2. คนป่าเถื่อน
“อืม” เสียงครางแผ่วเบาออกมาจากริมฝีปากอวบอิ่มที่เผยอขึ้นมาเล็กน้อยในตอนที่เจ้าตัวเริ่มรู้สึกตัว เปลือกตาบางขยับยุกยิกก่อนจะค่อย ๆ เปิดขึ้นด้วยความรู้สึกที่หนักอึ้งเหนื่อยล้า
“โอย..ปวดหัวจัง” เสียงเล็กบ่นพึมพำให้กับสภาพร่างกายที่ไม่ปกติของตนเองก่อนจะพยุงร่างให้ลุกขึ้นนั่ง แต่แล้วเธอยกมือขึ้นกุมศีรษะเมื่อรู้สึกปวดจี๊ดอีกครั้ง คงเป็นเพราะผลพวงจากฤทธิ์ยาสลบที่เธอสูดเข้าไปเมื่อหลายชั่วโมงก่อน
“ที่นี่ที่ไหน?” เมื่ออาการปวดนั้นคลายลงดวงตาคู่สวยจึงได้มองสำรวจไปรอบ ๆ ห้องจึงพบว่าที่ที่เธออยู่นี้เป็นห้องนอนขนาดใหญ่ มองออกไปทางระเบียงกว้างก็เห็นชายหาดอยู่เบื้องล่าง คลื่นน้ำทะเลกำลังหยอกล้อกับหาดทรายเกิดเป็นฟองอากาศสีขาวบริสุทธิ์ แสงแดดที่ตกลงกระทบกับผิวน้ำทำให้เกิดประกายวิบวับแสบตาจนเธอต้องหรี่ตาลงอัตโนมัติ
เสียงคลื่นทะเลดังแว่วมาเข้าโสตประสาท เมื่อได้ฟังแล้วรู้สึกสบายใจจนเผลอปล่อยใจไปกับเสียงนั้น ก่อนที่เธอจะเริ่มหายมึนงงกับฤทธิ์ยาร้ายจึงได้ประมวลลำดับเหตุกาณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้า พลันก้อนเนื้อในอกด้านซ้ายก็เริ่มกระตุกถี่แรงขึ้นเรื่อย ๆ เพราะความตื่นตระหนกเมื่อรับร้แล้วว่าเธอถูกชายแปลกหน้าคนหนึ่งบังคับพาตัวมา
วิรัศยา หรือ หวาน เด็กสาวอายุ 18 ปี เธอเพิ่งจบมัธยมปลายเมื่อสองอาทิตย์ก่อน เธอขอพ่อแม่ออกมาอยู่หอพักใกล้กับมหาวิทยาลัยที่เธอจะเรียนต่อ ระหว่างที่รอให้มหาวิทยาลัยเปิดเทอม เธอก็ออกหางานพาร์ทไทม์ทำเพื่อแบ่งเบาภาระให้พ่อแม่ ครอบครัวเธอไม่ใช่ครอบครัวคนรวยที่จะแบมือขอเงินพ่อแม่เรียนอย่างเดียวไปจนจบได้ได้
ระหว่างทางที่เธอเดินอยู่ในซอยเพื่อกลับเข้าหอพักนั้น ได้มีรถกระบะคันใหญ่สี่ประตูสีดำมาจอดตัดหน้าเธออย่างรวดเร็วจากนั้นมีผู้ชายที่เป็นผู้ขับได้ลงจากรถเดินตรงลิ่วมาทางเธออย่างเร่งรีบ และขณะที่เธอยังตกตะลึง ชายคนนั้นก็เปิดประตูรถตอนหลังแล้วฉุดกระชากเธอ บังคับให้ขึ้นไปบนรถคันนั้นจนสำเร็จ จากนั้นเขาก็เอาผ้าชุบยาสลบมาปิดปากปิดจมูกของเธอจนเธอหมดสติไป เมื่อเด็กสาวจำเหตุการณ์ได้ทั้งหมดแล้ว เบ้าตาสองข้างร้อนผ่าวและน้ำสีใสเอ่อท่วมดวงตาทั้งคู่จากนั้นก็ไหลเป็นทางอาบทั้งสองแก้ม เธอถูกลักพาตัวมา
ปึง!
