3. สูญเสียพรหมจรรย์ (NC20+++)
“หยะ..อย่าทำอะไรหนูเลยนะ ปล่อยหนูไปเถอะ” วิรัศยาบอกคนที่คร่อมกายเธอด้วยน้ำตานองหน้าเมื่อรู้ชะตาตัวเองว่าจะโดนคนใจร้ายทำอะไร ดวงตากลมสั่นระริกมองใบหน้าเหี้ยมด้วยความหวาดกลัวแกมขอร้องขอความปรานี พยายามบิดร่างหนีออกจากการพันธนาการของมือแกร่งที่จับล็อกอยู่ที่เอวคอด แต่เธอยิ่งดิ้นเสื้อผ้าที่สวมอยู่ก็ยิ่งหลุดลุ่ยเปิดเผยเนื้อหนังมังสาให้ปรากฏสู่สายตาให้คนด้านบนได้เห็น
“อยู่เฉย ๆ ” ภูผาสั่งเสียงดุปนแหบพร่าเนื่องจากความปวดร้าวที่กระจายไปทั่วแก่นกายเพราะมันความกระสันอยากจนสุดจะทนเมื่อได้เห็นอกขาวอวบอิ่มที่กลิ้งขึ้นลงอยู่ใต้ฟองน้ำลายลูกไม่ ร่างกายแสนเย้ายวนของคนใต้ร่างทำให้ความปรารถนาที่จะกลืนกินเด็กสาวพุ่งขึ้นจนเขายากจะควบคุม อยากจะเข้าครอบครองตัวหญิงสาวให้รู้แล้วรอดเสียตั้งแต่ตอนนี้
ภูผากัดฟันแน่นจนกรามสองข้างนูนออกเป็นสันพร้อมกับการขยายตัวของแก่นกายที่ยังไม่ได้โดนปล่อยออกมาให้เป็นอิสระ มันเลยอัดแน่นจนเห็นเป็นลำเห็นชัดอยู่กลางลำตัว เร่งเคลื่อนมือใหญ่ขึ้นไปจับไหล่เล็กกดลงไปจนจมลงไปในพื้นที่นอนเกือบครึ่งร่างเพื่อตรึงเอาไว้ มืออีกข้างออกแรงฉีกกระชากกระโปรงของเธออย่างแรงจนตะเข็บขาดวิ่น แรงบาดจากขอบกระโปรงทำสะโพกมนของเธอเจ็บแสบเห็นเป็นรอยสีแดงเส้นยาว
“ไม่นะ! อย่านะ!" วิรัศยาตะเบ็งเสียงร้องด้วยความตกใจ แต่คนป่าเถื่อนกลับไม่ได้สนใจเสียงอันแสบแก้วหูนี้ เพราะมัวแต่สนใจร่างกึ่งเปลือยขาวโพลนของเธอ หลังจากที่เหวี่ยงกระโปรงในมือทิ้งไปแล้วเขาก็หันไปดึงบราเซียร์ลายลูกไม้ที่ห่อหุ้มปทุมถันคู่งามให้หลุดออกมาจากตัวโดยไม่ได้สนใจที่จะปลดตะขอที่เกี่ยวอยู่ข้างหลังด้วยซ้ำ แรงดึงอันรุนแรงนั้นทำให้ผิวบางเกิดเป็นรอยแดงข้างลำตัวอย่างน่าสงสาร
ปึด!
