บท
ตั้งค่า

04 เปลี่ยนใจ

@โรงพยาบาล

"อาการของน้องชายดิฉันเป็นยังไงบ้างคะคุณหมอ" วันนี้ฉันไม่ได้ไปทำงานก็เลยอาสาพาน้องชายมาหาหมอเอง และก็อยากรู้อาการของแกด้วยว่าต้องรักษาหรือต้องทำอะไรเพิ่มเติมหรือเปล่า

"อืม...เท่าที่หมอตรวจดู เราต้องผ่าตัดนะครับ"

"ผ่าตัด!? ผ่าตัดอะไรคะคุณหมอ ไหนบอกว่าแกไม่ต้องผ่าตัดอะไรไงคะ" ฉันเคยมาคุยกับคุณหมอครั้งหนึ่งแล้ว คุณหมอบอกว่าอาการของน้องชายฉันไม่จำเป็นต้องผ่าตัด เพราะต่อให้ผ่าตัดไปก็ไม่สามารถกลับมาเดินได้อยู่ดี

"ตอนแรกหมอก็คิดแบบนั้นเหมือนกันครับ แต่เท่าที่เอกซเรย์ดูถ้าผ่าตัดเส้นเอ็นที่ทับเส้นประสาทตรงนี้ออก อาจจะทำให้น้องชายของคุณกลับมาเดินได้นะครับ"

"แต่แกไม่เคยเดินมาตั้งแต่เด็กแล้วนะคะ แกจะหัดเดินยังไง"

"ก็ฝึกเดินคล้ายๆ กับเด็กน้อยแหละครับ"

"แล้วค่าใช้จ่าย..."

"ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงเลยครับ แต่หมอก็ยังยืนยันคำเดิมว่าผ่าตัดจะดีกว่า ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายหมอจะให้ผ่อนจ่ายได้เป็นงวดครับ แต่ก่อนผ่าตัดต้องจ่ายเงินจำนวนหนึ่งก่อนครับ"

"แล้วถ้าไม่ผ่าตัดล่ะคะแกจะเป็นอะไรหรือเปล่า"

"ก็ไม่เป็นอะไรครับ แต่ในอนาคตข้างหน้าหมอก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน เส้นเอ็นที่ทับเส้นประสาทอยู่อาจจะทับลงไปอีกและทำให้น้องชายของคุณพิการไปทั้งตัวได้นะครับ"

"พิการไปทั้งตัว?"

"ก็เหมือนกับคนเป็นอัมพฤกษ์อัมพาตแหละครับ ไม่สามารถช่วยเหลือไม่สามารถขยับเขยื้อนตัวเองได้ ต้องนอนนิ่งๆ เฉยๆ ไปตลอดชีวิตครับ"

"....." คำพูดของคุณหมอก็ดูน่าสนใจไม่น้อยเหมือนกัน ยิ่งมีการให้ผ่อนจ่ายแบบนี้ด้วย แต่ฉันก็ยังเป็นห่วงน้องชายกลัวว่าผ่าตัดไปแล้วแกจะเป็นอะไร แต่ถ้าปล่อยไปแบบนี้แกก็อาจจะได้รับผลกระทบในระยะยาวอย่างที่คุณหมอบอก

ฉันอยากให้น้องเดินได้ อยากให้น้องใช้ชีวิตได้เหมือนคนปกติทั่วไป แกคงจะมีความสุขมากกว่าการได้นั่งรถเข็นแล้วออกไปไหนไม่ได้เลยแบบนี้

เด็กในวัยแบบแกน่าจะได้เดินเล่นวิ่งเล่นกับเพื่อนๆ มากกว่า

"แล้วถ้าต้องจ่ายก้อนแรกก่อนผ่าตัดประมาณเท่าไหร่เหรอคะ?"

"ประมาณหนึ่งแสนห้าหมื่นบาทครับ เป็นค่าอุปกรณ์ในการผ่าตัดครับ"

"....." เงินจำนวนนั้นมันมากโขอยู่เหมือนกันนะ เงินเก็บในบัญชีก็มีไม่พอที่จะจ่ายด้วย

"ถ้าตรงส่วนนี้ทยอยจ่ายเอาได้หรือเปล่าคะ"

"หมอเองก็ให้คำตอบไม่ได้จริงๆ ครับ เพราะทางโรงพยาบาลจะเป็นคนจัดการเอง หมอมีหน้าที่แค่รักษาอาการคนไข้ครับ"

"แล้วถ้าจะผ่าตัดคุณหมอจะกำหนดผ่าตัดเมื่อไหร่เหรอคะ?"

"เมื่อร่างกายของคนไข้พร้อมครับ"

"....." ฉันกลัวยังไงก็ไม่รู้น่ะสิ น้องชายของฉันไม่เคยเข้ารับการผ่าตัดเลย แกคงกลัวมากแน่ๆ

"ฉันขอกลับไปคิดดูก่อนนะคะ"

"ยินดีครับ"

"ขอบคุณมากนะคะคุณหมอ"

"ครับ"

ฉันเดินออกไปพาน้องชายกลับบ้าน ฉันไม่กล้าจะบอกเรื่องนี้กับแกเลย ฉันกลัวว่าแกจะกลัวเพราะแกเป็นเด็กที่ค่อนข้างอ่อนแอ กลัวอะไรแบบนี้มาก

แต่ฉันก็คงจะตัดสินใจอะไรไม่ได้เลย ฉันต้องปรึกษาเรื่องนี้กับแม่ก่อน

@เวลาผ่านไป

"เป็นอะไรไปลูก ทำไมนั่งหน้าเครียดแบบนั้น"

"น้องหลับแล้วเหรอจ๊ะแม่"

"หลับไปเมื่อกี้เอง"

"น้ำมีเรื่องจะปรึกษาแม่"

"อะไรล่ะลูก?"

"คุณหมออยากให้น้องผ่าตัด เพราะถ้าปล่อยไว้แบบนี้เส้นประสาทอาจจะถูกทับจนกลายเป็นคนอัมพาตทั้งตัว แต่ถ้าผ่าตัดแล้วน้องก็มีโอกาสที่จะกลับมาเดินได้"

"เหรอลูก แล้วหนูบอกคุณหมอไปว่ายังไง"

"น้ำยังไม่ได้ให้คำตอบคุณหมอหรอกแม่ น้ำมาปรึกษาแม่ก่อน และค่าใช้จ่ายที่จะผ่าตัดมันก็สูงด้วย เงินบัญชีที่มีก็ยังไม่ถึงครึ่งที่จะต้องเอาไปจ่ายเลย เราจะไปหาหยิบยืมใครดีล่ะแม่"

"แม่ก็ไม่รู้เหมือนกันสิ แล้วต้องใช้เงินผ่าตัดเท่าไหร่ล่ะ?"

"คุณหมอบอกว่าต้องจ่ายก่อนประมาณแสนห้า ส่วนค่าอื่นๆ สามารถทยอยจ่ายได้จ้ะ"

"ตายจริงเงินเยอะแยะเลย!"

"หรือว่าน้ำจะหางานเพิ่มอีกดีแม่" ในหัวของฉันมีแค่นี้แหละ ถ้าอยากได้เงินเพิ่มก็ต้องหางานทำเพิ่มขึ้น แต่เมื่อไหร่ล่ะถึงจะพอค่าผ่าตัด

"ให้แม่ไปช่วยทำงานมั้ยลูก"

"อย่าเลยจ้ะแม่ น้ำทำคนเดียวจะดีกว่า แม่คอยอยู่ดูแลน้องเถอะ"

"แม่เป็นห่วง"

"แม่ไปพักผ่อนเถอะจ้ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้น้ำจะลองไปหางานเพิ่มดู"

"....."

ฉันรู้ว่าแม่เป็นห่วง แต่ฉันก็ห่วงแม่ไม่แพ้กัน ฉันจะปล่อยให้แม่ไปทำงานได้ยังไงกัน

แล้วฉันจะไปหางานอะไรทำได้ล่ะเพราะงานที่ทำอยู่มันก็พอแรงแล้ว ทำทั้งกลางวันกลางคืนเลย

หรือว่า...ฉันจะรับข้อเสนอของผู้ชายคนนั้นดี

เพราะนั่นเป็นทางเดียวที่จะทำให้ฉันได้เงินก้อนใหญ่แบบนั้นมาให้น้องชายผ่าตัด ฉันไม่ได้อยากขายศักดิ์ศรีของตัวเอง ไม่ได้อยากขายตัวแลกกับเงิน แต่มันจำเป็นจริงๆ ที่ฉันจะต้องใช้เงินก้อนนั้น และมันก็เป็นทางเดียวที่จะทำให้ฉันได้เงินมากพอในการผ่าตัด

@ตกเย็นของอีกวัน

ฉันกำมือแน่นอยู่หน้าคาสิโนที่เคยมาทำงาน มันทั้งตื่นเต้นรู้สึกแปลกๆ ยังไงก็ไม่รู้ นี่ฉันต้องมาเสียความบริสุทธิ์ให้กับคนแบบนี้จริงๆ เหรอ

"มาหาใครครับ?"

"ฉันมาหาเจ้านายของพวกคุณ บอกเขาว่าฉันชื่อน่านน้ำมีเรื่องจะคุยด้วย"

"รอสักครู่ครับ"

"....." จนถึงตอนนี้หัวใจของฉันก็ยังเต้นตุบตับไม่เป็นท่า มันตื่นเต้นจนมือทั้งสองข้างของฉันเย็นเฉียบไปหมด

"นายบอกว่าให้เข้าไปได้ครับ"

"ขอบคุณค่ะ"

ฉันเดินเข้าไปในห้องที่แอร์เย็นเฉียบอย่างช้าๆ ก่อนจะหยุดยืนอยู่ตรงหน้าโต๊ะทำงานของเขา ซึ่งเขาก็นั่งหันหลังสูบบุหรี่อยู่

"ฉันบอกเธอแล้วว่าเธอจะต้องคลานกลับมารับข้อเสนอของฉัน"

"....."

"ในที่สุดเธอก็เป็นคนมาหาฉันเอง โดยที่ฉันไม่ต้องลงแรงอะไรเลย"

"เลิกพล่ามได้แล้ว ฉันต้องการเงิน แล้วจะให้ฉันทำอะไรก็บอกมา"

"แก้ผ้าแล้วไปขึ้นเตียง"

"ไหนเตียง?"

"ในห้อง"

ฉันมองไปที่ประตูห้องห้องนึง ซึ่งน่าจะเป็นห้องนอนที่เขาบอก

"เธอเต็มใจหรือเปล่า ถ้าไม่เต็มใจฉันไม่เอา ฉันไม่ชอบมีอะไรกับคนที่ไม่เต็มใจ"

"....."

"ถ้าไม่เต็มใจก็กลับบ้านไป"

"เต็มใจค่ะ!" ฉันกัดฟันพูดออกไป เพราะจำเป็นต้องใช้เงินจำนวนนี้จริงๆ

"ถ้าอย่างนั้นก็ไปแก้ผ้าขึ้นเตียงรอ แล้วฉันจะตามไป"

"ค่ะ"

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel