บท
ตั้งค่า

3

“แม่เธอน่ารักดี ขอมาเป็นแม่ฉันได้ไหม”

“ไม่ให้ นายไม่มีแม่เหรอ” เด็กหญิงปฏิเสธเสียงแข็ง ก่อนจะมองเพื่อนใหม่ตาปริบๆ ขณะเอ่ยถาม

“ไม่มี อยากให้พ่อมีแม่กับเขาบ้าง แล้วเธอล่ะ ไม่มีพ่อเหรอ”

“พ่ออยู่บนสวรรค์” เธอชี้ขึ้นไปด้านบน แม่พูดแบบนี้ให้เธอฟังบ่อยๆ เวลาโดนเพื่อนที่โรงเรียนล้อว่าเธอไม่มีพ่อเหมือนคนอื่นๆ

“แม่เราก็อยู่บนสวรรค์” เด็กชายพูดเสียงเศร้า

“แต่เราไม่ให้แม่เราหรอก แม่เราทำกับข้าวอร่อย ทำก็ขนมอร่อย เล่านิทานก็สนุกอีกด้วย” เธออวดอ้าง ทำปากยื่นใส่เพื่อนใหม่

“พ่อเราก็เก่ง วาดแปลนบ้านหลังโตๆ สวยๆ ให้คนเยอะแยะเลย” เด็กชายอวดอ้าง ทำไม้ทำมือว่าใหญ่โต

“ถึงแม่เราจะวาดบ้านหลังใหญ่ๆ ไม่ได้ แต่แม่เราสวยกว่าพ่อนาย”

“พ่อเราหล่อกว่าแม่ของเธอ” เด็กหญิงทำปากยื่น

“เธอชื่ออะไรเหรอ”

“ชื่อฝันหวาน นายล่ะ”

“ชื่อวินโดร์”

“เด็กๆ คุยกันสนุกสนานเชียว” ชไมพรคุยกับเจ้าของบ้านหนุ่ม เขาคิดค่าเช่าเธอถูกมาก แถมยังมีน้ำใจกับเธออีกด้วย

“ถ้าขาดเหลืออะไรก็บอกผมนะครับ ผมอยู่บ้านข้างๆ ขอความช่วยเหลือหรือเรียกใช้ได้ตลอดเวลาครับ”

“ขอบคุณคุณวัฒน์มากๆ นะคะ ดีจังเลยค่ะ ฝ้ายพาลูกมาอยู่ก็ตัวคนเดียว มีเจ้าของบ้านใจดีแบบคุณวัฒน์ ก็อุ่นใจไปเยอะเลยค่ะ”

ก่อนมาเช่าบ้าน เธอคุยกับวิวัฒน์หลายครั้งเลยรู้สึกสนิทกันในระดับหนึ่ง เขาอาสาช่วยเหลือเธอทุกอย่าง เป็นคนมีน้ำใจอยู่มากโข

“เย็นนี้มากินข้าวที่บ้านฝ้ายนะคะ พอดีเมื่อกี้ผ่านตลาดอยากไปซื้อกับข้าวมาทำกินกันน่ะค่ะ”

“งั้นผมขับรถพาไปตลาดนะครับ”

“ขอบคุณค่ะ” ชไมพรไม่ขัดเพราะจะได้มีคนช่วยถือของ เธอยังไม่คุ้นชินกับที่นี่ มีเพื่อนร่วมทางก็อุ่นใจเหมือนกัน เธอยึดคติที่ว่ามีเพื่อน ดีกว่ามีศัตรู

“คุณลุงคนนั้นจีบคุณแม่เหรอคะ”

“แค่กๆๆ” ชไมพรสำลักน้ำที่กำลังดื่มเมื่อได้ยินบุตรสาวตัวน้อยถามเช่นนั้น

“ทำไมถามแบบนั้นล่ะจ๊ะคนดีของแม่”

“ก็เขามองคุณแม่ตาเป็นมัน” เด็กน้อยทำปากยื่นขณะตอบ

“แก่แดดนะเรา” ชไมพรโยกศีรษะของบุตรสาวไปมาอย่างเอ็นดู

“หนูหวง ไม่อยากให้ใครจีบคุณแม่”

