นายอันธพาล #4 ผู้หญิงอย่างว่า
4
‘อืม’
วอล์ฟตอบสั้นๆแล้วเดินหันหลังออกไปในห้องน้ำส่วนฉันที่ทำอะไรไม่ถูกเลยเดินเข้าไปในห้องของเขา ที่เป็นเพียงห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ มีเตียงขนาดสามฟุตครึ่งอยู่ริมสุดด้านใน โต๊ะเขียนหนังสืออยู่อีกมุมหนึ่ง ตรงฝาผนังแปะรูปของผู้หญิงและผู้ชายวัยกลางคนที่คิดว่าน่าจะเป็นพ่อและแม่ของเขา
มีข้อความเล็กๆเขียนเอาไว้จนทำให้ฉันอยากรู้ขึ้นมา จึงต้องเดินเข้าไปดูใกล้ๆ
‘วอล์ฟจะอยู่ให้ได้และจะคิดถึงพ่อกับแม่ตลอดไป’
ทำไมข้อความนี้มันถึงได้ดูเศร้านักนะหรือว่าพ่อกับแม่ของเขาไม่ได้อยู่บนโลกใบนี้แล้ว ความรู้สึกฉันมันบอกแบบนั้นจริงๆ
ครืด~ ครืด~
เสียงสั่นเตือนทำให้ฉันต้องละสายตาออกจากรูปนั้นแล้วหยิบมือถือขอตัวเองขึ้นดู
‘แพรวา’
กริ๊ดด ฉันลืมเพื่อนไปได้ยังไงเนี่ย!!
‘ว่าไงแพร’
(แกถึงบ้านแล้วเหรอ ฉันเป็นห่วงจะแย่แล้ว)
‘อืม พอดีฉันหลบออกมาแล้วเจอลุงสมานมาซื้อเต้าหู้ร้านหน้าปากซอยเลยหนีออกมาไม่ได้น่ะ’ ฉันพูดพร้อมกับไขว้นิ้ว ทำเหมือนตอนที่โกหกป๊าอย่างนั้นแหละ
แต่วันนี้คงเป็นวันที่ฉันทำตัวแย่มากๆ
(บังเอิญจัง หรือลุงสมานสะกดรอยตามพวกเรามา เอ๊ะ หรือคนที่สั่งให้ตำรวจมาคือป๊าแก’ ความคิดของแพรวาทำให้ฉันต้องกุมขมับ
แต่ช่วยไม่ได้เพราะฉันเป็นฝ่ายกุเรื่องขึ้นมาเอง
‘ฉันจะไปสอบสวนลุงสมานดู งั้นแค่นี้นะแกฉันง่วงมากวิ่งหนีจนเพลีย’
(อื้ม ฝันดีนะ)
‘จ้า’
หลังจากแพรวาวางสายไปฉันก็สำรวจห้องของวอล์ฟต่อ ห้องของเขาดูเป็นระเบียบมากกว่าฉันอีก ถ้าฉันไม่มีแม่บ้านห้องคงเหมือนป่ารกร้าง
ก๊อกๆ
เสียงเคาะประตูดังขึ้นทำให้ฉันที่กำลังสอดส่อง(เสือก)กับเรื่องของเขาอยู่ต้องเดินไปเปิดประตู แล้วก็เจอกับผู้ชายน่าหล่อที่ฉันตามมายืนหน้านิ่งอยู่แต่ตอนนี้เขามีเพียงผ้าเช็ดตัวพันรอบเอวเอาไว้ ลำตัวของเขามีหยดน้ำเกาะไปทั่วร่างกายบ่งบอกว่าเขาเพิ่งจะอาบน้ำเสร็จ ไหนจะกลิ่นสบู่แบบผู้ชายที่ชวนหลงไหลนั่นอีก
‘เธอเป็นผู้หญิงแบบไหนกัน’ เขาพูดแล้วขมวดคิ้วมองฉันอย่างไม่เข้าใจ และฉันก็ไม่เข้าใจการกระทำของเขาเช่นกัน
