ไม่น้อย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel