ตอนที่ 5 เงื่อนไข
ตอนที่ 5 เงื่อนไข
@โรงพยาบาล
ณ ห้องผู้อำนวยการโรงพยาบาล มีชายวัยชราท่าทางอารมณ์ดีกำลังนั่งปั้นหน้าเรียบ นั่งอยู่ที่เก้าอี้ผู้บริหารตัวใหญ่ โดยมีอาร์โนชายวัยสี่สิบปี เลขาของท่านยืนอยู่ข้างๆท่านด้วย
“แด๊ดเรียกพวกผมมามีอะไรหรือเปล่าครับ” ลูคัสกับนาธานเดินเข้ามาในห้องนี้พร้อมกัน เพราะถูกเรียกโดยคนเป็นบิดาของพวกเขานั่นเอง เมื่อเข้ามาถึงในห้องก็เป็นนาธานที่เอ่ยถามขึ้นก่อน
“ก็ต้องมีสิ” ท่านโรเบิร์ตพูดกับลูกชายทั้งสอง โดยมีอาร์โนยืนยิ้มอยู่ข้างๆ นั่นจึงทำให้พี่น้องทั้งสองคนกำลังรู้สึกว่าแด๊ดของพวกเขามาแปลก พลางนึกตงิดในใจลึกๆ
“เรื่องอะไรเหรอครับ” เป็นลูคัสที่เอ่ยถามขึ้นมาบ้าง เพราะเขาก็อยากรู้ไม่แพ้กันกับน้องชาย ยิ่งเห็นหน้าอาร์โนเลขาของแด๊ดด้วยแล้ว ก็ยิ่งเพิ่มความอยากรู้ให้พวกเขาเข้าไปอีก
“แด๊ดรอให้พวกแก่มีหลานให้แด๊ดไม่ไหวแล้วนะ วันนี้แด๊ดมีข้อเสนอ มาเสนอให้พวกแกด้วย” เมื่อคนเป็นพ่อพูดถึงเรื่องนี้ ทำเอาทั้งสองหนุ่มถึงกลับถอนหายใจกันเลยทีเดียว ลูคัสและนาธานหันหน้ามามองกันพร้อมกับเลิกคิ้วสูงให้กันอย่างเซ็งๆ
ลูคัสผู้เป็นพี่ชายปีนี้เขามีอายุสามสิบห้าแล้ว มีแฟนคบกันมาสองปี แต่ก็ยังไม่ได้จริงจังถึงขั้นอยากจะแต่งงาน
ส่วนนาธานปีนี้เขามีอายุสามสิบสามปีแล้ว ยังไม่มีแม้นแต่แฟน แต่เขามีลูกนั่นก็คือพอร์ช เด็กผู้ชายที่เขาเลี้ยงไว้ พอร์ชคือลูกชายบุญธรรมของเขา
“ข้อเสนออะไรหรือครับ / ข้อเสนออะไรหรือครับ” ทั้งสองพี่น้องหันหน้ามาหาผู้เป็นบิดาอีกครั้ง แล้วเอ่ยถามผสานเสียงกันชัดแจ๋ว ต่างคนก็ต่างอยากรู้ในสิ่งที่ผู้เป็นบิดากำลังจะพูดถึงข้อเสนอนั้น
“พวกแกสองคนก็รู้ว่าแด๊ดอยากได้หลานมาสืบทอดธุรกิจของพวกเรา แต่พวกแกสองคนก็ยังไม่ได้เรื่อง อายุก็ไม่ใช่น้อยแล้ว ไร้น้ำยาจริงๆ” ทั้งสองพี่น้องหันมองหน้ากันอีกครั้ง แล้วทำหน้าเซ็งๆหนักกว่าเก่า ไม่ได้สนใจว่าผู้เป็นพ่อจะรู้สึกอย่างไรที่เห็นอาการของพวกเขาตอนนี้ ยิ่งคำว่าไร้น้ำยาทำให้ทั้งสองคนถึงกลับไปไม่เป็น
“ว่าข้อเสนอของแด๊ดมาเลยดีกว่าครับ” นาธานเป็นคนเอ่ยถาม อยากรู้ว่าข้อเสนอของแด๊ดในครั้งนี้ จะสมน้ำสมเนื้อพอที่พวกเขาอยากจะเล่นด้วยหรือเปล่า เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่แด๊ดยื่นข้อเสนอ แต่เป็นครั้งที่นับไม่ถ้วนแล้วต่างหาก ตลอดเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่เด็กจนโต แด๊ดชอบหาเรื่องมาให้พวกเขาทั้งสองคนแข่งขันกันเป็นประจำ
