ตอนที่ 4 ร้านดอกไม้
ตอนที่ 4 ร้านดอกไม้
@ทางด้านน้ำผึ้ง
หญิงสาวชีวิตน่าสงสาร ปัจจุบันเธอมีอายุ 27 ปี เมื่อสี่ปีที่แล้ว เธอเสียพี่ชายที่เป็นญาติเพียงคนเดียวของเธอไปอย่างไม่มีวันกลับ แต่ในความโชคร้ายของเธอเมื่อสี่ปีก่อน เรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนั้น ที่เกิดจากความเมาของเธอ กลับทำให้เธอได้มีลูกสาวหน้าตาน่ารัก ไว้เป็นกำลังใจให้เธอได้มีแรงสู้ชีวิตต่อไป
“แม่ขาหนึ่งอยากอาบน้ำ...” หลังจากเหตุการณ์ที่แย่ที่สุดในชีวิตของเธอผ่านไป แล้วต่อมาอีกหนึ่งเดือนเธอก็มารู้ว่าตัวเองได้ตั้งท้อง
ช่วงนั้นเธอไม่มีแม้แต่เวลาไปหาซื้อยาคุมมาทาน เธอวิ่งวุ่นอยู่คนเดียว แฟนก็ไปมีผู้หญิงอื่นก็ว่าหนักแล้ว แถมเธอยังถูกใครที่ไหนก็ไม่รู้หลอกฟันแล้วทิ้ง ก็ยิ่งเจ็บเข้าไปอีก และในเวลาต่อมา เธอเสียคนที่เธอรักไปอย่างไม่มีวันกลับถึงสองคนด้วยกัน ไม่สิ...สามคน ถ้ารวมหลานที่อยู่ในท้องของพี่สะใภ้ของเธอด้วย ช่วงนั้นชีวิตของน้ำผึ้งย้ำแย่มาก เธอหาทางออกไม่เจอ มีแต่ความผิดหวังและเศร้าโศกเสียใจ ตอนนั้นเธอแทบเป็นบ้า ชีวิตเป็นสีดำมืด โชคดีที่เธอมีริตาคอยอยู่เป็นเพื่อน คอยช่วยเหลือเธอมาตลอดจนถึงวันนี้ เรื่องทุกอย่างจึงผ่านมาได้
หลังจากที่น้ำผึ้งได้ให้กำเนิดลูกสาวแล้ว เธอก็ได้รอยยิ้มของลูกสาวคอยปลอบใจและเป็นกำลังใจให้เธอเสมอมา ทำให้ชีวิตของเธอได้รู้ว่า ชีวิตต่อจากนี้เธอจะอยู่เพื่อใคร
แต่ตอนนี้น้ำผึ้งคนเมื่อสี่ปีก่อน กับน้ำผึ้งคนนี้แตกต่างกัน เธอเข้มแข็งขึ้น ไม่เหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว และตอนนี้เธอก็มีร้านดอกไม้เป็นของตัวเอง เป็นร้านเล็กๆอยู่กันสองคนแม่ลูก แต่เธอก็เลือกที่จะจ้างลูกจ้างไว้หนึ่งคน ชื่อนิด เอาไว้ค่อยช่วยเธอเลี้ยงลูกกับส่งดอกไม้ในละแวกใกล้ๆ โดยนิดจะเดินทางไปกลับ ไม่ได้อยู่ด้วยกัน
“ป่ะแม่อาบน้ำให้ นิดพี่ฝากหน้าร้านแป๊บนึงนะ” น้ำผึ้งหันไปพูดกับเด็กในร้านอย่างสนิทสนม
“ให้หนูอาบน้ำให้น้องเองไหมคะ” นิดเสนอเป็นคนอาบน้ำให้น้ำหนึ่งเอง ทันใดนั้นประตูหน้าร้านก็ถูกเปิดออก พร้อมกับเสียงกระดิ่งหน้าร้านที่ดังขึ้น
“ติ๊งต่อง” เสียงกระดิ่งดังขึ้น ทำให้น้ำผึ้งหันหน้าไปมองหน้าร้าน ก็เห็นว่าเป็นริตาเพื่อนสนิทของเธอนั่นเองที่เดินเข้ามาอย่างเคยชิน
“งั้นพี่ฝากด้วยนะ น้ำหนึ่งให้พี่นิดอาบน้ำให้นะลูก” ร้านจัดดอกไม้ร้านนี้ มีสองชั้น ซึ่งชั้นบนจะเป็นพื้นที่ส่วนตัว
