นายอันธพาล #3 นอนด้วยคนนะ
3
‘นะ นายจะไม่ทำอะไรฉันใช่มั้ย’
ฉันถามออกไปด้วยน้ำเสียงสั่นๆ แล้วมองหน้าของเขาที่กำลังจ้องมาทางฉันนิ่งๆ ถึงแม้จะกลัวแต่ในใจกลับบอกกับฉันว่าเขาไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร
และยิ่งรู้สึกแบบนั้นฉันก็รู้สึกหัวใจเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ
‘ฉันไม่ทำร้ายคนที่ไม่ทำร้ายฉันหรอก’
เขาตอบเสียงเรียบแล้วก้าวถอยหลังออกไปห่างฉันเหมือนกับว่าเขารู้ ว่าฉันกำลังกลัว ฉันค่อยๆยืนขึ้นแล้วแกล้งปัดเนื้อตัว
‘นายมีอะไรกับฉันหรือเปล่า’ ฉันถามแล้วแอบมองหน้าของเขาที่มีเลือดซึมออกมาบริเวณหางคิ้วข้างขวา คงเป็นเพราะพวกที่นอนกองหับพื้นนั้นแหละมั้ง
‘ขอบคุณที่เตือนฉันเมื่อกี้’ เขาปรายตามองมาที่ฉันนิดนึงแล้วหันหน้าหนี เหมือนกับว่าการพูดขอบคุณมันเป็นเรื่องน่าอายอย่างนั้นแหละ
‘อ่อ อื้ม ไม่เป็นไร แฮ่ๆ งั้น ฉันไปก่อนนะ’ ฉันหัวเราแห้งแล้วเดินหลบเขาออกไป
‘เห้ย! มันอยู่ตรงนั้น ไอ้...วอล์ฟ!!’
ไม่ทันที่ฉันจะได้ก้าวเท้าออกไปจากตรงนั้นเสียงของผู้ชายกลุ่มใหญ่ก็ดังขึ้น และตรงหน้าคือพวกเด็กช่างที่ใส่ชุดยูนิฟอร์มเดียวกับพวกที่นอนเรี่ยราดกับพื้นหญ้า
หมับ!
‘อ๊ะ!’
‘วิ่ง!’ ผู้ชายที่ฉันเพิ่งรู้ว่าเขาชื่อวอล์ฟ (เพราะได้ยินพวกนั้นด่าชื่อเขา) ขว้าข้อมือของฉันไว้แล้วดึงให้วิ่งตาม ฉันตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้จนคิดอะไรไม่ออก
และวิ่งตามเขามา!!
‘นี่ นะ นายจะพาฉันไปไหน’ ฉันถามเสียงหอบในขณะที่ถูกเขากระชากแขนให้วิ่งจนตอนนี้ขาฉันแทบจะฉีกอยู่แล้ว
เขาหันไปมองข้างหลังแล้วไม่ยอมตอบก่อนจะพาฉันวิ่งทะลุออกมายังซอยหนึ่งที่มีกำแพงสูงล้อมรอบตึกสูงเอาไว้
ตึก ตึก ตึก
พรึ่บ!
เขาดึงตัวของฉันเข้าไปหลบในซอกตึกที่ค่อนข้างจะคับแคบ
‘นี่ อื้อ’ พอฉันจะอ้าปากถามเขาก็เอามือมาปิดปากเอาไว้ แถมตอนนี้ตัวเราก็แนบชิดติดกันจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจหอบถี่ที่เกิดจากการยิ่งมาเกือบห้าร้อยเมตร
‘เงียบ’ เสียงของเขาดูเหนื่อยๆ ก่อนจะชะโงกหน้าออกไปมองและรีบหลบเข้ามาอีกครั้งพร้อมกับเอามือมารวบตัวฉันไว้ในอ้อมแขน
ตึก ตึก ตึก
‘มันไปตายห่าอยู่ไหนวะ!!’ เสียงของพวกนักเลงดังขึ้นใกล้ๆแต่ฉันได้แค่ฟังเพราะตอนนี้หน้าของฉันซุกอยู่ในอ้อมอกของเขา
ตึกตัก ตึกตัก
ทำไมสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้ฉันถึงได้มีความรู้สึกแปลกๆที่ไม่ใช่ความกลัวกันนะ เขาเป็นผู้ชายคนแรกที่ได้กอดฉันถ้าไม่นับป๊ากับเฮีย
‘กูเห็นมันวิ่งมาทางนี้นะเว้ย!’
