๗ ไม่เคยเข้าใจ (๔)
หญิงสาวเรียกชื่อของปีแสงอยู่อย่างนั้นจนมั่นใจว่าชายหนุ่มคงยังไม่ถึงบ้าน จึงเอื้อมหยิบโทรศัพท์ที่เอามาเปิดเพลงฟังในห้องน้ำมากดโทรหาคนรัก ดึกขนาดนี้แม่บ้านคงนอนหมดแล้ว อีกทั้งห้องของเธอก็เก็บเสียง ร้องให้คอแตกก็ไม่มีใครได้ยินหรอก
ตืด ตืด ตืด
รอสายด้วยใจกระวนกระวาย ร้องไห้น้ำตาไหลเป็นสาย ยิ่งมองเลือดก็ยิ่งกังวลมากกว่าเดิม กลัวสูญเสียลูกไปจึงทำได้แค่ภาวนาให้อีกฝ่ายรับสายของตนสักที สายถูกตัดจึงรีบโทรอีก ปากสั่นมือสั่นไปหมด เพิ่งรับรู้ถึงความกลัวจับใจก็วันนี้เอง
หากสูญเสียลูกไป โลกทั้งใบของเธอคงพังทลาย...
“รับสายสิคะ” อ้อนวอนเสียงสั่นเมื่อสายที่สองถูกตัด เธอเลือกจะโทรหาเขาอีกรอบพยายามอดทนรอให้อีกฝ่ายรับสายของตนสักที ใจร้อนรุ่มแทบทนไม่ไหว จะยืนก็ไม่กล้าจินตนาการไปไกลกลัวลูกจะหลุด เธอไม่กล้าขยับด้วยซ้ำ
“ฮือ พี่ปี...รับสายได้ไหม” น้ำตาร่วงเป็นสายทั้งยังโมโหที่ชายหนุ่มไม่ยอมรับสายสักที โทรไปหลายสายสุดท้ายชายหนุ่มก็ไม่รับ กลับมีข้อความเด้งขึ้นทำให้เธอเปิดเข้าไปดู เห็นภาพของสามีนั่งอยู่ในบ้านของใครสักคน
‘พี่ปีอยู่กับพี่ค่ะ เดี๋ยวจะรีบบอกให้กลับนะคะ’
บ้านของลันตา...
เขาอยู่กับลันตาอย่างที่อีกฝ่ายบอกหล่อนไว้จริงด้วย มือไม้อ่อนแรงทำได้เพียงมองรูปสามีด้วยใจที่แหลกสลายไม่เหลือชิ้นดี น้ำตาเริ่มบดบังภาพตรงหน้าจนเธอมองรูปเขาไม่เห็น น้ำหูน้ำตาไหลก่อนจะรีบปาดมันออก ตัดสินใจกดโทรหาปีแสงอีกครั้ง
ตืด ตืด ตืด
“เดี๋ยวพ่อ...เดี๋ยวพ่อก็รับสายนะลูก รอก่อนนะ” บอกลูกน้อยเมื่อเลือดไหลเปื้อนขา ยิ่งทำให้หล่อนกลัวมากกว่าเดิมพร้อมความเจ็บปวดเริ่มบีบรัด หญิงสาวร้องเสียงหลงพร้อมกับสัญญาณที่ถูกตัด
“โอ๊ย”
เส้นความอดทนขาดผึง...เธอจะไม่รอเขาอีกต่อไปแล้ว
เมื่อรักของตนไม่เคยมีค่ากับปีแสง แล้วยังจะเอาใจไปให้เขาเหยียบย่ำเล่นทำไม เธอเพิ่งตาสว่างตอนนี้เองว่าตนเองโง่งมแค่ไหน
“ฮัลโหล เหนือ ฉันล้ม...ในห้องน้ำ” ตัดสินใจโทรบอกเพื่อนสนิทที่อยู่บ้านใกล้กัน รอไม่นานแสงเหนือก็รับสาย พอทราบดังนั้นไม่ได้พูดอะไรกลับรีบวิ่งมาอย่างรวดเร็ว
เธอไม่ต้องรอด้วยซ้ำ...