“โอ๊ย! ไม่..ไม่!” หญิงสาวนอนดิ้นอยู่ใต้ขลุกขลักอยู่ใต้ร่างใหญ่เมื่อคนใจร้ายได้ขึ้นมาคร่อมกักร่างเล็กของเธอไว้โดยที่สะโพกแกร่งได้นั่งทับต้นขาเนียนไว้เพื่อไม่ให้เธอดีดดิ้น
เด็กสาวใช้มือเล็กข้างหนึ่งพยายามปิดยอดอกอิ่มของตัวเองไว้ถึงแม้ว่าขนาดอันใหญ่โตของเต้าใหญ่จะทำให้ปิดไม่มิดก็ตาม มือเล็กอีกข้างดันที่ไหล่หนาไว้ไม่ให้คนตัวโตโน้มตัวลงมาใกล้ร่างเปลือยมากกว่านี้
“เกะกะ” ภูผาเอ่ยน้ำเสียงดุดันก่อนจะจับข้อมือเล็กทั้งสองข้างรวบไว้ในอุ้งมือใหญ่ข้างเดียวแล้วยกมือคู่นั้นไปวางด้านบนศีรษะน้อย ก่อนใบหน้าเข้มก้มลงไปหาอกอวบที่กระเพื่อมขึ้นลงอยู่เบื้องล่าง อ้าปากครอบยอดอกสีชมพูที่สั่นไหวชูช่ออวดความงามเชื้อเชิญให้เขาลงไปเชยชมโดยที่เด็กสาวไม่ได้ตั้งใจให้เป็นเช่นนั้นเลยสักนิด เขาทั้งดูดดุนทั้งขบเม้มรุนแรง จากยอดหนึ่งไปยอดหนึ่งสลับกันไปมาจนก้อนเนื้อขาวเริ่มมีรอยแดงเพราะมันเขี้ยวในอารมณ์ของผู้กระทำ
“โอ๊ย! เจ็บ..หนูเจ็บ อื้อ!” วิรัศยากรีดร้องออกมา ทั้งกลัวทั้งตกใจจากการกระทำแสนป่าเถื่อนของคนด้านบน บิดลำตัวไปมาให้พ้นจากร้อนของคนตัวโต แต่กลับเหมือนการเติมเชื้อไฟราคะของชายหนุ่มยิ่งเธอดิ้นเขายิ่งซุกไซ้แรงกว่าเดิม ผิวบางนวลเนียนบริเวณเนินอกเมื่อโดยตอหนวดถูไถซ้ำ ๆ ก็กลายเป็นสีแดงเข้มขึ้นมา
“อือ..” ชายหนุ่มครางในลำคอ พอใจในกลิ่นกายหอมรสหวานของกายสาว ตอนนี้ความกระสันอยากเข้าครอบงำอารมณ์ของเขาเสียจนไม่สนใจเสียงกรีดร้องแหลมแสบแก้วหูของคนตัวเล็กแล้ว
“ปล่อย! ปล่อยหนูนะ!” วิรัศยาตะโกนขณะที่ร่างกายดิ้นสะบัดทันทีที่เขาขยับตัวไปด้านล่าง เมื่อเขาจับขาเรียวแยกคร่อมสะโพกนั่งแทรกยังกลางหว่างขาเธอก็รีบยกเท้าน้อยขึ้นมาหน้าขาแกร่งหมายจะยันตัวออกห่างจากเขาแต่ก็ต้องโดนมือใหญ่อีกปัดออกแล้วดึงกางเกงในตัวจิ๋วของเธอออกไปอย่างเร่งรีบด้วยมือข้างที่ว่าง แล้วจึงหันมาจัดการกางเกงของตัวเองลงไปด้วยมือข้างเดียวกันโดยที่ไม่สนใจที่จะถอดเสื้อเลยแม้แต่น้อย