‘ไปดูตรงนุ้นเถอะ’
แล้วเสียงของพวกนั่นก็ค่อยหายไป ฉันได้แต่ยืนนิ่งอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งเขาคลายอ้อมแขนออกแล้วชะโงกหน้าออกไปส่องดูอีกครั้ง
‘พวกมันไปแล้ว’ เขาพูดเสียงเรียบแล้วหันมาทางฉันที่ยังคงทำตัวไม่ถูก
‘อะ อ่อ อื้ม’
‘บ้านเธออยู่ไหน’
‘ห๊ะ’ ฉันทำตาโตเมื่อได้ยินคำถามนั้น จนลืมไปซะสนิทว่าตอนนี้เพื่อนๆของฉันต้องรออยู่แน่ๆ
‘บ้านเธออยู่ไหน ฉันจะไปส่ง’ เขาถามขึ้นอีกครั้งแล้วจ้องหน้าฉันนิ่ง ตอนนี้ระห่างของเราแค่คืบเดียวเท่านั้น
‘เอ่อ คือ...ฉันกลับบ้านไม่ได้หรอกพอดีว่า เอ่อ...เอาเป็นว่าวันนี้ฉันไม่กลับบ้าน’ คำพูดของฉันทำให้เขาขมวดคิ้วมอง ก่อนจะเลื่อนสายตามองชุดที่ฉันกำลังสวมใส่อยู่
‘หนีเที่ยว? จะไปนอนกับผู้ชายสินะ’
‘เปล่านะ!’ ไม่รู้ทำไมฉันต้องรีบปฏิเสธขนาดนั้นทั้งที่มันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเขา
‘แล้วเธอจะไปที่ไหน หรือเธอไปเองได้ งั้นเราก็แยกกันตรงนี้’ เขาทำท่าจะหมุนตัวออกจากซอกตึกแต่ความบ้าบิ่นของฉันกลับทำในสิ่งที่ไม่คาดคิด
‘เดี๋ยว! ฉันขอไปอาศัยบ้านนายหน่อยได้มั้ย พอดีว่าฉันมีปัญหากับที่บ้านนิดหน่อย’
ไม่รู้อะไรที่ทำให้ฉันทำแบบนี้ แต่รู้แค่ว่า...ถ้าวันนี้ฉันปล่อยให้เขาเดินจากไป เราคงไม่มีโอกาสได้พบกันอีกแน่ๆ ในเมื่อนี่มันเป็นคืนเดียวที่ฉันจะหนีเที่ยวแบบมีข้ออ้างที่ดีที่สุดได้คือการมาทำรายงานบ้านเพื่อน
ใครจะว่าแรดฉันก็ยอม!!
‘ไม่ได้’ เขาตอบแค่นั่นแล้วสะบัดแขนออกจากมือของฉัน น่าอายชะมัดเลย บางทีเขาอาจจะมีแฟนแล้วก็ได้แต่ฉันยังกล้าขออะไรแบบนั้น
‘อ่อ อื้ม ไปเป็นไร’
‘...’
ฉันเดินคอตกออกมาจากตรงนั้นเงียบๆแล้วเดินไปตามทางก่อนจะล้วงมือถือในกระเป๋าสะพายออกมา ตอนนี้แพรวาโทรเข้ามาเกือบสิบสายแล้ว
ฉันมัวมาบ้าผู้ชายแล้วทำให้เพื่อนเป็นห่วงได้ยังไงกัน!!