“ดี...แด๊ดก็ไม่ได้อยากจะอ้อมค้อมนักหรอก แด๊ดจะให้พวกแกสองคนแข่งขันกัน และข้อเสนอของแด๊ดก็คือ...” ท่านหยุดพูดแล้วมองหน้าลูกชายทั้งสองที่กำลังตั้งใจฟัง อย่างนึกกระหยิ่มยิ้มย่องอยู่ในใจ แล้วพูดต่อว่า…
“ใครที่สามารถมีหลานให้แด๊ดได้มากกว่า แด๊ดจะยกโรงพยาบาลให้เป็นชื่อของคนนั้นไป” ทั้งสองพี่น้องหันหน้ามองกันอีกครั้ง ไม่คิดว่าผู้เป็นบิดาจะเล่นแรงขนาดนี้ เพราะตั้งแต่เกิดมาทั้งสองก็แข็งขันกันมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรียน เรื่องงาน แต่เรื่องแข่งกันมีเมียมีลูกพวกเขายังไม่เคย และไม่ว่าจะเรื่องไหนๆส่วนมากคนที่มักจะแพ้อยู่เสมอ ก็มักจะเป็นนาธาน และครั้งนี้ก็ดูเหมือนว่าเขาก็จะแพ้อีก
เพราะลูคัสมีแฟนแล้ว ถ้าจะมีลูกก็ไม่น่าจะใช่เรื่องยาก แต่สำหรับนาธานเองแม้นแต่คนคุยก็ยังไม่มีเลย แถมเขายังมีลูกชายที่ต้องเลี้ยงดูไว้อีกหนึ่งคน เกมนี้แววแพ้มาเห็นๆ
“แด๊ดเล่นอะไรครับนี่” นาธานรีบเอ่ยขึ้น เพราะเขารู้สึกเดือดร้อนกับข้อเสนอของแด๊ดในเรื่องนี้มาก
“ฉันไม่ได้เล่น ฉันพูดจริง” ท่านนั่งกอดอกท่าทางเอาจริง คอยมองดูปฏิกิริยาของลูกชายทั้งสอง พลางหันไปยิ้มให้เลขาที่ยืนอยู่ข้างๆ แต่ลูกชายทั้งสองกลับไม่เห็นรอยยิ้มนั้นของท่าน
“ระยะเวลาล่ะครับ” เป็นลูคัสที่เอ่ยถามขึ้นมาบ้าง เพราะเขาเองก็ไม่ค่อยเห็นด้วยกับเรื่องนี้สักเท่าไหร่ ถึงลูคัสจะมีแฟนแล้วก็จริง แต่เขาก็ยังไม่เคยคิดถึงเรื่องงานแต่ง
“แล้วเจ้าพอร์ชของผมล่ะครับ” นาธานเอาลูกบุญธรรมขึ้นมาอ้าง เพราะพอร์ชก็คือลูกชายของเขาเหมือนกัน
“ฉันต้องการหลานที่เกิดจากเลือดเนื้อเชื้อไขของฉันเท่านั้น ส่วนระยะเวลา...” ท่านทำท่าคิด
พอร์ชเด็กที่นาธานเลี้ยงไว้เป็นลูก ท่านไม่ได้ว่าอะไร หนำซ้ำยังเอ็นดูและตามใจมากอีกด้วย แต่ท่านก็อยากได้หลานที่เกิดจากเลือดเนื้อเชื้อไขของท่านเท่านั้น ท่านจึงตั้งเงื่อนไขเรื่องนี้กับลูกชายทั้งสอง โดยการเอาโรงพยาบาลมาเป็นข้ออ้าง
“แด๊ดต้องคิดให้ดีๆนะครับ เพราะถ้าผมสองคนเกิดมีพร้อมกันได้ เดี๋ยวแด๊ดจะหาคนชนะไม่ได้” นาธานที่ยังไม่มีแม้แต่แฟนรีบเอ่ยขึ้นมาดักคอก่อน เพราะต้องการให้ท่านขยายเวลาให้เขาบ้าง เพราะก่อนจะมีลูก เขาจะต้องหาแม่ของลูกให้ได้เสียก่อน และยังไม่รู้เลยว่าจะมีหรือเปล่าผู้หญิงที่จะมาเป็นแม่ให้กับลูกของเขา
“ถ้าอย่างนั้นนับตั้งแต่วันนี้ แด๊ดให้เวลาพวกแกสองปี เพราะสองปีสามารถมีลูกได้ถึงสองคน ถึงจะแค่อยู่ในท้องอีกคน แด๊ดก็จะนับให้” วินาทีนี้ท่านยอมได้หมด ขอแค่เพียงให้ลูกชายทั้งสองของท่านยอมเล่นเกมนี้ด้วยก็พอ
