ผมขอโทษ
คิ้วเข้มเลิกสูงเมื่อเห็นคนตรงหน้าทำท่าเหมือนจะร้องไห้ เขามองเธอที่กวาดสายตามองตามกระดาษสีขาวที่ลอยอยู่เหนือน้ำอย่างรู้สึกผิด
“คุณขึ้นมาก่อนผมรีบ” เขาบอกน้ำเสียงเรียบเฉย ทำคนฟังโมโหรู้สึกไม่พอใจ
“คุณรีบเป็นคนเดียวรึไง คุณทำเอกสารสัญญาของฉันเปียกน้ำหมดแล้ว”
เธอบอกน้ำเสียงราวกับจะร้องไห้ แล้วไอ้น้ำตาที่คลอๆนั่นอีก เขามองใบหน้าสวยที่จ้องตาเขาไม่วางตาแล้วต้องสบถออกมา
“ให้ตายสิ ”
เสียงถอนหายใจหนักไม่รู้จะแก้สถานการณ์นี้อย่างไร ทั้งคู่ยังคงยืนอยู่ในน้ำไม่ขยับไปไหน ก็เขาไม่ได้ตั้งใจนี่หว่าแล้วจะต้องทำยังไง เขาคิด
ญารินยืนมองเอกสารที่ลอยบนน้ำด้วยสายตาละห้อย ดวงตาแดงก่ำ หมดกันสิ่งที่วาดฝันไว้ แน่สินี่เป็นสัญญาเช่าสถานที่ที่เธออยากได้หนักหนา กว่าเจ้าของจะยอมใจอ่อนปล่อยให้เช่า เธอใช้ความพยายามอยู่นานเป็นปีไม่มีลดละ และนี่คือโอกาสสุดท้ายก่อนเขาบินกลับไปญี่ปุ่นวันนี้เธอต้องให้เขาเซ็นสัญญาให้ได้ แต่ดูผู้ชายคนนี้สิ ทำทุกอย่างที่เธอทำมาพังทลายลงต่อหน้าต่อตาเลยคิดแล้วก็เจ็บใจ
“ผมขอโทษ” ประโยคสั้นๆแต่จริงใจที่สุดในเวลานี้บอกออกไป หวังว่าเธอจะต้องการแต่เขาคิดผิด ทันทีที่เขาเอ่ยมันออกไป หยดน้ำใสๆก็ไหลอาบแก้มเธอทันที
“...” ไม่มีเสียงตอบกลับมีเพียงเสียงสะอื้นน้อยๆ เห็นอาการเธอเป็นอย่างนั้นเขาก็เริ่มทำตัวไม่ถูก
“เฮ้ๆ คุณ อย่าร้องสิ ผมไม่ได้ตั้งใจสักหน่อย ผมขอโทษจะร้องทำไมเรื่องแค่นี้เองเดี๋ยวผมรับผิดชอบเองอย่าร้องเลยนะ”
“เรื่องแค่นี้เองเหรอ” ญารินทวนคำก่อนพูดต่อ “เพราะคุณนั่นแหละ ทำให้ฉันพลาดโอกาสสำคัญไป ฉันมีเวลาแค่สิบห้านาที แต่คุณทำมันพัง คุณทำความพยายามตลอดหนึ่งปีของฉันพังต่อหน้าต่อตาเนี่ยจะไม่ให้ฉันเสียใจได้ยังไง”
ไม่พูดเปล่าฝ่ามือน้อยๆตีระรัวๆที่แผงอกกว้าง ด้วยความโกรธ ดวงตาแดงก่ำ
ตุบ! ตุบ! ตุบ!
“โอ๊ยยยย ผมขอโทษ คุณหยุดตีก่อน ผมเจ็บ” บอกพร้อมกับรวบมือน้อยมาล็อกไว้แนบอก
“ ผมก็เปียกเหมือนกันเห็นมั้ยผมขอโทษ ผมขอโทษ ผมขอโทษ” เพียงแค่ขอโทษไม่รู้จะเอ่ยคำไหน
“ถ้าคุณไม่มาชนฉันก็ไม่ต้องมาเปียก” บอกพร้อมสะบัดมือออกมาปาดน้ำตาออกก่อนค่อยๆก้มลงเก็บเอกสารที่อยู่ในน้ำบางส่วนขึ้นมาอย่างระมัดระวัง ทันทีที่กระดาษถูกหยิบขึ้นมามันก็ขาด
“ผมช่วย”
“ไม่ต้องมาใกล้เลย เห็นมั้ยว่ายิ่งช่วยยิ่งแย่”
น้ำเสียงสั่นเครือบอกทั้งโกรธ ทั้งเสียใจในเวลาเดียวกัน เห็นท่าทางของเธอแล้วก็อดสงสารไม่ได้ คงโกรธเขามากเอกสารคงสำคัญน่าดู
“ให้ผมช่วยเถอะ”
“ไม่ต้องมายุ่ง ไปให้ไกลๆเลย” ไล่พร้อมปัดมือที่ช่วยเก็บเอกสารออก ให้ตายเถอะยัยนี่นิ
“คุณอย่ามาพาลสิ นี่ผมกำลังช่วยคุณอยู่นะ”
“ใครขอให้คุณช่วยกัน เพราะคุณความฝันของฉันถึงพังทลายไม่เป็นท่า ทุกอย่างก็เพราะคุณ” เธอบอกน้ำเสียงสั่นเครือ
“ไอ้เตรีบขึ้นไปเปลี่ยนชุดก่อนเถอะเดี๋ยวไม่ทันนัด ทางนี้กูจัดการต่อให้เอง” พลเทพบอกหลังดูเวลาแล้ว
“ผมต้องไปจัดการธุระสำคัญก่อน เสร็จแล้วเราค่อยมาเคลียร์กันนะ” เขาบอกเสียงเรียบแววตาเป็นห่วงเธอไม่น้อย ไม่อยากทิ้งเธอไว้แบบนี้ แต่ตอนนี้ไม่มีทางเลือกไว้ค่อยมาจัดการทีหลัง
พูดจบก็ถอดเสื้อสูทของตัวเองออกมาคลุมให้หญิงสาวก่อน เพราะชุดที่เธอใส่อยู่นั้นเปียกจนแนบเนื้อเห็นทรวดทรงองค์เอวหมดแล้ว ก่อนเดินขึ้นจากบ่อน้ำพุเดินผ่านคนที่มุมมองดูพวกเขาหายเข้าไปในตึก ปล่อยให้พลเทพจัดการเรื่องทางนี้ต่อ
“คุณเป็นอะไรมากมั้ยครับ” พลเทพถามน้ำเสียงสุภาพ แววตาเห็นใจเธอไม่น้อยที่ต้องมาตกอยู่ในสภาพแบบนี้
“ไม่ค่ะ นี่กี่โมงแล้วคะ” เสียงหม่นถามเมื่อนึกขึ้นได้ว่าต้องบอกคนที่นัดก่อน
“อีกห้านาทีสิบเอ็ดโมงครับ ”
ญารินก้มมองสภาพตัวเองที่เปียกไปทั้งตัว แล้วไหนจะโทรศัพท์ฯที่หล่นกระเด็นไปไหนแล้วก็ไม่รู้ จึงขอร้องให้พลเทพช่วยไปบอกคนที่เธอนัดไว้ว่าเธอประสบอุบัติเหตุมาไม่ได้ ต้องขอโทษที่ทำให้เสียเวลา