นิดยังไม่ทันได้พาน้ำหนึ่งขึ้นไปอาบน้ำที่ชั้นบน ริตาก็เดินเร็วๆเข้ามากอดหลานสาวตัวน้อยของเธอเอาไว้ซะก่อน น้ำหนึ่งเป็นเด็กน่ารัก ผิวขาว ตากลม ตัวอ้วน เพราะว่าแกเป็นเด็กกินเก่ง แล้วริตาก็หลงรักหลานสาวคนนี้มาก ซึ่งเธอเองก็ยังไม่มีลูก เวลาว่างจึงชอบแวะมาเล่นกับน้ำหนึ่งอยู่เป็นประจำ
“น้ำหนึ่งคิดถึงน้าไหมคะ” ริตาทำงานบริษัทแห่งหนึ่ง เงินเดือนก็พอมีให้ใช้จ่ายอย่างสบาย ก็พอมีเก็บอยู่บ้าง เธอมีแฟนที่คบกันมานานพอสมควร แต่ยังไม่ได้แต่งงาน แล้วตอนนี้ริตากับแฟนของเธอความรักที่ยาวนานก็เริ่มจืดจางลง
“คิดถึงน้าริตาจังเลยค่ะ” เสียงเล็กๆของเด็กหญิงวัยสามขวบ บ่งบอกว่าแกดีใจ ที่เห็นน้าริตามาหาอีกแล้ว แถมยังมีขนมติดไม้ติดมือมาฝากเหมือนทุกครั้งอีกเช่นเคย
“ปากหวานจังเจ้าตัวเล็กนี่ อ่ะน้าซื้อขนมมาฝากด้วยนะ” น้ำหนึ่งที่ตอนแรกดูเหมือนจะงอแง แต่พอเห็นขนมเท่านั้นแหละ แกดูดีใจมาก ทำเอาคนที่ซื้อมาฝากยิ้มแก้มแทบแตก
“ทำยังไงก่อนลูก” ทุกครั้งที่มีผู้ใหญ่ให้ของหรือซื้อขนมมาให้ น้ำผึ้งก็จะสอนให้ลูกสาวของเธอไหว้ขอบคุณทุกครั้ง เป็นการฝึกมารยาทไปในตัวด้วย ถึงน้ำหนึ่งจะไม่มีพ่อ แต่น้ำหนึ่งก็มีเธอเป็นแม่ แล้วเธอนี่แหละจะสอนให้ลูกของเธอได้ดีให้ได้
“ขอบคุณค่ะ น้าริตาใจดีที่สุดเลย” น้ำหนึ่งพนมมือเล็กๆของแกไหว้ขอบคุณน้าริตาอย่างน่ารัก ริตาขยี้ผมหลานสาวเล่นอย่างเอ็นดู แล้วยื่นถุงขนมที่ซื้อมาให้หลานไป น้ำหนึ่งรับเอาไปถือไว้แล้วรีบหันไปหานิดชวนแกะขนมกินกันทันที หลังจากนั้นนิดก็พาน้ำหนึ่งขึ้นชั้นบนไปอาบน้ำ
“ว่างเหรอ วันนี้ถึงได้มาหาฉันได้” ตอนนี้ก็เหลือแค่น้ำผึ้งและริตาสองคน น้ำผึ้งหันมาจัดดอกไม้ที่ลูกค้าสั่งไว้ต่อ ส่วนริตาเธอก็มานั่งคุยด้วยอยู่ข้างๆ
“เปล่า แค่คิดถึงแกกับหลาน” ริตามีสีหน้าไม่ค่อยจะดีนัก ทำให้น้ำผึ้งรู้สึกได้ว่าเพื่อนของเธออาจจะมีอะไรคิดอยู่ในใจ
“เป็นอะไรหรือเปล่า” น้ำผึ้งถามเพื่อนรักด้วยความรู้สึกเป็นห่วง พลางมองหน้าเพื่อนไปด้วย
“เปล่า” ริตาปฏิเสธ แต่ที่จริงแล้วเธอมีเรื่องไม่สบายใจจริงๆนั่นแหละ แต่มันยังไม่ถึงขั้นเอาเรื่องไม่เป็นเรื่องมาเล่าให้เพื่อนฟัง ริตาไม่อยากให้เพื่อนของเธอเป็นห่วง
“ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว ถ้ามีอะไรแกคุยกับฉันได้ทุกเรื่องเลยนะเว้ย” เพราะตลอดหลายปีที่ผ่านมา น้ำผึ้งก็มีริตาค่อยเป็นเพื่อนและช่วยเหลือมาตลอด เพราะฉะนั้นถ้าเพื่อนมีปัญหาอะไรที่เธอพอจะช่วยได้เธอก็อยากจะช่วย
“น้ำผึ้ง...แกเหนื่อยไหม ฉันเห็นออร์เดอร์เยอะขึ้นทุกวันเลย” ริตาเลือกที่จะเปลี่ยนเรื่อง ก่อนที่เพื่อนจะจับได้ว่าเธอมีเรื่องในใจ