“ถ้าไม่อยากเจ็บมากก็อย่าดิ้น” ภูผายังมีน้ำใจแนะนำด้วยเสียงอันแหบพร่า จับขาเรียวแยกออกจากกันคร่อมร่างใหญ่โตของตัวเองไว้ รีบขยับเข้ากระชั้นชิดจนความเป็นชายสัมผัสกับจุดสงวนสวยงามของเด็กสาว ลมหายใจพ่นออกเสียงดังฟืดฟาด หัวใจแกร่งเต้นถี่รัวเมื่อจะได้เข้าไปในสิ่งสวยงาม มือหนาจับท่อนเนื้ออวบใหญ่ขนาดของชาวตะวันตกไถขึ้นลงป้ายน้ำหล่อลื่นที่มีเพียงน้อยนิดจากรอยแยกสีชมพูเข้มเพื่อเตรียมความพร้อมในขั้นตอนการบุกรุก โดยที่มืออีกข้างยังไม่ได้ปล่อยข้อมือเธอแม้แต่วินาที
“ไม่นะ! อย่าทำหนูเลย” วิรัศยารับรู้โดยสัญชาตญาณทันทีเลยว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้นในตอนที่ปลายนุ่มหัวเห็ดมาสัมผัสกับจุดสงวนของเธอ เด็กสาวเอ่ยขอร้องขณะที่น้ำตาไหลทะลักอาบสองแก้ม ร่างเล็กพยายามบิดสะโพกผายหนีจากท่อนเนื้อปูดโปนของคนตัวโต แต่มีหรือที่ชายหนุ่มจะให้เป็นเช่นนั้น ในเมื่อเขานั้นปวดหนึบไปทั้งลำอยากจะเข้าไปในตัวเธอใจจะขาด ภูผาดันรีบแก่นกายแข็งใหญ่ยักษ์ใส่ช่องทางรักแคบที่เห็นเพียงตาเปล่าก็รู้ว่ายังไม่เคยมีผู้ใดได้รุกล้ำเข้าไป ด้วยความที่เขานั้นปวดร้าวทรมานอย่างสุดจะทนเมื่อไม่ได้ปลดปล่อยทำให้เขาพรวดพราดเข้าร่องแคบเธอทีเดียวสุดด้าม
“โอ๊ย! เจ็บ!” วิรัศยาร้องตะเบ็งออกมาด้วยเสียงอันดัง รู้สึกชาหนึบก่อนจะเปลี่ยนเป็นเจ็บแปลบเหมือนดั่งใครเอามีดอันคมกริบมากรีดกลางร่องเนื้อ ทันใดนั้นก็รู้สึกถึงความอุ่นของเลือดพรหมจรรย์ที่ได้เอ่อสวนลำท่อนออกมาจากช่องทางรักแล้วไหลไปตามร่องก้นขาว
ไม่ทันที่เด็กสาวจะได้ปรับตัวกับความเจ็บแสบ คนใจร้ายก็ดึงสะโพกออกห่างแล้วกระแทกอัดแก่นกายยักษ์ใส่ช่องรักซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนร่างกายของเธอสั่นคลอนตามจังหวะการถาโถมนั้น
“โอ้ย! เจ็บ หนูเจ็บ อึก!” คนตัวเล็กร้องเสียงสั่น ความเจ็บปวดกลางกายทำให้เธอต้องใช้ฟันซี่เล็กกัดริมฝีปากแน่นเพื่อข่มความรู้สึกนั้น น้ำสีใสไหลทะลักออกมาจากดวงตากลมทั้งสองข้างอาบสองแก้มนวลจนเปรอะเปื้อน ปลายลำท่อนมนที่กระทุ้งเข้าไปโดนผนังมดลูกจนเธอจุกเสียดหมดเรี่ยวแรงที่จะต่อต้านความรุนของคนด้านบนอีกต่อไป
“แม่งโคตรแน่น อ่า..” ภูผาสบถเสียงแหบพร่ารู้สึกพอใจความคับแน่นของโพรงเนื้อสาวยากที่จะอธิบายออกมาเป็นคำพูด แรงดึงดูดยามเขาสาวตัวตนออกมันแน่นหนึบราวกับไม่อยากให้เขาออกห่างเขาจึงต้องสะบัดสะโพกกระแทกอัดกลับเข้าไปให้สมใจอยากของร่องเนื้อ
