ตอนที่ 2 ต่อรอง / คุณธันวา
ตอนที่ 2 ต่อรอง / คุณธันวา
ภายในห้องทำงานของท่านประธานหนุ่มคนใหม่ ธันวากำลังนั่งก้มหน้าก้มตาทำงานตรงหน้าอย่างขะมักเขม้น เขากำลังออกแบบเครื่องประดับชิ้นใหม่ให้กับบริษัท ที่กำลังจะนำไปโชว์ในงานเครื่องเพชรที่กำลังจะมาถึงเร็วๆนี้
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
“เชิญครับ”
“พี่ธันสุดหล่อครับ” เสียงน้องชายไม่เอาไหนของเขา ร้องเรียกพี่ชายดังมาแต่ไกล
“อ้าวนึกว่าใคร มีอะไร” ใบหน้ายิ้มกริ่มของปกป้อง ทำให้คนเป็นพี่รีบก้มหน้าทำงานต่อ...ไม่อยากมองหน้ามัน ยิ้มมาแต่ไกลแบบนี้ มันจะต้องมีเรื่องรบกวนแน่ๆ
“พี่จะเอาคอนโดคืนจริงๆเหรอ”
“ทำไม...จะยึดหรือไง”
“ได้มั้ยล่ะ” ธันวาวางปากกาในมือลงแล้วเงยหน้ามองน้องชายอีกครั้ง ด้วยสายตานิ่งๆ
“ไม่ได้! รีบๆย้ายออกไปเลย ให้เวลาย้ายของแค่วันนี้ พรุ่งนี้พี่จะเอาห้องของพี่คืนแล้ว” เขาไม่ชอบอยู่บ้าน เขารักอิสระชอบความเป็นส่วนตัวที่สุด แต่ก็เป็นผู้ชายขี้เหงาไม่ค่อยชอบนอนคนเดียวสักเท่าไหร่
“วันนี้!...พูดเป็นเล่น พี่ไปอยู่ต่างประเทศมาก็นาน น่าจะอยู่บ้านให้คุณแม่หายคิดถึงก่อนนะครับ” ปกป้องเองก็ชอบอิสระ แต่ติดอยู่ตรงที่ไม่มีเงินไปซื้อเองนี่สิ
“แกมีอะไรหรือเปล่า ว่ามาเลยดีกว่า” เขาเริ่มรำคาญ!
“ไม่มี๊...” เสียงสูงซะขนาดนี้ ไม่ยอมพูดก็แล้วแต่เลย
“ไม่มีก็ดี พรุ่งนี้สี่โมงแกต้องขนของทั้งหมดของแกออกจากห้องของพี่ไปให้หมด ห้ามเหลือแม้แต่ชิ้นเดียว”
“ใจร้ายที่สุด!”
“อ่อ...ขอรถคืนด้วย”
“โอ้โห! ผมใช้จนเน่าแล้ว ยังจะเอาคืนอีกเหรอ” คนเป็นพี่สูดหายใจเข้าปอดลึกๆ มันกล้าใช้คำว่าเนากับรถที่ขอยืมไปใช้แบบฟรีๆ
“ยกให้ก็ได้...ถามจริงๆเถอะ งานก็ทำเงินเดือนก็ไม่ใช่น้อย เงินไม่มีเก็บเลยเหรอ” เงินเดือนผู้บริหารระดับสูงอย่างน้อยๆเลยยังไงก็หกหลัก ถ้าเทียบกับลูกจ้างในบริษัท ถือว่าได้มากกว่าหลายเท่าเลยนะ
“เงินเดือนแค่ไม่เท่าไหร่เอง จะไปพออะไร” ไม่เท่าไหร่ที่ว่าก็หลักแสนแหละ แต่ก็ยังไม่พอใช้จ่าย ได้เยอะก็ใช้เยอะ ไหนจะออกเที่ยว เลี้ยงเพื่อน เปย์สาวอีก บางเดือนแทบไม่พอใช้
“แล้วหุ้นล่ะ ปีนี้หุ้นของบริษัทเราโตจนพี่กลัว” กลัวว่าเขาจะทำได้ไม่ดีพอเท่ากับปีที่ผ่านๆมา
“หุ้นของผม มีก็เหมือนไม่มี คุณแม่ไม่ยอมให้เบิก ท่านบอกว่ารอให้ผมอายุได้สามสิบก่อน ถึงจะเอาเงินตรงส่วนนั้นมาใช้ได้” ตอนนี้ปกป้องอายุยี่สิบแปดแล้ว เหลืออีกสองปี
