ตอนที่ 3 แด๊ดดี้
ตอนที่ 3 แด๊ดดี้
ต้นไผ่อ่านเอกสารอยู่นาน หลังจากที่เธออ่านเอกสารจนจบอย่างละเอียด เธอจึงตัดสินใจหยิบมือถือเครื่องนั้นขึ้นมาส่งข้อความไปแนะนำตัว โดยใช้แอพพลิเคชั่นไลน์ส่งข้อความสื่อสารระหว่างเธอและผู้ปกครองคนใหม่
รูปโปรไฟล์ของคุณมิเชลเป็นรูปพระอาทิตย์ไม่ได้มีใบหน้าของเขาคนนั้นให้เธอเห็นแต่อย่างใด ส่วนของต้นไผ่เธอเลือกใช้เป็นรูปต้นไผ่ (ต้นไม้ชนิดหนึ่ง) ไม่ได้มีใบหน้าของเธอให้เห็นเช่นกัน
"สวัสดีค่ะ ขออนุญาตแนะนำตัวค่ะ หนูชื่อเมธาพร ขอบคุณคุณผู้ปกครองที่อุปการะส่งหนูเรียนต่อนะคะ" เธอส่งข้อความไปอยู่นาน มองหน้าจอแล้วมองหน้าจออีก และแล้วเขาก็ตอบกลับมา...
"เธอเรียกฉันว่า แด๊ดดี้แล้วกัน"
"ค่ะคุณแด๊ดดี้ ขอบคุณมากๆที่อุปการะหนูนะคะ หนูจะตั้งใจเรียนค่ะ" ต้นไผ่ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรที่มากไปกว่านี้ ภาษาที่ใช้สื่อสารก็ยังไม่ค่อยเก่ง
"ดีมาก...เธอต้องการใช้เงินต่อเดือนเท่าไหร่ก็บอก ฉันจะได้จัดการโอนเงินให้ มีปัญหาหรืออยากได้อะไรก็ทักมา ต่อไปนี้ฉันคือแด๊ดดี้ของเธอ" ทางโน้นพิมพ์กลับมาอย่างรวดเร็ว ส่วนต้นไผ่เธอยังคงต้องใช้เวลาแปลภาษาอยู่สักครู่ เพื่อความมั่นใจว่าเธออ่านถูกและเข้าใจถูกต้อง
"ค่ะแด๊ดดี้ เดี๋ยวหนูจะบอกไปอีกทีนะคะ" ต้นไผ่รู้สึกว่าแด๊ดดี้ของเธอใจดี เพียงแค่คุยผ่านข้อความกันแค่ไม่กี่คำ ส่วนทางด้านมิเชลเขาก็แค่พูดและตอบไปตามหน้าที่เท่านั้น
"อยากได้เท่าไหร่ก็บอก ไม่ต้องเกรงใจ แค่นี้ก่อนนะ ฉันต้องทำงานแล้ว"
"ค่ะ" ภาพใบหน้าของแด๊ดดี้ ในหัวของต้นไผ่ เขากำลังทำงานอยู่น่าจะโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ไม่ๆๆ น่าจะมีอายุเยอะแล้ว อายุน่าจะประมาณห้าสิบบวก คนอายุน้อยคงไม่มีใครคิดที่จะมาอุปการะเด็กหรอก แถมเขายังให้เธอเรียกเขาว่าแด๊ดดี้อีก แด๊ดดี้สำหรับต้นไผ่แปลว่าพ่อ แต่สำหรับมิเชลไม่ใช่ แค่เป็นน้องเขายังไม่อยากรับเลย
หลังจากที่ต้นไผ่แนะนำตัวกับแด๊ดดี้ ผู้ปกครองคนใหม่ของเธอไปแล้ว ต้นไผ่ก็เดินมาหาคุณแม่เพื่อรายงานให้ท่านทราบ
"คุณแม่คะ หนูทักไปแนะนำตัวเรียบร้อยแล้วนะคะ" ใบหน้าของต้นไผ่ดูดีกว่าตอนแรกที่รับเอกสารและโทรศัพท์มือถือไปเยอะเลย
"เป็นยังไงบ้าง"
"เขาใจดีค่ะ เขาให้หนูเรียกเขาว่าแด๊ดดี้ด้วยค่ะ"
"อย่างนั้นเหรอ ก็ดีนะ"
2วันผ่านไป...