‘ทะ ทำไม’
‘เธอยืนมองฉันเกือบสามนาทีแล้ว คิดหื่นกับฉันหรือไง... หลบไปฉันจะเอาเสื้อผ้า’ ฉันเบี่ยงตัวหลบให้เขาเดินผ่านเข้าไป อ่า...แบบนั้นมันยิ่งได้กลิ่นตัวที่ทำให้ฉันอยากจะลองกอดดูซักครั้ง
กริ๊ดด นี่ฉันเป็นอะไรไปนะ
แปะ แปะ
ฉันเอามือตบหน้าตัวเองเพื่อเรียกสติให้กลับคืนมา ทำให้วอล์ฟต้องหันมามองอย่างสงสัย
‘เป็นอะไร’
‘เอ่อ เปล่า นี่! ฉันมีอะไรจะถามหน่อย’ ฉันเดินไปนั่งที่เตียงเล็กฟของเขาแล้วมองคนที่กำลังสวมเสื้อยืดตัวใหญ่
‘เราไม่ได้สนิทกัน ฉันไม่ชอบให้ใครถามมาก’ เขาพูดเสียงเรียบแล้วหยิบกางเกงและนั่นมัน...กางเกงใน
‘นะ นายมีแฟนหรือเปล่า’ คำถามของฉันทำให้เขานิ่งไปแล้วค่อยๆหันมามองฉันแว่บหนึ่งแล้วก็ทำท่าไม่สนใจต่อ
‘...’
‘เอ่อ ฉันก็แค่อยากรู้ เพราะฉันมาอยู่บ้านนายแบบนี้เดี๋ยวแฟนนายรู้เข้าจะแย่เอา’ มันเป็นข้ออ้างที่ดีมั้ยล่ะ ที่จริงฉันอยากรู้เพราะฉันสนใจเขาต่างหาก
เกลียดความแรดของตัวเองจริงๆ แต่ช่วยไม่ได้ก็ฉันเพิ่งเป็นกับเขาเนี่ยแหละ แล้วยันคุณหนูอย่างฉันจะปล่อยผ่านของที่ตัวเองชอบไปได้ยังไง
‘ไม่มี’
‘จริงนะ!’
‘...’ วอล์ฟหันมามองท่าทางที่เหมือนจะตื่นเต้นเกินเหตุของฉันแล้วขมวดคิ้วแน่น นี่คงเป็นอย่างหนึ่งที่เขาชอบทำสินะ ทำหน้าโหดๆแบบนั้น
‘งั้น...ฉันเป็นเพื่อนกับนายได้ใช่มั้ย’ ฉันยิ้มบางฟแล้วมองเขาอย่างดีใจ ถึงแม้เขาจะทำหน้าโหดแต่ฉันกลับรู้สึกว่าเขาไม่ได้คิดอยากจะทำร้ายฉันหรอก
‘เธอ!...’ เหมือนเขาจะปฏิเสธในตอนแรกแต่อยู่ฟสีหน้าของเขาก็ดูอ่อนลงแล้วถอนหายใจออกมาเบาๆ
‘ที่จริงนายไม่ต้องตอบตอนนี้ก็ได้แต่ฉันอยากรู้จักนายจริงๆนะ’
‘ทำไมต้องเป็นฉัน! ทำไมเธอต้องช่วยฉัน ทั้งที่เราไม่รู้จักกัน’ เขาถามขึ้นอย่างจริงจังในมือยังคงถือกางเกงอยู่ในมือ
‘ฉัน...ฉัน...สนใจนาย’
‘หึ’ เสียงหัวเราในลำคอเบาๆทำให้ฉันไม่เข้าใจ ฉันพูดอะไรผิดไปหรือเปล่านะ แล้วทำไมเขาต้องยิ้มมุมปากแบบนั้น