“เนเน่!” ร้องเรียกเพื่อนสนิทเสียงดังแล้วรีบอุ้มหล่อนไปขึ้นรถเพื่อไปโรงพยาบาล ทั้งบ้านไม่มีใครอยู่เพราะไปงานการกุศลกันหมด
ถึงมือหมอก็ถอนหายใจโล่งอกก่อนนั่งรอที่หน้าห้อง ใจก็ภาวนาอย่าให้เพื่อนเป็นอะไรเลย พร้อมก่นด่าพี่ชายที่ทิ้งให้หญิงสาวอยู่บ้านเพียงลำพัง กำมือถือของดรุณีเอาไว้แน่นเมื่อเห็นข้อความที่ลันตาส่งมา
เขาจะไม่ค้านเลยหากเพื่อนสนิทจะขอหย่ากับพี่ของตน!
ปิดโทรศัพท์เพื่อตัดขาดการติดต่อกับภรรยา เขาคิดว่าเธอคงโทรตามให้กลับบ้านแล้วชวนทะเลาะเหมือนเคยจึงไม่อยากคุยด้วย นั่งพูดเรื่องที่แฟนเก่าของลันตาตามรังควานจนหญิงสาวได้รับบาดเจ็บ ตัดสินใจไปแจ้งตำรวจลงบันทึกประจำวันไว้โดยมีเขาคอยช่วยเหลือ
ร่างสูงยืนขึ้นแล้วเตรียมจะออกจากบ้านของหล่อน เธอก็ยิ้มให้ด้วยความรู้สึกซาบซึ้งที่เขามีต่อตนเอง
“พี่จะพยายามช่วยให้ได้มากที่สุด ถ้ามีอะไรคืบหน้าจะบอกทันที”
“ขอบคุณนะคะพี่ปี ลันไม่รู้จะพึ่งใครแล้วนอกจากพี่ ลันไม่น่าเลือกผู้ชายคนนั้นแล้วทิ้งพี่ไปเลย ลันขอโทษนะคะ...ลันขอโทษ” เดินมาหยุดตรงหน้าปีแสงพร้อมเอ่ยถึงความในใจของตนเอง เสียดายที่ทิ้งเพชรไปคว้าก้อนกรวด
“มันผ่านไปแล้วอย่าเก็บมาคิดมากเลยนะ ต่อจากนี้ลันก็ใช้ชีวิตให้ดีอย่าเอาตัวเองไปเจ็บเพราะใครอีก” บอกจากใจแล้วเดินออกจากบ้าน ทว่ายังไม่ทันได้ก้าวไปไหนก็ถูกกอดจากทางด้านหลังทำให้ร่างหนาชะงัก รับรู้ถึงความเปียกชุ่มกลางแผ่นหลัง จึงรู้ว่าลันตากำลังร้องไห้
“พี่ปีอย่าไปได้ไหม...อยู่กับลันก่อนนะคะ” อ้อนวอนเสียงสั่น
“ลัน” เรียกชื่อเธอแผ่วเบา ก่อนหญิงสาวจะปล่อยแขนจากเอวสอบ เดินไปหยุดต่อชายหนุ่มพร้อมจ้องดวงตาคม กลืนน้ำลายลงคอพร้อมตัดสินใจบอกความจริงทุกอย่างกับอีกฝ่าย ไม่อาจเก็บงำไว้กับตัวเองได้อีกต่อไป
ใช้ความอ่อนแอเพื่อเรียกคะแนนสงสาร เพียงเท่านี้เขาจะไปไหนรอด...
