ตอนที่ : 11 หลงกล
4
หลงกล
นวินไม่จับหญิงสาวกดลงเตียงในวันแรกที่มาห้องของเขา ก็เพราะต้องการความไว้วางใจ ซึ่งมันก็ได้ผลในเวลาถัดมา วันเกิดของนวินมาถึง เขาได้โทรศัพท์ไปชวนหญิงสาวให้มาฉลองวันเกิดด้วยกันที่ห้องแค่สองคน
“ถ้าน้องเอยไม่ว่างก็ไม่เป็นไรนะครับ” หลังชวนแล้วอีกฝ่ายนิ่งเหมือนคิดนาน นวินเลยเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเศร้า ๆ
“วันสำคัญของพี่กันต์ทั้งที ถึงเอยไม่ว่างก็ต้องว่างแหละค่ะ เอยไปได้ค่ะพี่กันต์” หญิงสาวยิ้มรับคำชวนของเขา
“นึกว่าน้องเอยจะไม่มาซะแล้ว พี่ไม่อยากออกไปเจอผู้คนข้างนอก อยากอยู่กับน้องเอยแค่สองคนเท่านั้น เข้าใจพี่ด้วยนะครับ” เสียงออดเสียงอ้อนแบบนี้ไม่มีทางที่พรธีราจะต้านทานไหว รู้จักกันมาร่วมสามเดือนนี้แล้ว นวินเข้าใจนิสัยใจคอของหญิงสาวได้เป็นอย่างดี นับว่าเป็นผู้หญิงคนแรกที่เขาใช้เวลาจีบนานเป็นพิเศษถ้าไม่นับกานต์สินี
“ค่ะเอยเข้าใจ ว่าแต่พี่กันต์ไม่ฉลองวันเกิดกับคุณพ่อคุณแม่เหรอคะ”
“ถ้าน้องเอยยอมไปบ้านพี่พี่ก็อาจฉลองที่นั่นก็ได้นะครับ”
“เอยยังไม่พร้อมนี่คะ พี่กันต์ก็อย่าเร่งนักเลยค่ะ” หญิงสาวรีบเอ่ยอย่างรู้สึกผิด เพราะนวินชวนไปที่บ้านสองครั้งแล้ว แต่เธอคิดว่ามันยังเร็วจนเกินไป
“พี่เข้าใจครับไม่เป็นไร น้องเอยไม่ต้องคิดมากนะ มาฉลองที่ห้องพี่นี่แหละ เดี๋ยวจะสั่งไก่ทอดของโปรดไว้ให้”
“ได้ไงคะวันเกิดพี่กันต์ทั้งที ก็ต้องสั่งของโปรดของพี่กันต์สิส้มตำปูปลาร้าไงคะ” หญิงสาวแกล้งเย้าเขาเล่น
“มันจะดีเหรอน้องเอย กลิ่นจะฟุ้งเต็มห้องเอาล่ะไม่ว่า พี่ว่าสั่งอย่างอื่นที่กินง่ายดีกว่านะครับ แต่จะสั่งไก่ทอดเผื่อเอยด้วยก็แล้วกัน”
“เอางั้นก็ได้ค่ะ งั้นเจอกันสองทุ่มนะคะพี่กันต์”
“ครับเจอกันสองทุ่ม” นวินวางสายจากหญิงสาวแล้วกระตุกยิ้มตรงมุมปาก คราวนี้เขาจะไม่ยอมให้เหยื่อหลุดมือเด็ดขาด
หลังรู้จักกันมาร่วมสามเดือนนี้ นวินเริ่มรู้จักนิสัยใจคอของพรธีรามากขึ้น หญิงสาวไม่ใช่คนติดหรูอย่างที่เขาคิดเอาไว้ก่อนหน้า เขาแทบไม่เห็นหญิงสาวใส่เสื้อผ้าราคาแพงสุดโต่ง เห็นก็แค่แบรนด์ชื่อดังตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป รวมถึงรถคันที่ขับก็ยังเป็นรถที่พบเห็นตามท้องถนน ทั้งที่ครอบครัวร่ำรวยหลักร้อยล้านเจ้าตัวก็ยังทำตัวเหมือนคนปกติทั่วไป
