อลเวง
10.00 น.
อากาศในกรุงเทพวันนี้เย็นสบายกว่าทุกๆวัน ถึงจะเป็นช่วงสายของวันแล้วก็ตาม ญารินสาวน้อยที่หลงใหลงานศิลปะโดยเฉพาะศิลปะงานเพ้นท์ลงเซรามิก วันนี้เธอมีนัดสำคัญกับเจ้าของบ้านสวนสไตล์ญี่ปุ่นย่านชานเมือง ที่เธอตามตื๊อขอเช่าสถานที่ไว้สำหรับโชว์ผลงาน และหวังใช้สถานที่แห่งนี้เป็นที่รังสรรค์ผลงานศิลปะเซรามิกของตนเองในพื้นที่เกือบหนึ่งไร่
กว่าเจ้าของจะยอมปล่อยเช่า เธอต้องยกเหตุผลร้อยแปดขึ้นมา ที่สำคัญทำเลที่นี่เหมาะกับการทำงานศิลป์อย่างมาก ตัวบ้านมีความเป็นเอกลักษณ์ร่วมสมัยจากการตกแต่งของเจ้าของเดิม ตัวบ้านด้านหลังเป็นกระจกใสรอบด้านเห็นวิวบ่อปลาสไตล์ญี่ปุ่นด้านนอก ที่ตกแต่งได้ร่มรื่นแบบสามร้อยหกสิบองศา มองไปด้านไหนก็รู้สึกเย็นสดชื่นสบายตา บรรยากาศโดยรวมน่าอยู่มาก
เธอรู้จักสถานที่แห่งนี้จากเพื่อนที่รู้จักแนะนำมาเห็นว่าเจ้าของไม่ได้ใช้งานอะไร ยิ่งได้มาเห็นสถานที่จริงยิ่งอยากได้
“พี่คะขับเร็วอีกหน่อยได้มั้ย” เมื่อมองนาฬิกาข้อมือแล้วขืนเป็นแบบนี้เธอไปไม่ทันนัดแน่
“เร็วกว่านี้มันอันตรายนะน้อง”
“ขอร้องล่ะค่ะ ช่วยหน่อยคือมันเป็นนัดที่สำคัญ หนูกลัวไปไม่ทัน”
“งั้นก็ได้ จับแน่นๆนะ”
ถึงอากาศจะดีแต่สภาพการจราจรกับไม่ดีตาม รถติดหนาแน่นจนแทบไม่ขยับญารินติดอยู่บนถนนมานานร่วมสองชั่วโมง จนต้องเปลี่ยนมาใช้บริการวินมอเตอร์ไซค์แทน ในที่สุดเธอก็มาถึงสถานที่นัดหมายและต้องรีบเข้าไปด้านในให้ทันเวลานัด
“ขอบคุณค่ะ ไม่ต้องทอน” เธอบอกวินมอเตอร์ไซค์ก่อนวิ่งไปยังตึกชินเพลส เป็นตึกที่รวบรวมออฟฟิศไว้มากมายเป็นสถานที่นัดคุยงานของคนรุ่นใหม่ ที่เธอนัดกับเจ้าของบ้านไว้
อีกด้านเตชิน หนุ่มหล่อทายาทบริษัทธีรวัฒน์ พร็อพเพอร์ตี้ ผู้นำธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ ที่มีรายได้มากที่สุดของประเทศ และเป็นเจ้าของห้างดังเปิดใหม่ที่ใหญ่ที่สุดในฝั่งธน วันนี้เขามีนัดคุยโปรเจกต์ร้อยล้านกับลูกค้าที่ร้านอาหารในอาคารชินเพลสซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัว ด้วยความที่รถติดหนักมากทำให้เขามาสายเช่นกัน
ทันทีที่รถจอดเทียบด้านหน้าตึก ร่างสูง185เซนติเมตร รีบก้าวเท้ากึ่งวิ่งกึ่งเดินตรงเข้าไปด้านในทันที จังหวะที่ทั้งคู่ต่างคนต่างรีบ กึ่งวิ่งกึ่งเดินมาด้วยความเร็วเป็นจังหวะที่เด็กน้อยวิ่งถือลูกโป่งมาตัดหน้า เตชินที่ไม่ทันระวังหลบเด็กน้อยจนทำให้ไปชนกระแทกกับหญิงสาวอีกคน ทำร่างเล็กๆเซล้มลงไปยังบ่อน้ำพุด้านข้างอย่างจัง
“ว้าย อ๊าย” เสียงร้องตกใจ ดวงตาโตเบิกกว้าง สองมือพยายามคว้าจับอากาศ
“นี่คุณ” เสียงเข้มร้องตกใจไม่แพ้กันเขาพยายามคว้ามือเธอไว้แล้วแต่ไม่ทัน
ตุบ! ร่างน้อยตกลงไปในบ่อน้ำพุที่ตั้งโชว์เด่นสร้างความสวยงามหน้าตึก ตามด้วยร่างสูงใหญ่ของเขาที่เสียหลักตกลงไปตามเธอ ทั้งคู่อยู่ในสภาพเปียกปอนแต่หญิงสาวนี่สิหนักกว่าเยอะเธอล้มลงไปทั้งตัว เปียกตั้งแต่หัวจรดเท้า ส่วนเขาเพียงแค่ลงไปยืนอยู่ในน้ำเท่านั้น
“เป็นอะไรมั้ย”
คนตัวโตถามขณะโน้มตัวลงไปช่วยพยุงหญิงสาวให้ลุกขึ้น ญารินจับแขนแข็งแรงพยุงตัวลุกขึ้นยืน ดวงตาเบิกกว้างจ้องเขาอย่างเอาเรื่อง เห็นแล้วว่าเธอโกรธแต่จะให้ทำยังไงเขาไม่ได้ตั้งใจนิ
“เดินภาษาอะไรเนี่ย ไม่เห็นคนรึไง”
ใบหน้าสวยเงยหน้าต่อว่าคนที่บังอาจมาชนเธอ แต่เขากับไม่เป็นอะไรเลย
“.....” ไม่มีเสียงตอบกลับเขาเพียงสำรวจคนตรงหน้าคิดว่าเธอคงไม่เป็นอะไรมากไม่อย่างนั้นก็คงไม่ยืนด่าเขาได้ฉอดๆๆแบบนี้หรอก
“ไอ้เต!เป็นอะไรมั้ย” ยังไม่ทันจะได้ตอบก็มีผู้ชายอีกคนตะโกนลงมาถาม ญารินได้แต่มองตามด้วยความไม่พอใจ
“ไม่เป็นไรไปเอาชุดใหม่ในรถมาเปลี่ยนเร็ว” ชายหนุ่มตอบคนด้านบน ก่อนก้าวขาเดินมาประชิดคนด้านหน้า
“คุณเจ็บตรงไหนมั้ย” เสียงทุ้มถามอีกครั้ง
“เจ็บสิถามมาได้”