“ขอสามปีครับ ให้เวลาผมหาเมียบ้าง” ดูเหมือนคนเป็นพ่อจะลำเอียง เพราะนาธานยังมองไม่เห็นผู้หญิงที่จะมาเป็นแม่ของลูกให้เขาเลย ส่วนลูคัสมีแฟนแล้ว เรื่องมีลูกก็คงทำได้ไม่ยาก
“สองปีหกเดือนแล้วกันขาดตัว” ที่จริงท่านก็แค่หาข้ออ้างให้ลูกชายหาเมียแล้วท่านก็จะได้มีหลานมาสืบทอดธุรกิจก็เท่านั้น
ส่วนเรื่องโรงพยาบาลมันคือข้ออ้างที่จะทำให้ลูกชายของท่านแข่งกัน เพราะตั้งแต่เล็กจนโตทั้งสองพี่น้องก็มักจะชอบแข่งขันกันมาตลอด ถึงนาธานจะเป็นผู้แพ้อยู่เสมอ แต่เขาก็ทำเต็มที่ทุกครั้ง ถึงจะแพ้เขาก็ยอมรับมันได้อย่างเลือดนักกีฬา
“เฮ้ยไอ้น้องรีบหน่อยแล้วกัน พอดีพี่มีแฟนแล้วว่ะ” ลูคัสเอ่ยขึ้นอย่างมั่นใจ เพราะเกมครั้งนี้เขานำ ยังไงก็คงต้องเล่น ส่วนนาธานเมื่อได้ฟังคำเย้ยหยันของพี่ชายเขาจึงยอมแพ้ไม่ได้ถ้ายังไม่ได้ลงมือทำ ถึงเกมนี้เขาจะแพ้ เขาก็ขอแพ้อย่างลูกผู้ชาย
ลูคัสคบกับแฟนสาวของเขามาสองปี เธอชื่อมุกดา เป็นน้องสาวของคุณหมอท่านหนึ่งในโรงพยาบาล ส่วนเธอทำงานบริษัท อายุเพียงแค่ยี่สิบห้าปีเท่านั้น แต่ทั้งสองคนก็ยังไม่เคยมีอะไรเกินเลยกันสักครั้ง นั่นเป็นเพราะลูคัสเป็นสุภาพบุรุษให้เกียรติแฟนสาวของเขาเสมอมา
“เฮ้อ...นึกถึงเส้นชัยแห่งความชนะไม่ออกเลยเนี่ย” นาธานถอนหายใจออกมาพร้อมกับบ่นให้คนที่อยู่ในห้องนี้ได้ยิน ส่วนคนเป็นพ่อที่ได้ยินลูกชายคนเล็กบ่นเข้าหู ท่านก็ไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไร เพราะคนที่แพ้ก็ยังมีโรงเรียนแพทย์เอาไว้รอให้คนแพ้ไปบริหารอยู่ดี ชายหนุ่มทั้งสองไม่ได้มีใครอยากจะชนะเพราะว่าอยากได้โรงพยาบาล แต่ที่อยากจะชนะมันเป็นเรื่องของศักดิ์ศรีล้วนๆ
“ตามนี้พวกแกสองคนออกไปได้ แล้วอย่ามัวแต่ทำงานล่ะ” ท่านเลิกคิ้วขึ้นอย่างยียวน เบื่อลูกที่มีแต่ความสามารถ แต่ไร้น้ำยาสุดๆ
“ยอมแพ้เลยไหม” เมื่อออกมาจากห้องได้ ทั้งสองก็มายืมมองหน้ากัน โดยมีลูคัสเอ่ยออกมาด้วยความมั่นใจ ยังไงเกมรักครั้งนี้เขาก็คงเป็นผู้ชนะอีกตามเคย
“ไม่มีทาง” ถึงนาธานจะยังไม่มีแม้นแต่แฟน เขาก็ไม่เคยยอมแพ้อะไรง่ายๆ ถึงลูคัสจะมีแฟนแล้วก็จริง แต่ก็ใช่ว่าจะสามารถมีลูกได้เลย งานแต่งก็ยังไม่ได้จัด แถมผู้หญิงคนนั้นก็ค่อนข้างมีฐานะ เธอคงไม่ยอมให้ลูคัสย่ำยีได้ง่ายๆ
“ถ้างั้นก็รีบหาแฟนเข้าล่ะ” ลูคัสตบบ่าผู้เป็นน้องชายแล้วเดินออกไปทำงานต่ออย่างคนอารมณ์ดี