คุณแม่ได้พาต้นไผ่ไปส่งที่กรุงเทพฯ ห้องพักที่ผู้ปกครองคนใหม่ได้จัดเตรียมเอาไว้ให้ อยู่ติดกับมหาวิทยาลัยที่เธอได้เข้าไปเรียน ทุกอย่างถูกจัดเตรียมไว้ให้เธออย่างดี ดีจนคุณแม่รู้สึกอุ่นใจ
"ต้นไผ่ดูแลตัวเองให้ดีนะลูก แม่ต้องกลับแล้ว" ทางโน้นยังมีน้องๆที่ท่านต้องดูแลอีกหลายชีวิต มานานไม่ได้ ท่านมาส่งแล้ว ที่เหลือต้นไผ่จะต้องเรียนรู้เอาเอง
"ขอบคุณคุณแม่มากนะคะ" ต้นไผ่สวมกอดคุณแม่ ทั้งคุณแม่และต้นไผ่รู้สึกใจหายไม่ได้ต่างกัน
"มีปัญหาอะไรก็โทรไปหาแม่ได้ อะไรที่แม่พอช่วยได้แม่ก็จะช่วย" ในใจของต้นไผ่ไม่คิดจะรบกวนท่านอีกต่อไป ที่ผ่านมาเธอรบกวนท่านมาเยอะแล้ว
"สักวันหนูจะกลับไปเยี่ยมคุณแม่นะคะ" เธอให้สัญญาแต่ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ ซึ่งระยะทางที่นั่งรถมามันก็หลายร้อยกิโล
หลังจากที่คุณแม่กลับไปแล้ว ต้นไผ่ก็กลับเข้าห้องพัก เธอหยิบมือถือขึ้นมาพิมพ์ข้อความรายงานคุณแด๊ดดี้
"สวัสดีค่ะแด๊ดดี้ ตอนนี้หนูได้ย้ายมาอยู่ที่ห้องพักที่แด๊ดดี้ได้เตรียมไว้ให้แล้วนะคะ" ซึ่งเธอเพิ่งรู้ตอนมาถึงว่าห้องที่เธออยู่เป็นคอนโด ถูกซื้อขาดไว้นานแล้ว ไม่ใช่ห้องเช่าอย่างที่เธอเข้าใจ ส่วนเจ้าของห้องนี้ชื่อของใครนั้นเธอไม่ทราบแล้วก็ไม่กล้าถามด้วย
ภายในห้องค่อนข้างกว้างขวาง อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่จำเป็นครบ ทุกครั้งที่ต้นไผ่ส่งข้อความไป เธอก็มักจะต้องรออยู่พักนึง...แด๊ดดี้คงทำงานอยู่ ต้นไผ่คิดในใจ
เธออยากรู้ว่าแด๊ดดี้ทำงานอะไรอยู่ที่ไหน แต่เธอก็คงไม่กล้าถามเรื่องส่วนตัวของเขา คงได้แต่เก็บความอยากรู้เอาไว้ในใจเท่านั้น
เมื่อเวลาผ่านไปจนลืม ก็มีข้อความตอบกลับมา
"ห้องพออยู่ได้มั้ย" เขาถามแค่ประโยคสั้นๆ ในใจไม่ค่อยเต็มใจคุยกับเธอสักเท่าไหร่ แต่คำถามของเขาทำให้ต้นไผ่คลียิ้มออกมาทันที รู้สึกได้ถึงความเป็นห่วงที่แด๊ดดี้มีให้
"อยู่ได้ค่ะ ห้องกว้างมาก ขอบคุณแด๊ดดี้นะคะ" ห้องกว้างมาก! ประโยคนี้ทำให้มิเชลขยับคิ้วเข้าหากัน สำหรับเขาห้องนั้นมันเล็กมากอย่างกับรูหนู
