ตอนที่ : 12 หลงกล 2
พรธีราเดินผ่านร้านแล้วร้านเล่า ก็ไม่ได้สิ่งที่ต้องการสักที ก่อนจะนึกออกว่าเขาเพิ่งเข้าไปทำงานที่บริษัท เมื่อสัปดาห์ที่แล้วนี่เอง พรธีราหยุดอยู่ตรงหน้าร้านขายสินค้าชนิดหนึ่ง หญิงสาวมองผ่านตู้กระจกเข้าไปภายในนั้น รู้สึกว่าสิ่งนี้แหละที่เหมาะสำหรับมอบเป็นของขวัญวันเกิด และได้ใช้ในการทำงานด้วย พอเลือกได้อันที่ชอบแล้วพรธีราก็เดินไปหาพนักงานตรงเคาน์เตอร์
“สลักชื่อได้ไหมคะ”
“ได้ค่ะคุณลูกค้า เขียนใส่กระดาษตรงนี้ค่ะ” พนักงานของทางร้าน หยิบแผ่นกระดาษใบหนึ่งยืนให้หญิงสาว
“เอ่อ ขอเวลาหาข้อมูลสักครู่ก่อนนะคะ” หญิงสาวบอกอีกฝ่ายอย่างอาย ๆ เพราะเธอเองก็ไม่แน่ใจในตัวอักษรที่อยากสลัก
“ได้ค่ะนั่งตรงโน้นได้นะคะคุณลูกค้า” พนักงานผายมือไปยังเก้าอี้สำหรับนั่งรอ
“ขอบคุณค่ะ”
หญิงสาวนั่งลงแล้วเปิดโทรศัพท์มือถือ เพื่อค้นดูข้อมูลในอินเทอร์เน็ต ใช้เวลาอยู่ครู่ใหญ่ ๆ กว่าจะเข้าใจในเรื่องที่ค้นหาอยู่ และเลือกตัวอักษรมาเขียนลงบนกระดาษยื่นให้พนักงาน
“ได้แล้วค่ะสลักตามนี้เลยนะคะ”
“เชิญลูกค้านั่งรอสักครู่นะคะ ใช้เวลาไม่นานหรอกค่ะ”
“พอดีว่าเป็นของขวัญวันเกิดค่ะ ที่ร้านมีบริการห่อของขวัญด้วยไหมคะ”
“มีค่ะ เลือกกล่องกับโบตรงนี้เลยค่ะคุณลูกค้า” พนักงานวัยกลางคน เดินนำพรธีราเดินไปเลือกกล่องของขวัญอีกมุมของร้าน
หญิงสาวเลือกทุกอย่างได้ครบตามที่ต้องการแล้ว ไม่ช้าของขวัญของนวินก็พร้อมลงกล่อง พร้อมโบสีน้ำเงินเส้นใหญ่
‘หวังว่าพี่กันต์จะชอบนะคะ’
ก่อนหน้านวินได้ให้คีย์การ์ดไว้กับพรธีราแล้ว หญิงสาวจึงสามารถเข้าตึกมาหาเขาบนห้องได้ หญิงสาวหยุดอยู่หน้าประตูห้องของเขา จัดชุดเดรสสีหวานเปิดไหล่ทั้งสองข้างให้เรียบร้อย ยกมือปัดผมลอนสลวยไปด้านหลัง เผยให้เห็นต้นคอขาวผ่องประดับด้วยต่างหูเพชรเม็ดเล็ก บนลำคอมีสร้อยจี้เพชรรูปตัวเอห้อยอยู่ ก่อนจะยกมือขึ้นกดกริ่งหน้าประตูห้อง
“เชิญครับน้องเอย” นวินออกมาเปิดประตูต้อนรับคนสวยด้วยสีหน้าตื่นตะลึง เขาจ้องคนที่แต่งหน้าสวย ๆ มาพร้อมชุดสุดหวาน เผยหัวไหล่มนกลมเนียนทั้งสองข้าง
“พี่กันต์ยืนงงอะไรคะ”
“งงคนสวยครับ” เขาบอกติดตลกก่อนจะหลีกทางให้หญิงสาวเดินเข้าห้องตนเอง
ส่วนคนถูกชมก็อายม้วนต้วนกันไปเลยทีเดียว ก่อนจะนึกได้ว่าเธอยังไม่ได้ให้ของขวัญกับเขาเลย
“พี่กันต์คะสุขสันต์วันเกิดค่ะ” กล่องของขวัญในมือถูกยื่นให้เขาพร้อมรอยยิ้มที่คนเห็นแล้วก็พลอยอิ่มอกอิ่มใจไปด้วย
“ขอบคุณครับน้องเอย”
“พี่กันต์อย่าเพิ่งแกะนะคะให้เอยกลับบ้านก่อนค่อยแกะนะคะ” คนให้เกิดอายขึ้นมารีบห้ามเขาไว้ก่อน
“ก็ได้ครับ นี่เป็นของขวัญวันเกิดชิ้นแรกของปีนี้เลยนะครับน้องเอย” ชายหนุ่มบอกพร้อมกับวางของขวัญชิ้นพิเศษไว้บนโต๊ะห้องรับแขก
“เหรอคะ แล้วเพื่อน ๆ พี่กันต์ไปไหนหมดล่ะคะ นึกว่าจะชวนเพื่อนมาด้วย” แม้รู้ว่าเขานัดเธอมาฉลองวันเกิดแค่สองคน แต่พรธีราก็อดถามออกมาไม่ได้