‘มะ มีอะไรหรือเปล่า’ น้ำเสียงของฉันติดขัดเมื่ออยู่ๆคนตรงหน้าก็วางกางเกงของเขาไว้บนโต๊ะก่อนจะก้าวเขามาหาฉันแล้วจับไหล่ของฉันไว้แน่น
‘เธอคงเป็นผู้หญิงที่ชอบหนีเที่ยวแล้วตามไปนอนกับผู้ชายไปทั่วสินะ’
‘ไม่ใช่อย่างนั้นนะ นายเข้าใจผิดแล้ว ฉันหนีเที่ยวก็จริงแต่นี่มันครั้งแรก แล้วฉันก็ไม่ได้ตามไปนอนกับผู้ชายด้วย สาบานได้เลย’ ฉันเถียงออกไปตามความเป็นจริงแต่สีหน้าของเขาดูไม่ได้เชื่อคำพูดของฉันเท่าไหร่
‘ไม่มีผู้หญิงดีๆคนไหนที่แต่งตัวล่อผู้ชาย แล้วไปอยู่ในที่แบบนั้น แถมยังพยายามจะตามฉันมาอีก เธอก็เห็นใช่มั้ยว่าฉันจน ไม่มีเงินให้เธอหรอกนะ ต่อให้ฉันนอนกับเธอแล้วเธอท้องฉันก็ไม่มีปัญญารับผิดชอบ’ คำพูดของเขาเหมือนของแหลมคมบางอย่างที่เสียดแทงจิตใจมากๆ หรือฉันคิดผิดที่ตามเขามา
แต่ว่าที่เขาพูดมามันก็จริง นั่นสินะ...ใครๆก็ต้องคิดแบบนั้น
‘นายเข้าใจผิดแล้ว’
‘หรือเธอต้องการแค่เซ็กส์’
คำถามของเขาทำให้ฉันต้องทำตาโต หัวใจเต้นรัวเมื่อเขาพูดจบแล้วเลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ ใจหนึ่งก็ไม่อยากต่อต้านเลยแต่ถ้าเป็นแบบนั่นเขาก็คงจะมองฉันแย่กว่าเดิม และคงเป็นแค่ผู้ใจง่ายจริงๆ
‘ไม่ใช่!’ ฉันดันตัวของเขาออกห่างแล้วยืนขึ้นพร้อมกับถอยออกมา
‘ฉันหนีเที่ยวเพราะไม่เคยได้ออกมาข้างนอกกับเพื่อน แต่ฉันอายุแค่สิบแปดแล้วตำรวจลงตรวจที่ร้านพอดีเลยหนีออกด้านหลังแล้วไปเจอนาย แล้วที่นายถามว่าทำไมฉันถึงช่วยนาย ก็เพราะว่า...ฉัน ฉัน...ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงกลัวว่านายจะโดนไอ้ผู้ชายคนนั้นแทง’
‘...’ ฉันอธิบายยาวเหยียดจนวอล์ฟยืนนิ่งไป แถมยังมองหน้าฉันไม่ละสายตา
‘แล้วที่ฉันตามนายมาที่นี่ ก็เพราะฉันกลัวจะไม่ได้เจอนายอีกเลยอยากมารู้จักนายมากขึ้น’
‘รู้มั้ยที่เธอทำอยู่ คนอื่นเขามองว่ามันไม่ดีมีแต่ผู้หญิงอย่างว่าจะทำ’ เขาพูดจบก็หยิบเสื้อผ้าของตัวเองแล้วเดินออกจากห้องไป ปล่อยให้ฉันครุ่นคิดกับคำพูดของเขาอยู่ครู่ใหญ่
เขาพูดขนาดนี้แล้วฉันจะอยู่ตรงนี้ทำไมให้อับอายอีกนะ
‘...’
‘ฉันกลับก็ได้ บางทีฉันคงจะลืมคิดไป’