เสียงประตูที่ถูกเปิดเข้ามาอย่างแรงจนมันไปกระแทกกับผนังห้องเกิดเป็นเสียงดังสะท้อน ทำเอาวิรัศยาถึงกับสะดุ้งสุดตัวอย่างอกสั่นขวัญแขวน ก่อนหันขวับไปยังต้นเสียงอึกทึกนั้นทันที
“ฟื้นแล้วสินะ” เป็นเสียงของคนที่เป็นคนเปิดประตูเอ่ยทักด้วยน้ำเสียงที่ไม่เป็นมิตร เสียงดุดันนั้นทำให้วิรัศยากระเถิบหนีจนหลังติดพนักหัวเตียงพร้อมทั้งมองไปยังคนใจร้ายด้วยสายตาหวาดระแวง
ภูผา หรือ เดวิด ชายหนุ่มวัย 30 เขาคือคนจับตัวเด็กสาวมา ภูผามีรูปร่างสูงใหญ่กว่ามาตรฐานชายไทย ใบหน้าแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นคนครึ่งยุโรปเอเซีย จมูกโด่งเป็นสันได้รูป ริมฝีปากบางเหยียดตรง ดวงตาคมเป็นสีน้ำตาลอ่อนตามแบบฉบับคนยุโรป
พ่อของภูผาเป็นคนชาวอังกฤษมาทำธุรกิจที่เกาะนี้ทำให้มาเจอกับแม่ของเขา ทั้งคู่รักกันและแต่งงานอยู่กินด้วยกันจนมีลูกสองคนคือพี่สาวกับภูผา ในตอนที่พ่อของภูผายังอาศัยอยู่ที่เมืองไทย ท่านได้ลงทุนซื้อเกาะแห่งนี้ไว้ทำเป็นแหล่งท่องเที่ยวเพื่อเป็นรายได้ให้กับครอบครัว ปัจจุบันพ่อกับแม่เขาอาศัยอยู่ที่อังกฤษเป็นหลักและได้ยกเกาะนี้ให้เขาเป็นคนดูแล
“คุณจับหนูมาทำไม? ปล่อยหนูไปเถอะนะ..นะ” วิรัศยารีบประกบฝ่ามือน้อยไหว้อ้อนวอนด้วยอาการสั่นเทิ้ม เด็กสาวขอร้องชายหนุ่มหวังว่าจะให้เขาใจอ่อนน้ำตาที่เหือดแห้งไปไหลทะลักออกมาอีกครั้งจนแก้มเนียนของเธอเต็มไปด้วยหยาดน้ำตา เท้าเล็กยันพื้นที่นอนส่งตัวเองหนีขึ้นไปจนติดหัวเตียงด้วยความหวาดกลัว
“หึ..” ชายหนุ่มกระแทกเสียงขึ้นในลำคอด้วยท่าทีเย้ยหยัน ร่างกำยำเดินย่างสามขุมเข้าไปและหยุดที่ขอบเตียง ก่อนมือใหญ่จะจับหมับที่ข้อเท้าเล็กของเด็กสาวแล้วดึงกระชากลงมาที่กลางเตียง ทำให้ร่างบางนั้นทรงตัวไม่ได้ถึงกับต้องหงายหลังนอนราบอยู่พื้นที่นอน
“ว้าย!” วิรัศยากรีดร้องเสียงดังด้วยความตกใจสุดขีด การที่เขาดึงตัวเธอลงทำให้ชายกระโปรงที่เธอสวมอยู่ร่นขึ้นไปจนเห็นต้นขาขาวเนียนทั้งสองข้าง
“คะ..คุณ คุณจะทำอะไรหนู?” วริศยาเอ่ยถามคนตัวโตด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ พยายามจะดึงขาออกจากพันธนาการที่แข็งดั่งคีมเหล็ก แต่ยิ่งดิ้นชายกระโปรงของเธอก็ยิ่งเปิดขึ้นไปจนเห็นกับกางเกงตัวน้อย โดยที่เจ้าตัวนั้นก็ไม่รู้ตัวเลยสักนิดเพราะความสนใจของเธอนั้นอยู่ที่ข้อเท้าที่เจ็บแปลบจากการบีบกำของเขามากกว่า
“….” ชายหนุ่มไม่ตอบคำถามเพราะตอนนี้ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนกำลังจ้องอยู่ที่ขาเรียว ที่ดูแล้วช่างน่าลูบไล้น่าสัมผัส แล้วนัยน์ตาเขาเป็นประกายวิบวับเมื่อมองไล่ขึ้นไปตรงจุดสงวนกลางตัวที่นูนดันกางเกงในออกมาเป็นเนินสวย เพียงแค่นี้ท่อนลำที่กำลังหลับสนิทก็กระตุกตื่นขึ้นมาพร้อมกับความปวดร้าวกระจายไปทั่วทั้งลำ เขาไม่ใช่พระอิฐพระปูนที่เห็นสิ่งยั่วยวนอารมณ์แบบนี้แล้วจะนิ่งเฉยอยู่ได้
วิรัศยามองตามสายตาของเขาก็พบว่าจุดที่สายตาคมนั้นคือส่วนลับของความเป็นหญิงของตัวเอง มือน้อยจึงช่วยกันรีบดึงชายกระโปรงลงปิดตรงส่วนนั้นอย่างรวดเร็ว มืออีกข้างจับกระชับคอเสื้อเชิ้ตสีชมพูอ่อนของตัวเองไว้แน่นพร้อมกับความหวาดระแวงที่เกิดขึ้นในความรู้สึก สายตาระยิบระยับของเขานั้นช่างไม่น่าไว้ใจเลยสักนิด
“มีของดีอยู่กับตัวจะปิดทำไม?” ภูผาเอ่ยเสียงห้วนอย่างขัดใจเมื่อเห็นเด็กสาวปิดทั้งส่วนบนส่วนล่างจนมันพ้นไปจากสายตาของเขา ด้วยความไม่พอใจมือหนาจึงเอื้อมไปคว้าหมับที่คอเสื้อแล้วออกแรงกระชากลงอย่างแรงจนกระดุมหลุดกระเด็นกระดอนลงไปตามพื้นที่นอนและบางส่วนก็ตกลงไปพื้นแข็งด้านล่าง
แควก!
