ตอนที่ 3 อุบัติเหตุ
ตอนที่ 3 อุบัติเหตุ
เช้าวันรุ่งขึ้น
เสียงมือถือเครื่องหรูของคุณหมอนาธานดังขึ้นแต่เช้า เขารีบคว้ามันมากดรับทันที เพราะเห็นว่าเป็นเบอร์จากทางโรงพยาบาลที่โทรเข้ามา
“ครับ”
“คุณหมอค่ะ ขอโทษที่โทรมารบกวนแต่เช้านะคะ พอดีมีเคสผ่าตัดด่วนเข้ามา คุณหมอมาที่โรงพยาบาลเดี๋ยวนี้เลยได้ไหมคะ” และแน่นอนว่าถ้าโทรเข้ามาด่วนแบบนี้ คงเป็นเคสที่ยากมากๆ และเคสนี้คงผ่านการคัดกรองจากคุณหมอบางท่านเรียบร้อยแล้ว ว่าจะต้องถึงมือเขาเท่านั้นถึงจะสำเร็จ
“ครับ เตรียมอุปกรณ์ทุกอย่างให้พร้อม ไม่เกินครึ่งชั่วโมงผมน่าจะถึง” ด้วยอาชีพและสัญชาตญาณความเป็นหมอที่มีอยู่ในสายเลือด จึงทำให้เขาต้องรีบไปโรงพยาบาลทันที
คุณหมอหนุ่มรีบจัดการใส่เสื้อผ้าของตัวเองจนเสร็จเรียบร้อย แต่หญิงสาวที่เขาออกแรงทำรักกับเธอเมื่อคืนยังไม่ยอมตื่น เพราะกว่าเขาจะยอมให้เธอนอนได้ ก็ปาเข้าไปเกือบสว่าง เธอเพลียเขารู้เขาจึงเขียนโน๊ตวางไว้แล้วออกจากห้องไป
‘รอผมอยู่ที่นี่ก่อนนะ เสร็จธุระแล้วผมจะรีบกลับมา’ เขาเขียนเป็นภาษาอังกฤษ เพราะเขียนภาษาไทยไม่ค่อยเก่ง
เวลาสายๆของวันใหม่ น้ำผึ้งรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา เธอก็ไม่เห็นหน้าคนที่รังเกเธอเมื่อคืนนี้แล้ว เหตุการณ์เมื่อคืนหลั่งไหลเข้ามาในหัวของเธอจนหมด นั่นจึงทำให้เธอร้องไห้ออกมาอย่างหนักอีกครั้ง เพราะเธอกำลังรู้สึกว่าเธอโดนเจาะไข่แดง สิ่งที่เธอหวงแหนมันมาตลอดชีวิตของเธอ แต่ผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้ได้ความสาวของเธอไป แถมตอนนี้เขาก็ไม่อยู่แล้ว
น้ำผึ้งพยุงร่างบอบช้ำของตัวเอง เก็บเสื้อผ้าที่เกลื่อนกลาดเอาขึ้นมาสวมใส่ ดีที่สภาพของมันยังคงดีอยู่ เมื่อเธอใส่เสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว และกำลังจะเดินออกจากห้องไป บังเอิญเหลือบไปเห็นกระดาษโน๊ตที่มีข้อความเป็นภาษาอังกฤษ เธอไม่ได้ใส่ใจว่าข้อความนั้นจะอ่านว่าอะไร แต่เธอเลือกที่จะยัดมันลงกระเป๋ากางเกงแล้วเดินออกจากห้องไป…
ทางด้านคุณหมอนาธาน
คุณหมอนาธาน จัดการเรื่องงานของเขาทุกอย่างด้วยความชำนาญ จนทุกอย่างเป็นไปอย่างเรียบร้อยดี แต่ก็กินเวลาไปนานพอสมควร และหลังจากจบเคสกับคนไข้คนนี้แล้ว ก็มีคนไข้คนอื่นๆเข้ามาอีกเรื่อยๆจนคุณหมอแทบจะไม่มีเวลาหยุดพัก
เขายกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูแล้วดูอีก และดูเหมือนว่างานที่เขารักก็ยังไม่จบลงง่ายๆสักที จนเวลาล่วงเลยไปจนเย็น งานเขาเสร็จจนหมดแล้ว เหลือแต่เคสที่ไม่ได้หนักมากนัก คุณหมอนาธานจึงให้คุณหมอท่านอื่นดูแลกันไป เพราะเขาต้องรีบกลับไปหาหญิงสาวคนนั้นก่อนที่เธอจะรอเขาไม่ไหว แม้แต่ชื่อของเธอเขาก็ยังไม่รู้จักเลย