นวินมองไปยังเตียงนอนของตัวเอง ความผิดชอบชั่วดีตีกันยุ่งเหยิงไปหมด วันนี้แล้วที่เขาต้องตัดสินใจเลือก ว่าจะเป็นเทพบุตรหรือซาตานผ่านคืนนี้ไปก็ได้รู้
ที่บ้านของพรธีราหญิงสาวเพิ่งได้รับข่าวดี ว่าพี่ชายของเธอได้ฤกษ์วันแต่งงานเรียบร้อยแล้ว กำหนดวันจัดงานอีกสองเดือนข้างหน้านี้เอง
“ดีใจด้วยนะคะพี่เอื้อ แล้วนี่คุณพ่อกับคุณแม่ไปไหนคะพี่เอื้อ วันนี้เอยยังไม่ได้ยินเสียงพวกท่านเลย”
“ไปงานขึ้นบ้านใหม่ของเพื่อนคุณพ่อน่ะ น้องเอยเล่นตื่นเกือบเที่ยงแบบนี้จะไปทันอะไรล่ะ”
“วันหยุดทั้งทีขอตื่นสายบ้างเถอะค่ะ เอยว่าวันนี้จะออกไปร้านเสริมสวยสักหน่อย”
“หืม ไปร้านเสริมสวยนี่นะ น้องสาวพี่ปกติเข้าแค่ร้านนวดสปาไม่ใช่เหรอ ทำไมจู่ ๆ อยากเข้าร้านเสริมสวยขึ้นมาล่ะ”พัสวีหรี่ตามองน้องสาวอย่างสงสัย
“ก็เอยเป็นผู้หญิงนี่คะพี่เอื้อ มันก็ต้องมีทำเล็บทำผมนวดหน้านวดตาบ้างจะเป็นไรไป” พรธีราพูดพร้อมยกนิ้วทั้งสิบขึ้นมากรีดกรายให้พี่ชายดู ว่าเล็บนิ้วของเธอควรได้รับการดูแลให้สวยงามมากขึ้นกว่านี้
“ฮันแน่มีพิรุธนะน้องเอย บอกพี่มาว่าจะไปไหนกันแน่” พัสวียกนิ้วชี้หน้าน้องสาวแบบจ้องหาพิรุธ
“รู้ทันเอยอีกแล้วนะคะพี่เอื้อ เอยจะไปงานวันเกิดเพื่อนค่ะ วันนี้อาจกลับดึกหน่อย กะว่าจะลงมาบอกคุณพ่อคุณแม่ไว้ก่อน แต่ไม่อยู่งั้นบอกพี่เอื้อแทนก็แล้วกัน”
“งานวันเกิดเพื่อน แล้วอยู่ดึกมากแค่ไหนน้องเอย” อย่างไรเสียพัสวีก็ห่วงน้องสาวอยู่ดี ถ้าไม่ใช่เพื่อนสนิทกันจริง ๆ เขาไม่เคยปล่อยน้องสาวไปค้างบ้านใครสุ่มสี่สุ่มห้า
“ไม่ดึกมากหรอกค่ะพี่เอื้อ สี่ห้าทุ่มก็กลับแล้ว”
“จริงนะ”
“จริงสิคะพี่เอื้อ ทำไมคาดคั้นเอยเป็นเด็ก ๆ ไปได้ล่ะคะ ไหนว่าจะปล่อยเอยใช้ชีวิตของเอยไงคะ” คนพูดทำหน้ากระเง้ากระงอดใส่พี่ชาย
“ก็ได้ ๆ พี่ไม่ถามซอกแซกแล้วก็ได้ ว่าแต่วันนี้วันเกิดใคร”
“ยัยปานค่ะ”
“อ้อแล้วไป” เพราะปานไพลินเป็นเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของน้องสาวเขา จึงไม่น่าเป็นห่วงเท่าไรนัก
“งั้นเอยไปก่อนนะคะพี่เอื้อ”
“อื้ม ขับรถดี ๆ ล่ะน้องเอย”
“ค่า” คนโกหกพี่ชายแอบรู้สึกผิด จนไม่กล้านั่งสู้หน้าเขาต่อไปได้ รีบเดินออกจากห้องนั่งเล่นมาด้วยความรู้สึกไม่สบายใจ
‘ขอโทษค่ะพี่เอื้อ’
หญิงสาวเดินไปขึ้นรถแล้วขับตรงไปยังห้างสรรพสินค้า เพื่อใช้บริการร้านเสริมสวยที่อยู่ในนั้น ใช้เวลาราวสามชั่วโมงกว่าจะเสร็จเรียบร้อยดี จากนั้นก็เดินหาเลือกซื้อของขวัญวันเกิดให้นวิน
‘เฮ้อ ซื้ออะไรดีล่ะเนี่ย’