“สมน้ำหน้า...สงสัยคุณแม่อยากจะให้แกเก็บเงินเอาไว้สู่ขอลูกสะใภ้ให้ท่านมั้ง”
“แล้วพี่ล่ะ มีหรือยัง” ปกป้องหมายถึงคนรักของพี่ชาย อายุมากกว่าเขาตั้งหลายปี น่าจะมีได้แล้ว
“ยัง..." เพลย์บอยอย่างเขาผ่านผู้หญิงมานับไม่ถ้วน ยังไม่เคยเจอใครที่สามารถทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงได้เลยสักคน
"พี่เลือกเลขาได้หรือยัง"
"ได้แล้ว น่าจะเริ่มงานพรุ่งนี้"
“อ่อครับ ถ้าอย่างนั้นผมไปก่อนนะ ขอบคุณสำหรับรถนะครับ ส่วนคอนโดพรุ่งนี้ผมจะขนของออกให้”
“อือ...” ธันวาพยักหน้าให้น้องชาย แล้วจึงก้มหน้าทำงานต่อ ส่วนปกป้องก็เดินออกจากห้องทำงานของพี่ชายไป
สักครู่ใหญ่ๆ เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นอีกครั้งที่หน้าห้อง
“ก๊อก ก๊อก ก๊อก”
“เชิญครับ” เสียงของคนด้านในเอ่ยอนุญาต เขมิกาจึงเปิดประตูแล้วเดินเข้าไป
“สวัสดีค่ะ ท่านประธาน ขออนุญาตแนะนำตัวนะคะ ดิฉันเขมิกาคนที่ท่านประธานเลือกให้มาเป็นเลขาค่ะ” เขมิกาเข้ามาในห้องนี้ก็เพื่อจะเข้ามาปฏิเสธตำแหน่งเลขาที่หลายๆคนอยากได้แต่เธอไม่ต้องการ
“ครับ” เขาพยักหน้า แววตาของเขามองไปที่หญิงสาวเหมือนคนไม่เคยรู้จักกันมาก่อน คงจะมีแต่เธอที่รู้จักเขาอยู่ฝ่ายเดียว
“ดิฉันขอสละสิทธิ์ค่ะ”
“อ้าวทำไมล่ะ”
“ดิฉันคิดว่า ดิฉันไม่เหมาะกับงานตรงนี้หรอกค่ะ อีกอย่างตอนที่หัวหน้าส่งรายชื่อมาให้ท่านประธานเลือก หัวหน้าก็ไม่ได้ถามความสมัครใจของดิฉันก่อนด้วย”
ท่านประธานหนุ่มเริ่มขยับคิ้วเข้าหากันเล็กน้อย เขามองไปที่หญิงสาวที่ยืนตัวตรงอยู่ด้านหน้า เขามองเธอตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า เธอสวยรูปร่างอวบอิ่มมีน้ำมีนวลจัดว่าสมส่วนกำลังดี แอบนึกเสียดายเธอในใจ เขาอยากได้คนสวยและคนเก่งมาร่วมงาน ถ้าได้ร่วมงานกันน่าจะดีอยู่ไม่น้อย
“แล้วถ้าผมยังคงยืนยันว่าอยากได้คุณมาเป็นเลขาให้ผมล่ะ แลกกับเงินเดือนอีกหนึ่งเท่าจากที่คุณได้อยู่ตอนนี้ดีมั้ย” เขาเสนอเพิ่มเงินเดือนให้เธออีกหนึ่งเท่า เขาแอบเห็นเงินเดือนของเธอแล้ว เธอได้อยู่ที่หมื่นแปดต่อเดือน เขาเพิ่มให้อีกหนึ่งเท่า น่าจะทำให้เธอตัดสินใจใหม่ ยอมมาทำงานให้เขา
“อื้อ...ถ้าอย่างนั้นดิฉันขอถามก่อนว่า งานที่ดิฉันต้องทำมีอะไรบ้างคะ” น้ำเสียงหวานหูเอ่ยถามออกไป ธันวายิ้มกริ่ม เพิ่มให้เยอะขนาดนี้ งานที่ว่าก็คงต้องสมน้ำสมเนื้อหน่อย