นาธานใจร้อนอยากจะไปเคลียร์เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนกับผู้หญิงคนนั้นให้เรียบร้อย เพราะเธอไม่เหมือนใคร แล้วเขาก็เข้าใจผิดไปเอง ว่าเธอคงไม่ได้แตกต่างจากผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เขาเคยเจอมา ก็สถานการณ์และความเมาของเธอมันบอกเขาแบบนั้น
สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้มันทำให้เขาอยากจะสารสัมพันธ์กับเธอต่อ เพราะว่าเมื่อคืนนี้เขาไม่ได้ป้องกันเลยสักครั้ง แต่ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นเขาคงจะวางเงินไว้ให้สักก้อน แล้วก็ออกจากห้องมาโดยที่ไม่ต้องคิดอะไรมาก แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนกับครั้งก่อนๆ เขาจึงเลือกที่จะไม่ทำแบบนั้น แต่จะกลับไปหาเธอแทน แล้วเวลานี้มันก็เกือบจะหมดวันแล้ว เขาหวังว่าเธอจะยังคงอยู่รอเขายังไม่ไปไหน เพราะเขากำลังจะรีบเดินทางไป
แต่แล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อรถวิ่งไปบนท้องถนนด้วยความไว เพราะเขารีบและร้อนใจมาก กลัวว่าเธอคนนั้นจะรอนานมากไปกว่านี้
“ตุ้ม!!!” เสียงรถชนกันดังสนั่นเกิดขึ้นบนท้องถนน
@ทางด้านน้ำผึ้ง
เธอออกจากโรงแรมแห่งนั้นมา โดยที่ไม่รู้ว่าข้อความในกระดาษที่เธอเก็บเอามาด้วยมันเขียนว่าอะไร ตอนนี้เธอรู้สึกเสียใจมาก เธอกลับมาบ้านด้วยร่างกายที่บอบช้ำเกินกว่าที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะแบกรับไว้ได้ อยู่ๆเสียงมือถือของเธอก็ดังขึ้น น้ำผึ้งหันไปมอง
“สวัสดีค่ะ” เธอหยิบมันขึ้นมารับสาย และเห็นว่าเป็นเบอร์แปลก
“คุณเป็นญาติของคุณนิรุจและคุณพลอยใสหรือเปล่าคะ” น้ำผึ้งเริ่มขมวดคิ้วเข้าหากัน เพราะชื่อที่เอ่ยมาเมื่อสักครู่นี้ เป็นชื่อพี่ชายกับชื่อพี่สะใภ้ของเธอนั่นเอง
“ใช่ค่ะ” เธอตอบรับทันที ด้วยความรู้สึกกลัว
“ทั้งสองประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ตอนนี้อยู่โรงพยาบาลแล้วค่ะ” หัวใจของน้ำผึ้งกระตุกวูบที่ได้รู้ข่าว และยังเป็นข่าวร้ายอีกด้วย เธอรีบถามขึ้นทันทีว่าพี่ชายกับพี่สะใภ้ของเธออยู่โรงพยาบาลไหน
“ที่ไหนคะ” เมื่อได้คำตอบแล้ว สายสนทนาก็ถูกตัดไป น้ำผึ้งรีบไปที่โรงพยาบาลแห่งนั้นทันที ด้วยความเป็นห่วงพี่ชายและพี่สะใภ้
พี่สะใภ้ของเธอกำลังท้องแก่ใกล้คลอด และน่าจะอีกแค่สัปดาห์เดียวก็จะครบกำหนดคลอดแล้ว และน้ำผึ้งเองก็ไม่ได้มีญาติพี่น้องที่ไหนแล้ว จะมีก็แต่พี่ชายของเธอที่เหลือเพียงคนสุดท้ายแล้ว ที่ยังอยู่บนโลกใบนี้
@4ปีผ่านไป
ทางด้านคุณหมอนาธาน
“พอร์ชมาหาแด๊ดดี๊ซิลูก” เด็กชายวัยสี่ขวบวิ่งเข้ามากอดนาธานไว้แน่น ซึ่งเขาเป็นแด๊ดดี๊ของแกนั่นเอง
“แด๊ดดี๊ครับ พอร์ชอยากไปบ้านคุณย่าครับ” นาธานได้เด็กคนนี้มาเลี้ยงไว้ด้วยความบังเอิญ วันนั้นเมื่อสี่ปีก่อนที่เกิดอุบัติเหตุ ซึ่งคนผิดก็คือเขาเอง