“ว้าย!” วิรัศยาหวีดร้องขึ้นมาอีกครั้งให้กับความรุนแรงของเขา มือเล็กรีบตะครุบสาบเสื้อที่แยกออกจากกันแต่ก็ไม่สามารถปิดเนินอกอิ่มที่ใหญ่จนล้นออกมาจากฟองน้ำที่ห่อหุ้มได้เลย เนินเนื้อขาวของเต้าอวบกระเพื่อมขึ้นลงถี่ ๆ ตามแรงหายใจของเจ้าของซึ่งกำลังตกใจการกระทำรุนแรงของคนป่าเถื่อน
ภูผามองเนินอกขาวเนียนเพียงครู่ก่อนที่จะหันไปหยิบเข็มฉีดยาที่มีน้ำยาจากลิ้นชักโต๊ะข้างเตียงที่ได้เตรียมไว้ แล้วได้หันมาทางคนที่ตัวสั่นอย่างกับลูกนก ดวงตากลมของเธอจ้องมองทุก ๆ การเคลื่อนไหวของเขาด้วยความหวาดหวั่น พยายามจะกระเถิบหนีแต่ก็ไม่อาจทำได้เพราะข้อเท้ายังคงถูกมือแข็งกำไว้แน่น
“นั่นอะไร? คุณจะทำอะไร?” วิรัศยาถามเสียงสั่น ดวงตาเบิกกว้างพร้อมกับหัวใจที่เต้นโครมครามอยู่ภายในอกเมื่อเห็นเข็มฉีดยาขนาดเล็กที่ชายหนุ่มถืออยู่ ในช่วงที่คนใจร้ายคลายแรงบีบเธอก็รีบผลุนผลันใช้ศอกดันร่างขึ้น เท้าเล็กถีบยันส่งร่างหนีให้ห่างจากเขา แต่ก็ไม่ทันได้ไปพ้นรัศมีของความยาวแขน ที่คนป่าเถื่อนได้มาจับที่ต้นขานุ่มของเธอและกดตรึงลงบนพื้นที่นอนเสียก่อน
“หึ” ชายหนุ่มไม่ตอบได้แต่ส่งเสียงในลำคอ จากนั้นจึงเคลื่อนมือที่จับต้นขาเธออยู่มาผลักไหล่บางให้เด็กสาวนอนราบลงไปกับพื้นนุ่มแล้วก้าวขาขึ้นคร่อมขาเรียวทั้งสองข้างก่อนจะนั่งทับไม่ให้เธอขยับหนีไปไหนได้อีก
“ดะ..เดี๋ยว คุณจะวางยาหนูเหรอ?” วิรัศยาเอ่ยถามขณะที่ดวงตากลมเบิกโพลงอย่างตื่นตะหนกเมื่อเห็นว่าเขาทำท่าจะลงเข็มฉีดยานั้นให้เธอ เธอเพิ่งจะฟื้นจากยาสลบแล้วนี่เขาจะวางยาเธออีกแล้วเหรอ ถึงแม้ไม่รู้ว่าฤทธิ์ของยาในหลอดนั้นจะเป็นเช่นไรแต่ในเมื่อมันอยู่ในมือของคนกักขระอย่างเขาเป็นธรรมดาที่เธอจะหวาดกลัว
“ไม่ได้วางยา ฉันแค่จะฉีดยาคุมให้” พูดจบภูผาก็แทงเข็มฉีดยาแหลมลงบนสะโพกกลมของเธอทั้ง ๆ ที่ยังมีกระโปรงขวางกั้นอยู่ มือใหญ่จับอยู่เอวคอดแล้วออกแรงบีบจนเธอไม่สามารถดิ้นหนีไปไหนได้
“โอ๊ย!” หญิงสาวร้องออกมาเมื่อรู้สึกเจ็บแปลบตรงบริเวณเนื้อบางตำแหน่งที่ปลายของเข็มฉีดยาที่ทิ่มแทง แค่เพียงอึดใจชายหนุ่มใช้เวลาไม่นานในการเดินน้ำยาแล้วจึงดึงเข็มฉีดยาออกและโยนไปบนโต๊ะข้างเตียง
“จะ..จะฉีดยาคุมให้หนูทำไม?” วิรัศยาเอ่ยถามอย่างตะกุกตะกักขณะที่ปลายส้นออกแรงยันตัวให้หนีห่างทันทีที่เขาปล่อยมือจากเอวบางและขยับตัวออกจากการนั่งทับขา
“ก็เพื่อที่จะไม่ให้เธอท้องก่อนเวลาอันสมควรยังไงล่ะสาวน้อย” ภูผาตอบเสียงเรียบในขณะที่คลานตามเด็กสาวไป