“ที่ไทยมีแต่เพื่อนทั่วไปครับที่สนิท ๆ กันไม่มี ส่วนใหญ่อยู่อเมริกากันหมด แต่ก็ส่งคำอวยพรมันกันหลายคนแล้ว ข้อความแทบถล่มก็ว่าได้ น้องเอยแต่งตัวสวยมากนะครับวันนี้” นวินชมหญิงสาวตบท้าย พรธีราแต่งตัวสวย ๆ มาเพื่อวันพิเศษของเขา หญิงสาวคงไม่คิดหรอกว่าเบื้องหลังความพิเศษนี้ มีบางอย่างซ่อนเร้นอยู่ด้วย
“วันดี ๆ ของพี่กันต์นี่คะ เอยก็อยากจะสวยที่สุด” พรธีราบอกพร้อมกับแย้มรอยยิ้มหวานหยดให้เขา
นวินแอบกลืนน้ำลายลงคอเบา ๆ รอยยิ้มใสซื่อของคนตรงหน้า ทำให้หัวใจของเขาแอบเจ็บหน่วง ๆ ขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
“พี่จัดโต๊ะอาหารไว้ให้แล้วเราไปกินกันเถอะครับ” เขาเดินนำหน้าหญิงสาวไป
บรรยากาศบนโต๊ะอาหารแสนเรียบง่าย มีแจกันปักดอกกุหลาบสีแดงไว้หนึ่งดอก นวินเลื่อนเก้าอี้ออกให้หญิงสาวได้นั่ง ส่วนเขาเดินไปเปิดเพลงจังหวะช้าคลอเสียงเบา ๆ ทำให้บรรยากาศไม่เงียบเหงาจนเกินไป
ทั้งคู่นั่งดื่มด่ำกับบรรยากาศแสนหวานนี้อยู่พักใหญ่ กระทั่งอิ่มกันแล้วทั้งคู่ นวินก็ชวนหญิงสาวออกมาดื่มไวน์เต้นรำกันต่อตรงห้องรับแขก
“เอยเต้นรำไม่ค่อยเป็นนะคะ” พรธีรารีบออกตัวไว้ก่อน
“ไม่เป็นไรครับ ดื่มคนละแก้วเดี๋ยวก็เต้นได้เอง” คนชวนชูแก้วไวน์ขึ้น
กริ๊ก
เสียงแก้วเนื้อบางกระทบกันก่อน จากนั้นทั้งคู่ก็ยกแก้วขึ้นจิบนิด ๆ ก่อนวางไว้ที่เดิม
“เต้นรำกันนะครับน้องเอย” นวินหงายฝ่ามือขึ้น พรธีรายิ้มรับคำเชิญ ก่อนคว่ำมือตัวลงไปบนมือเขาอย่างเต็มใจ
นวินจับมือทั้งสองข้างของพรธีรา ให้วางพาดบนบ่าของเขา ส่วนมือของเขาก็กอดหลวม ๆ ที่เอวของหญิงสาว
“ถ้าเอยเหยียบเท้าพี่กันต์อย่าโกรธเอยนะคะ” ความเงอะงะไม่ประสาเรื่องเต้นทำให้พรธีราบอกเขาไว้ก่อน
“ไม่เป็นไรครับ สำหรับน้องเอยเหยียบหัวใจพี่ยังได้”
“พี่กันต์พูดอะไรออกมาคะ เอยอายนะคะ อ๊ะ !” จากกอดหลวม ๆ นวินเปลี่ยนเป็นดึงเอวหญิงสาวเข้ามาแนบชิดกับตัวเขา เพลงยังบรรเลงต่อในจังหวะเนิบช้า ชายหนุ่มยังคงพาคนในอ้อมกอดขยับเท้าตามจังหวะเพลงไม่ยอมหยุด
พรธีรารู้สึกกระดากอายเป็นอย่างมาก ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นจากอกของเขาเลย วางท่อนแขนราบตรงลงมาตรงอกทั้งสองข้างของเขา กั้นตัวเองไม่ให้สนิทชิดเชื้อมากไปกว่านี้ แต่นวินกลับทำมากกว่านั้น เขาดันศีรษะของเธอแนบกับอกของเขา ดึงมือของเธอให้กอดเอวเขาไว้ทั้งสองข้าง ตอนนี้กลายเป็นว่าทั้งคู่โอบกอดเต้นรำกันอย่างเงียบ ๆ ไม่มีเสียงพูดคุยใดหลุดออกมา มีเพียงลมหายใจที่แนบประสานแทบเป็นจังหวะหนึ่งเดียวกัน
พรธีราไม่กล้าผลักไสเขาออก เพราะหัวใจของเธอนั้นรู้สึกอิ่มเอมกับเรื่องที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในตอนนี้ ตัดสินใจแนบหน้ากับอกอุ่นของเขา แล้วโอบกอดตอบรับอย่างเต็มใจ