“จะ..เจ็บ เอามันออกไป..ฮือ" วิรัศยาร้องออกมาเสียงสั่น เลือดสาวที่เคลือบอยู่กับแก่นกายใหญ่ไม่ได้ช่วยลดความฝืดเคืองให้เธอเลยสักนิด แรงเสียดสีของเส้นเลือดขอดที่ครูดเข้าออกกับแผลฉีกขาดบนผนังโพรงรักทำเธอเจ็บแสบไปหมด พยายามฝืนแรงดึงขาเรียวขึ้นมายันที่หน้าตักแกร่งแต่ก็โดนคนตัวโตปัดออกอย่างไม่ไยดี
“เสียวฉิบ!” ชายหนุ่มสบถออกมาอย่างสุดจะทนเมื่อความกระสันพุ่งสูงจนอารมณ์ดิบถูกปลดปล่อย เขาปล่อยมือที่พันธนาการข้อมือเล็กออกให้เด็กสาวเป็นอิสระ ก่อนฉกปากบางลงกระแทกกับปากอิ่มอย่างแรงตามอารมณ์เถื่อนจนเธอรู้สึกถึงความเค็มของเลือดที่ออกภายในปาก
“อื้อ!” วิรัศยาเม้มปากแน่นพยายามไม่ให้ลิ้นสากได้ล่วงล้ำเข้ามา แต่ก็ไม่อาจสู้แรงของมือหนาที่เลื่อนมาบีบปลายคาง จนในที่สุดปากอิ่มก็ต้องเผยอแยกออกจากกัน ทันใดนั้นลิ้นหนาที่คอยท่าอยู่แล้วได้แทรกลอดไรฟันเข้าไปทันที
ภูผาตวัดลิ้นไปรอบโพรงปากน้อยกวาดหาความหวานในนั้นแล้วดูดกลืนอย่างกระหายเร่าร้อน มือใหญ่เคลื่อนมาตะปบขยำอกใหญ่อย่างเมามันจนใบหน้าสวยต้องเบ้หน้าด้วยเจ็บแปลบปวดหนึบ โดยที่ช่วงล่างแข็งแรงของชายหนุ่มยังคงกระแทกตอกอัดท่อนเนื้ออวบใส่โพรงรักรุนแรงไม่หยุดพัก
“เจ็บ..หนูเจ็บ เอาออกเถอะหนูขอร้อง” วิรัศยาร้องขอหลังจากปากเธอเป็นอิสระ มือเล็กเลื่อนมาดันที่แผงอกที่เต็มไปด้วยกล้ามแน่นเนื้อแต่หากว่าคนด้านบนกลับไม่สะทกสะท้านกับแรงดั่งมดน้อยของเธอ เขายังคงตั้งหน้าตั้งตาตะบี้ตะบันถาโถมสะโพกแกร่งใส่กลางตัวเธอรัวเร็วราวกับโกรธแค้นจุดบอบบางหนักหนา
“ใครจะบ้าเอาออกตอนนี้ อ่า..ตอดแรงฉิบ!” ภูผากัดฟันพูดเสียงต่ำ วางมือใหญ่ข้างไหล่เล็กแล้วยันช่วงบนขึ้นจากนั้นเร่งจังหวะกระแทกเร็วแรงถี่ยิบ ยิ่งเขาอัดท่อนเนื้อใหญ่เข้ามาแรงเท่าไรโพรงเนื้อยิ่งบีบรัดรัวเร็วเท่านั้น เนื้อนิ่มด้านในกลีบอูมเธอปลิ้นเข้าปลิ้นออกตามการเคลื่อนไหวของแท่งเนื้อใหญ่ หน้าท้องแกร่งเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดพรหมจรรย์จนเหนียวเหนอะหนะไปหมด มันไม่ได้ทำให้นึกรังเกียจแต่กลับกัน เลือดสาวทำให้เขายิ่งฮึกเหิมจนต้องเพิ่มกำลังตอกอัดเข้าใส่ร่างบางจนผิวเนื้อนุ่มของเธอสั่นกระเพื่อมรัวอยู่ใต้ร่างเขา