ต้องกลับมาหาเธออยู่แล้ว
“ลันรักพี่ปี ลันรู้แล้วว่าพี่ปีดีกับลันมากแค่ไหน เรากลับมาเริ่มต้นใหม่ไม่ได้เหรอ” จับมือหนามากุมเอาไว้ สายตาเว้าวอนจนเขาทำตัวไม่ถูก หลายครั้งที่เราห่างกันจนถึงเลิกราแล้วเป็นเธอที่มาง้อจนตนใจอ่อนร่ำไป
แต่ตอนนี้มันไม่เหมือนครั้งอดีตแล้ว เพราะความรู้สึกที่ตนมีให้ลันตาได้เปลี่ยนจากคนรัก เหลือเพียงน้องสาว
“พี่ขอโทษ พี่แต่งงานแล้วคงทำอย่างนั้นไม่ได้”
“แล้วถ้าพี่ไม่แต่งงาน ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้เข้ามา พี่จะเลือกลันไหมคะ” คำปฏิเสธของเขาไม่เป็นผล เธอยังคงไล่ต้อนก่อนจะเขย่งปลายเท้าแล้วยื่นหน้าเข้าไปใกล้เขา โดยชายหนุ่มก็ไม่ได้หลบยังคงจ้องหล่อนนิ่ง
คืนนั้นจึงผ่านไปด้วยความยากลำบากสำหรับเขา...และเธอ
ออกจากคอนโดมิเนียมในตัวเมืองแต่เช้าเพื่อขับรถกลับบ้าน เขาไม่อยากกลับมาแล้วต้องทะเลาะกับภรรยาที่คงนั่งรออยู่เหมือนเคย นึกสงสารหล่อนเหมือนกันต้องไล่ตามตลอดเวลา รู้ดีว่าดรุณีมีความรักล้นเปี่ยมให้ตน
เขาตัดสินใจเคลียร์กับลันตาเมื่อคืน ปฏิเสธจูบด้วยการเบี่ยงหน้าหลบแล้วบอกชัดเจนว่าไม่ได้คิดอะไรกับเธอ ค่อยออกจากบ้านของหญิงสาวเพื่อกลับไปนอนคอนโดของตน คิดอย่างถี่ถ้วนถึงความรู้สึกที่มีต่อภรรยา
แล้วก็ได้ข้อสรุปว่า...หลงรักเธอเข้าให้แล้ว
ผู้หญิงที่กำลังจะเป็นแม่ของลูก รักและดูแลเอาใจใส่เขามาโดยตลอด ใจที่ว่าแข็งเหมือนหินโดนน้ำหยดใส่ทุกวันทำไมจะไม่อ่อนลง
วันนี้คิดจะคุยกับหญิงสาวให้รู้เรื่อง คิดว่าหล่อนคงดีใจจนยิ้มแก้มปริเมื่อเขาเผยความรู้สึก แค่คิดก็ทำให้ยิ้มออกมาได้แล้ว ระหว่างที่เดินขึ้นบันไดหน้ามุขก็สังเกตถึงความเงียบ คิ้วหนาขมวกเข้าหากันเล็กน้อย ปกติจะมีหญิงสาวมาคอยต้อนรับ
หรือเธองอนเขาที่ไม่ยอมรับโทรศัพท์แถมไม่กลับบ้านอีก...
“ทำไมบ้านเงียบนักล่ะ” ถามแม่บ้านที่รีบมาต้อนรับด้วยสีหน้าไม่ค่อยสู้ดี
“เมื่อคืนคุณเน่ล้มในห้องน้ำตอนนี้อยู่โรงพยาบาลค่ะ” รีบบอกเรื่องสำคัญกับเขา
ทำให้ชายหนุ่มตกใจเป็นอย่างมาก ตะโกนเสียงดังแล้วรีบวิ่งกลับไปขึ้นรถก่อนมุ่งไปยังโรงพยาบาลใกล้บ้านให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
“แล้วทำไมไม่รีบบอก!”
สอบถามจากพยาบาลแล้วแจ้งชัดเจนว่าต้องการมาหาภรรยา เมื่อทราบว่าหล่อนอยู่ห้องพักพิเศษก็รีบกดลิฟต์แล้วขึ้นไปด้านบน ยังไม่ทันได้เข้าห้องก็เห็นน้องชายเดินออกมาจากห้องพอดี
“เหนือ เน่เป็นยังไงบ้าง”
รีบเข้าไปถามอย่างรวดเร็วโดยไม่รู้เลยว่าแสงเหนือจะปล่อยหมัดใส่คนเป็นพี่อย่างแรงจนถึงกับเซ
ผลั้วะ
“พี่ยังมีหน้ามาถามอีกเหรอ เน่โทรหาพี่หลายสายแต่พี่ไม่รับ ตอนนี้ยังมาห่วงอะไรอีก...ถ้าเมื่อคืนพี่รับโทรศัพท์เน่ก็คงไม่แท้ง”
ท้ายประโยคทำให้ร่างสูงถึงกับทรุดลง ส่ายหน้าอย่างเชื่องช้าไม่เชื่อหูตัวเองด้วยซ้ำว่าเป็นเรื่องจริง
“แท้ง...เน่แท้งเหรอ”
ลูกของเขา...จากไปแล้วอย่างนั้นหรือ