ซึ่งห้องนี้เป็นห้องของคุณแม่ของเขาเองเมื่อนานมาแล้ว ช่วงก่อนหน้านี้ปล่อยให้คนเช่า โดยเอาค่าเช่าไว้เป็นค่าทำความสะอาดห้อง ให้หน่วยงานทางคอนโดดูแลให้ คุณนิดา คุณแม่ของเขาไม่ยอมขาย ท่านบอกว่าห้องนี้มันมีความทรงจำดีๆอยู่ ท่านอยากเก็บไว้ ห้องนี้ก็เลยยังอยู่
"แด๊ดดี้โอนเงินเดือนให้แล้วนะ ตั้งแต่เมื่อวาน ดูซิเงินเข้าหรือยัง" เงินเดือนเดือนแรกถูกโอนเข้าบัญชีให้เธอตั้งแต่เมื่อวาน แต่เขาลืมบอก...
"เข้าแล้วค่ะ ขอบคุณแด๊ดดี้มากๆ แด๊ดดี้ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ อย่าทำงานหนักจนลืมดูแลตัวเอง" ต้นไผ่พิมพ์ข้อความนี้เพราะคิดว่าแด๊ดดี้ของเธออายุมากแล้ว ทำแต่งานเธอรู้สึกเป็นห่วง แต่คนที่ได้อ่านข้อความกลับรู้สึกดีกับประโยคข้อความที่เธอส่งมา เพราะงานที่เขาทำมันเยอะมากจริงๆ แล้วที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีใครบอกเขาแบบนี้เลย...
"ถ้าเงินไม่พอใช้ก็บอกนะ" มิเชลรู้สึกว่าเงินที่เธอขอมันน้อยมาก แต่เขาก็เลือกที่จะโอนไปให้เกินจากที่เธอขอนิดหน่อยเท่านั้น เพราะการที่เขาต้องมาเป็นแด๊ดดี้ให้เธอ เขาไม่ได้เต็มใจ เขายอมเป็นแด๊ดดี้ให้เธอเป็นเพราะแด๊ดกับมัมขอร้อง
ส่วนต้นไผ่ เธอไม่รู้ว่าคุณแด๊ดดี้ของเธอมีอาชีพอะไร ทำงานอะไร ฐานะเป็นยังไง เธอจึงขอแค่ที่จำเป็นต้องใช้เท่านั้น เธอกลัวว่าถ้าขอมากเกินไป คุณแด๊ดดี้ของเธออาจจะเดือดร้อนเอาได้...ทั้งหมดนี้เธอคิดของเธอเอาเอง
หนึ่งอาทิตย์ต่อมา ต้นไผ่เริ่มเข้าไปเรียนในมหาวิทยาลัย เธอใช้วิธีเดินในช่วงแรกๆ ถึงคอนโดที่เธอพักอยู่จะไม่ได้ไกลจากที่เรียนมากนัก แต่การเดินเท้าทำให้ต้องใช้เวลา เธอเห็นเพื่อนๆพี่ๆขี่จักรยานเธอจึงอยากได้บ้าง น่าจะประหยัดเวลาเดินทางไปได้เยอะเลย
แต่เงินในบัญชีก็มีจำกัด ในระหว่างที่เธอเดินทางกลับคอนโดหรือห้องพักของเธอนั้น เธอเหลือบไปเห็นป้ายรับสมัครงานพาร์ทไทม์ เป็นเวลาช่วงหลังเลิกเรียนพอดี เธอสนใจจึงเข้าไปสมัคร ซึ่งเจ้าของร้านก็รับเธอเข้าทำงานทันที