“อื้อ อึก!” วิรัศยาเม้มปากแน่นสะกดกลั้นความเจ็บที่กำลังเผชิญ ตัวตนของคนใจร้ายใหญ่โตเสียจนเธอคับแน่นไปทั้งช่องท้อง ในตอนที่คนป่าเถื่อนกระแทกเข้ามาแต่ละครั้งทำให้ปลายบานหัวเห็ดกระทุ้งไปโดนผนังมดลูกซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนจุกไปหมดทำให้สิ้นเรี่ยวแรงที่จะต่อต้าน เท้าเล็กยันพื้นที่นอนส่งลำตัวขึ้นด้านบนเพื่อหนีความรุนแรงแต่ก็โดนมือหนาจับเอวคอดแล้วดึงเข้าหาลำท่อนที่เขาส่งสวนมาโดยไม่สนใจว่าคนตัวเล็กจะรับความรุนแรงจากเขาได้หรือไม่ เสียงเนื้อกระทบดังระงมไปทั่งห้องนอนใหญ่
“พอ..พอแล้ว ไม่ไหว..แล้ว” วิรัศยาเปล่งเสียงร้องขอ ลมหายใจเธอเริ่มติดขัดเนื่องจากร่างกายเธอเริ่มแบกรับความเจ็บปวดที่เขายัดเยียดไม่ได้อีกต่อไป ริมฝีปากอิ่มสั่นระริกอย่างคุมไม่อยู่ สายตาเริ่มพร่ามัวจับภาพตรงหน้าไม่ได้อีกต่อไปแต่ถึงอย่างนั้นโพรงเนื้อก็ยังเต้นบีบรัดสิ่งแปลกปลอมที่อยู่ในตัวไม่เลิก นั่นยิ่งสร้างความเสียวซ่านให้ชายหนุ่มเพิ่มขึ้นจนในที่สุดอารมณ์สวาทก็พุ่งถึงขีดสุด
“ไม่ไหวแล้วโว้ย!” ภูผาคำรามออกมาเมื่อความกระสันของเขาพร้อมที่จะปลดปล่อย เขาเร่งจังหวะสับสะโพกรัวเร็วเพื่อส่งให้ตัวเองไปถึงฝั่งฝัน
“อ๊าย!” วรัศยากรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด กลางกายเธอเจ็บปวดราวกับโดยคนร่างใหญ่จับร่างฉีกแยกออกจากกัน
“อ่า!” ภูผาครางเสียงต่ำขณะที่ลำท่อนปล่อยน้ำเชื้อใส่ช่องรัก ปลายหัวเห็ดกระตุกในตอนที่พ่นน้ำสีขาวข้นจนเด็กสาวรู้สึกได้และโพรงรักก็ตอบรับสัมผัสนั้นด้วยการกระตุกเต้นระริกบีบรีดเอาน้ำรักอย่างน่าอาย คนตัวโตสะบัดสะโพกใส่ช่องรักนุ่มอีกสองสามทีก่อนจะดึงลำท่อนออกจากกลางตัวเธอเป็นการสั่งลา
น้ำสีขาวขุ่นไหลทะลักตามท่อนเนื้อออกมาทันทีพร้อมกับเลือดพรหมจรรย์สีแดงก่อนจะไหลไปตามร่องก้นขาวจนแล้วไปหยุดผ้าปูที่นอนสีขาวเป็นดวงใหญ่ทิ้งหลักฐานไว้ตอกย้ำให้เด็กสาวรู้ซึ้งว่าความสาวของเธอนั้นได้ถูกคนใจร้ายพรากไปแล้ว
ภูผาพ่นหายใจหอบจากที่ต้องออกแรงแห่งความเสียวซ่านไปเมื่อครู่ สองแขนแข็งแรงยืดขึ้นยันร่างกายอันใหญ่โตของตัวเองออกจากคนตัวเล็กที่นอนหมดเรี่ยวแรงจากการโดนเขากระทำสิ่งโหดร้ายใส่ ปรายสายตาคมมองร่างขาวโพลนเพียงครู่ก่อนจะกระตุกยิ้มเย้ยหยันที่มุมปาก ก่อนจะเดินออกไปจากห้องไปปล่อยให้เด็กสาวนอนเปลือยกายบนเตียงอย่างไม่ไยดี