“ไม่เหนื่อยเท่าไหร่หรอก แค่นี้สบายมาก อีกอย่างฉันก็มีนิดคอยช่วยแล้วไง” น้ำผึ้งตอบเพื่อนอย่างอารมณ์ดี พลางจัดดอกไม้ไปด้วย ถึงอาชีพนี้เงินจะไม่มากแต่เธอก็มีความสุขที่ได้ทำมัน กลิ่นหอมๆและสีสันของดอกไม้ ทำให้เธอรู้สึกสดชื่นและผ่อนคลาย และที่สำคัญอาชีพนี้มันทำให้เธอสามารถเลี้ยงลูกเองได้ด้วย ถึงน้ำหนึ่งจะเข้าโรงเรียนแล้ว แต่เธอก็อยากมีเวลาให้ลูกของเธอมากที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้ เพราะชีวิตของเธอก็เหลือกันแค่สองคนแม่ลูกเท่านั้น
“ฉันขอโทษนะแก” คำขอโทษของริตา ทำให้น้ำผึ้งหยุดมือที่กำลังจัดดอกไม้อยู่ เพราะรู้ว่าเพื่อนขอโทษเธอเรื่องอะไร และน้ำผึ้งเองก็ไม่ได้โทษเพื่อนเลยแม้แต่น้อย อีกอย่างเรื่องนี้มันก็ผ่านมานานมากแล้ว
“ริตา...เรื่องมันก็ผ่านมานานแล้ว เลิกพูดถึงมันเถอะ ทุกวันนี้ฉันก็มีความสุขดี ดูสิออร์เดอร์เยอะจนทำไม่ทันเลย” น้ำผึ้งไม่เคยโทษเพื่อน เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสี่ปีก่อนมันเป็นเพราะเธอเมาเอง ไม่เกี่ยวกับเพื่อน
“ฉันรักแกนะเว้ย มีเรื่องอะไรบอกได้เลยนะไม่ต้องเกรงใจ” ริตาเดินเข้ามาใกล้แล้วเอาศีรษะซบหัวไหล่เพื่อนไว้ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ้อนหน่อยๆ ซึ่งน้ำผึ้งเองก็รู้สึกถึงความจริงใจของเพื่อนคนนี้มาโดยตลอด
“ที่ผ่านมาแกก็ช่วยฉันมาตั้งเยอะแล้ว แกต่างหากถ้ามีเรื่องอะไรให้ฉันช่วยก็บอกมาได้เลยนะ” ทั้งสองนั่งคุยกันตามประสาเพื่อนรัก แล้วสักพักใหญ่ๆ ริตาก็ขอตัวกลับ
ส่วนร้านดอกไม้ร้านนี้ เป็นเงินที่เธอได้มาจากคนที่ขับรถชนพี่ชายและพี่สะใภ้ของเธอเสียชีวิตเมื่อสี่ปีก่อน เขาคนนั้นได้ชดใช้เป็นเงินให้เธอ ที่เป็นญาติเพียงคนเดียวที่ยังเหลืออยู่ถึงห้าล้านบาท น้ำผึ้งเก็บเงินจำนวนนี้ไว้ใช้จ่ายยามจำเป็นและเลี้ยงดูลูกของเธอด้วย เธอจึงไม่ได้ลำบากเรื่องเงิน เพียงแต่ต้องการมีอาชีพเป็นของตัวเองไว้บ้างก็เท่านั้น
ส่วนเรื่องกระดาษโน๊ตวันนั้น เธอเอาขึ้นมาอ่านหลังจากงานศพพี่ชายและพี่สะใภ้ผ่านไปแล้ว เธอจำหน้าเขาได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าวันนั้นเธอเอามันขึ้นมาอ่านก่อนที่เธอจะเดินออกจากโรงแรม เธอก็คิดว่าเธอคงไม่อยู่รอเขาอยู่ดี เพราะเธอไม่คิดที่จะสารสัมพันธ์กับผู้ชายประเภทนี้อยู่แล้ว
วันที่ลูกสาวของเธอได้ลืมตาดูโลก ใบหน้าของเขาก็ยิ่งชัดเจนมากขึ้น เพราะลูกสาวของเธอได้โครงหน้าของเขามาเต็มๆ โดยที่ไม่มีส่วนไหนเหมือนเธอเลยแม้นแต่น้อย