“ทุกอย่าง...ที่ผมต้องการ” เขาเริ่มเจ้าเล่ห์ แต่มีหรือคนที่เคยตกหลุมพรางมาแล้วครั้งหนึ่งจะยอมตกลงไปอีกง่ายๆ
“อื้อ...ถ้าอย่างนั้น ดิฉันขอสามเท่า น้อยกว่านี้ดิฉันขอปฏิเสธค่ะ” เธอเรียกค่าแรงในแบบไม่อยากมา ไม่ว่าจะกี่เท่าเธอก็ไม่อยากมาอยู่ดี แล้วที่เรียกไปสามเท่า เธอคิดว่าเขาคงไม่กล้าจ่าย
“ปกติคุณได้อยู่หมื่นแปด ผมเพิ่มให้อีกหนึ่งเท่ามันก็มากเกินไปแล้วนะ” น้ำเสียงของเขาเริ่มเข้มขึ้น ไม่คิดว่าเธอคนนี้จะกล้าต่อรองราคาที่สูงลิบลิ่วขนาดนี้ อยากรู้นักเธอมีอะไรดี ประสบการณ์ทำงานที่นี่ก็ไม่ได้มากมายอะไร
“ดิฉันไม่ได้บังคับท่านประธานนี่คะ ขอตัวนะคะ” เธอยิ้มหวานให้เขาอย่างผู้ชนะ ใครอยากมาก็เชิญแต่เธอไม่อยากมาแน่นอน
“เดี๋ยว...” ขาเรียวสวยที่กำลังจะก้าวขาออกไปจากห้องทำงานส่วนตัวของเขาหยุดชะงักลงทันที เธอขยับคิ้วเข้าหากันเล็กน้อย แต่ก็ยอมหันกลับมาด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มในแบบที่เธอไม่เคยยิ้มให้ใครมาก่อน
“สี่หมื่น...” เขาต่อรองอีกครั้ง สี่หมื่นที่เขาให้เทียบเท่ากับเงินเดือนของผู้บริหารเลยนะ
“ห้าหมื่นสี่ค่ะ”
“เรียกเงินเดือนสูงขนาดนี้ มั่นใจในฝีมือการทำงานของตัวเองขนาดนั้นเลยเหรอ” แขนใหญ่ยกขึ้นกอดอก สายตามองไปที่ใบหน้าของเธอในแบบจับจ้อง แต่คนตรงหน้าก็ไม่ได้มีท่าที่ว่าอยากจะมาทำงานให้กับเขาเลยแม้แต่น้อย
“ก็อย่างที่บอก ดิฉันไม่ได้อยากมา ท่านประธานหาคนใหม่ น่าจะง่ายกว่าเพิ่มเงินเดือนห้าหมื่นสี่ให้ดิฉันจริงมั้ยคะ” สีหน้าของหญิงสาวปรากฏรอยยิ้มน้อยๆเมื่อรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะเป็นผู้ชนะในการต่อรองครั้งนี้...ถ้าเขากล้าจ่าย เธอก็กล้ามา!
“คุณไม่อยากมาทำงานกับผม” เขาลุกยืนขึ้น ฝ่ามือใหญ่ทั้งสองข้างเท้าอยู่บนโต๊ะทำงาน สายตาคมเข้มจับจ้องมองไปที่ใบหน้าสวยของเธอนิ่งๆ
“ค่ะ” เธอตอบกลับไปตรงๆเสียงดังฟังชัด
“ขอตัวนะคะ” หญิงสาวกำลังจะหมุนตัวออกจากห้องทำงานส่วนตัวของเขาไปอีกครั้ง แต่!
“ตกลง! ห้าหมื่นสี่ พรุ่งนี้เริ่มทำงานได้”
“เพราะอะไรคะ” สีหน้าของเขมิกาเปลี่ยนไปทันที เธอไม่คิดว่าเขาจะกล้าจ่ายเงินเดือนให้เธอแพงมากขนาดนี้
“เพราะผมอยากเอาชนะคุณไง” เขมิกาสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ แล้วรีบเดินออกจากห้องทำงานของเขาไป