นาธานขับรถชนคนเสียชีวิตถึงสองคน โดยผู้ชายเสียชีวิตคาที่ ส่วนผู้หญิงท้องแก่ใกล้คลอด ไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลซึ่งทั้งสองคนน่าจะเป็นสามีภรรยากัน
ดีที่นาธานเป็นหมอและยังเป็นเจ้าของโรงพยาบาล เขาได้ช่วยเด็กออกมาจากท้องแม่ได้อย่างหวุดหวิด โดยการรีบนำส่งโรงพยาบาล แล้วคนที่ทำการผ่าตัดวันนั้นก็คือเขาเอง เขาทำทุกอย่างอย่างเต็มความสามารถ และดีที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ พอหลังจากผ่าตัดเอาเด็กออกมาได้ นาธานก็ถึงกลับทรุด
ตอนแรกทางทีมแพทย์คิดว่าเด็กไม่น่าจะรอด โดยให้คุณหมออีกคนยืนยันกับทางญาติไปว่า เด็กได้เสียชีวิตเหมือนกัน และทางโรงพยาบาลก็ได้ขอร่างที่ไร้วิญญาณของเด็กเอาไว้ โดยคนที่เซ็นให้ เห็นว่าเป็นน้องสาวของผู้เสียชีวิต ตอนนั้นเธอคนนั้นมีอาการเสียใจมาก ไม่ได้ว่าอะไรเลย แค่รับร่างพี่ชายกับพี่สะใภ้ของเธอไปทำพิธีทางศาสนาเท่านั้น
แต่ตอนนั้นเด็กยังอยู่ในห้องไอซียูอยู่ กลับมีอาการดีขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ นั่นจึงทำให้นาธานตัดสินใจเป็นคนรับเด็กคนนี้มาเลี้ยงไว้เอง โดยที่เขาเลี้ยงแกเหมือนลูกแท้ๆ และยังเลี้ยงดูอย่างดีมาตลอด ถือซะว่าให้เขาได้ชดใช้ในสิ่งที่เขาทำกับเด็กคนนี้ไว้ เพราะเขาคือคนที่ทำให้พ่อแม่ของเด็กคนนี้เสียชีวิตในวันนั้น
วันนั้นรถยนต์ที่เขาใช้มันสามารถเซฟไม่ให้คนที่อยู่ด้านในบาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย ผิดกับอีกคันที่พังยับ เขาก็ไม่ได้นิ่งดูดาย วันนั้นนาธานลงมาดูอาการและช่วยเหลืออย่างเต็มที่ พร้อมกับเป็นคนปฐมพยาบาลเองทั้งหมดจนถึงโรงพยาบาล
และวันนั้นเอง เขาก็ไม่ได้ไปตามนัด แต่พอกลับไปอีกครั้ง เธอคนนั้นก็ไม่ได้อยู่ที่นั่นแล้ว นาธานใช้เวลาทั้งหมดที่เขาพอมีเวลาตามหาเธอแต่ก็ไม่เคยเจอ ครั้นจะสืบเขาก็ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับตัวของเธอเลย
“จะไปอ้อนอะไรคุณย่าอีกล่ะ” พอร์ชเป็นเด็กคนเดียวที่ถูกตามใจโดยครอบครัวของเขา ถึงไม่ใช่สายเลือดแต่ทุกคนก็รัก
“คุณย่าโทรมาบอกว่าคิดถึงพอร์ชครับ”
“อ่ะยังพอมีเวลา จะไปก็ไป” ทุกครั้งที่พอร์ชเอ่ยขอ นาธานก็พร้อมที่จะตามใจเด็กคนนี้เสมอ
คุณย่าที่น้องพอร์ชพูดถึง ก็คือมัมของเขานั่นเอง แด๊ดและมัมของนาธานยังไม่มีหลานเลยสักคน พวกท่านมีลูกสองคน คนโตลูคัส คนที่สองนาธาน ยังไม่มีใครมีครอบครัวกันเลยสักคน พอร์ชจึงเป็นเด็กคนเดียวที่ทำให้พวกท่านหายเหงาได้ โดยที่ไม่มีใครรังเกียจเด็กคนนี้ แต่กลับรู้สึกเอ็นดู เพราะพอร์ชเป็นเด็กฉลาดพูด ชอบเอาใจผู้ใหญ่ ส่วนลูคัสและนาธานทั้งสองคนมีบ้านแยกออกมาต่างหาก ไม่ได้อยู่รวมกัน