หมับ!
‘...’ อยู่ๆก็มีมือหนาของใครซักคนมาขว้าข้อมือของฉันเอาไว้ จนฉันตกใจหันไปมองอย่างรวดเร็ว แล้วก็ต้องถอนหายใจออกมาเมื่อเป็นผู้ชายคนเดิมที่เพิ่งจะปฏิเสธความแรดของฉัน
‘ถ้าเธอไม่มีที่ไป ก็ไปบ้านฉันก่อนก็ได้ ฉันไม่อยากรู้ข่าวว่ามีคนโดนฆ่าข่มขืนแถวนี้’
มือที่กำลังจะกดโทรหาเพื่อนรีบกดล็อคมือถือทันทีก่อนจะยิ้มบางๆออกมาให้กับผู้ชายตรงหน้า
‘ขะ ขอบใจนะ’
เขาไม่พูดอะไรก่อนจะเดินนำฉันไปอีกทางเงียบๆ จนกระทั่งเราเดินมาไกลพอสมควรฉันหยิบมือถือขึ้นมาอีกครั้งแล้วกดส่งข้อความไปให้แพรวา
‘ไม่ต้องห่วงนะแพร ฉันเรียกให้ลุงสมานมารับแล้ว’
ในตอนนี้ฉันคงจะเป็นเหมือนเด็กใจแตกคนหนึ่งที่เพิ่งจะออกมาเจอโลกกว้างได้ไม่กี่ชั่วโมงแล้วเผลอหลงไหลบางอย่างข้างทางเข้าจนหาทางกลับไม่เจอ
‘บ้านฉันเล็กนะ อาจจะทำให้เธอลำบากกว่าเดิม แต่คงดีกว่าถ้าเธอออกไปเจอกับพวกนั้น’ คำพูดนิ่งๆที่ดูอบอุ่นจากความเป็นห่วงของเขาทำให้ฉันแอบยิ้มออกมา
แบบนี้ใช่มั่ยที่เรียกว่ารักแรกพบ ทั้งที่เราไม่เคยรู้จักนิสัยใจคอไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นยังไง
‘ไม่เป็นไร ฉันอยู่ได้สบายมาก’ ฉันตอบแล้วยิ้มให้เขา ก่อนจะหยุดฝีเท้าลงเมื่อเขาหยุดยืนอยู่หน้าบ้านหลังหนึ่งในซอยแคบๆ
ตรงหน้าเป็นบ้านที่ขนาดเล็กกว่าโรงจอดรถของฉันซะอีก มีไฟดวงเล็กเปิดหน้าบ้านแต่มันกระพริบติดๆดับๆเหมือนในหนังผี
‘นี่แหละบ้านฉัน’ เขาพูดสั้นๆแล้วแรายตามองฉันแว่บหนึ่งก่อนจะเดินนำเข้าไปในบ้าน
ภายในบ้านถูกแบ่งเป็นสองห้องและมีห้องโถงเล็กๆที่รวมทั้งห้องกินข้าว ห้องนั่งเล่น ห้องรับแขกไว้ในที่เดียวกัน
‘เธอนอนห้องฉันแล้วกัน เดี๋ยวฉันออกมานอนข้างนอก’ เขาบอกแล้วเดินเข้าไปหยิบเอาอะไรซักอย่างในห้องของตัวเอง
‘แล้วอีกห้อง...’
‘ย่าฉันนอน’
‘เดี๋ยว เอ่อ นายชื่อ...วอล์ฟ ใช่มั้ย’ ฉันขว้าแขนเขาไว้แล้วถามขึ้นก่อนที่เขาจะเดินหนีออกไป
‘อืม แล้วเธอ...’
‘มิวมิว’