“ไม่ได้จีบหรอกค่ะ คุณลุงเขาเป็นเจ้าของบ้าน และมีน้ำใจมากๆ ด้วย เขาคอยช่วยเหลือเรา อย่าคิดมากสิจ๊ะเด็กน้อย”

“ถ้าคุณลุงจีบ คุณแม่ห้ามใจอ่อนนะคะ”

เด็กหญิงพูดแล้วทำท่าหวงๆ

“ทำสีหน้าแบบนี้มีอะไรจ๊ะ”

“วินโดร์บอกว่าอยากได้คุณแม่ไปเป็นแม่ของเขาด้วย”

“วินโดร์คือใคร อ๋อ... ลูกชายลุงวัฒน์เพื่อนใหม่ของหนูน่ะเหรอจ๊ะ”

“ไม่ได้อยากรับเป็นเพื่อนเสียหน่อย” เด็กน้อยทำปากยื่น กอดอกอย่างไว้ตัว ท่าทางของบุตรสาวทำให้ชไมพรแทบหลุดขำ

“เป็นเพื่อนกันเอาไว้ก็ดีนะจ๊ะ ดีกว่ามีศัตรู”

“ก็ได้ค่ะ หนูจะยอมรับเขาเป็นเพื่อนก็ได้”

“ดีแล้วจ้ะ เดี๋ยวเราจะไปตลาดกันนะจ๊ะ”

จัดของเสร็จชไมพรก็บอกบุตรสาวด้วยรอยยิ้มเอ็นดู

จริงๆ แล้วเธอไม่ได้พาข้าวของอะไรมาเยอะ พามาแค่เสื้อผ้าและของใช้จำเป็นเท่านั้น แต่บ้านเช่าหลังนี้สะดวกสบายมีข้าวของทุกอย่างครบครันเข้าอยู่ได้เลย วิวัฒน์นั้นเป็นคนรอบคอบและน่ารัก เขาจัดการทำความสะอาดบ้านเอาไว้ให้เธอเป็นอย่างดี เรียกว่าทุกซอกทุกมุมน่ามอง ข้าวของจัดเป็นระเบียบเรียบร้อย อีกทั้งประตูหน้าต่าง กลอนอะไรต่างๆ นานา ไม่มีชำรุดทรุดโทรมเลย อยู่แล้วปลอดภัยหายห่วง ไม่ต้องกังวลเรื่องขโมยขโจร

เด็กหญิงมองเพื่อนบ้านที่มารับมารดาอย่างไม่ไว้วางใจ วิวัฒน์ให้มารดาของเธอไปนั่งด้านหน้ากับเขา แล้วให้เธอไปนั่งด้านหลัง

“ไม่เอาค่ะ หนูจะนั่งกับแม่” เด็กน้อยงอแง ชไมพรมองหน้าวิวัฒน์อย่างลำบากใจ ขออภัยอยู่ในที

“ไม่เป็นไรครับ นั่งตรงไหนก็ได้”

รถเก๋งกลางเก่ากลางใหม่ของเขานั่งสบายแอร์ยังเย็นฉ่ำ วิวัฒน์มีบ้านให้เช่าหลายหลัง มีอาคารพาณิชย์ในตลาดปล่อยเช่าด้วย เขาเรียนจบมาก็ออกมาทำอาชีพอิสระ นอกจากรับเขียนแปลนบ้านแล้ว ยังซ่อมคอมพิวเตอร์และเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ได้ด้วย พวกทีวี ตู้เย็น เครื่องซักผ้า เขาสามารถซ่อมได้หมด เธอรับรู้ว่าภรรยาของเขาเสียชีวิตไปตั้งแต่คลอดบุตรชาย เขาจึงครองตัวเป็นโสดมาจนถึงทุกวันนี้ ใช่ว่าไม่อยากมีภรรยา เพราะคิดว่าจะได้ดูแลบุตรชายคนเดียว แต่เพราะวินโดร์ไม่ถูกใจใครสักคน พวกหล่อนก็หมดสิทธิ์ เขาถูกใจหรือไม่นั้นต้องถามลูกชายตัวเล็กแต่แสบใช่เล่นคนเดียวด้วย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel