๗ ไม่เคยเข้าใจ (๓)
วันต่อมาเธอตื่นเช้าเพื่อมาทำอาหารง้อเขา ทว่าเขาออกไปแต่เช้าก่อนเธอลุกจากที่นอนเสียอีก ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าถูกสามีหลบหน้า เหมือนตอนที่มีอะไรกันอยู่บ้านพักตากอากาศ เขาเอาเรื่องงานมาบังหน้าเพื่อหนีเธอ กลับต้องมารับผิดชอบเพราะตนท้อง
แล้วตอนนี้ล่ะ...จะทำอย่างไรดี
คิดไม่ตกแล้วก็ไม่อยากอยู่คนเดียว เพื่อนสนิทอย่างแสงเหนือไปทำงาน ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากไปคุยกับแม่ย่า พยายามแย้มยิ้มไม่ให้ท่านกังวล คุณวีรินทร์ถามถึงหลานในท้องพอทราบว่าแข็งแรงดีก็เบาใจ ตอนนี้เริ่มดิ้นและทักทายแม่มากขึ้น
เธออยากได้ครอบครัวแสนสุข แต่ตอนนี้ปัญหาก็รุมเร้าจนคิดไม่ตก...
“หน้าตาดูไม่ค่อยสบายเท่าไหร่นะลูก มีอะไรหรือเปล่า” ขณะที่ทำขนมกับคุณวีรินทร์ก็จมในความคิดของตัวเอง คนผ่านร้อนผ่านหนาวมามากพอจะสังเกตถึงความผิดปกติ จึงได้เอ่ยถามเพราะเป็นห่วงหญิงสาว
“พี่ปีเหมือนจะโกรธเน่เลยค่ะ แต่ไม่รู้ว่าจะง้อยังไง...ไม่ยอมคุยกับเน่เลย คุณแม่ช่วยคิดวิธีง้อพี่ปีหน่อยสิคะ” เมื่อพึ่งตัวเองไม่ได้ก็ต้องให้คนใกล้ชิดช่วย คราวนี้ท่านวางมือจากงานที่กำลังทำ หันมาสนใจหญิงสาวที่มีสีหน้ากังวลอย่างชัดเจน
“มีเรื่องอะไรกันเหรอ”
“ก็...เน่คงหึงหวงมากไปน่ะค่ะ เห็นว่าพี่ปีกลับไปพูดคุยกับแฟนเก่า...” ก้มหน้านิ่งเหมือนยอมรับผิด
หลังจากนอนคิดทบทวนแล้วก็จริงดั่งที่เขาบอก หล่อนอารมณ์ร้อนมากเกินไป อาละวาดใส่สามีในที่สาธารณะไม่ให้เกียรติเขาเลยสักนิด ถ้าใจเย็นแล้วถามไถ่ยามอยู่ในที่รโหฐานก็อาจจะไม่ต้องทะเลาะกันเช่นนี้
“ปีคุยกับลันเหรอ” ท่านคิ้วขมวดทันทีเมื่อได้ยินเช่นนั้น ไม่นึกว่าลูกชายจะกลับไปคุยดีกับแฟนเก่าที่นอกใจได้
“ไม่เชิงคุยหรอกค่ะ แค่ขอความช่วยเหลือเพราะมีปัญหาแล้วพี่ปีก็ช่วย แต่น่าจะไม่มีอะไรมากกว่านั้น เน่ระแวงไปเองเลยโดนโกรธ” รีบอธิบายเพราะกลัวท่านจะดุสามีของตัวเอง มาลองคิดดูอีกครั้งก็น่าจะจริงอย่างชายหนุ่มพูด บทสนทนาของปีแสงกับลันตาไม่มีเรื่องใต้สะดือหรือคำพูดชวนคิดไปไกล มีเพียงปรึกษาปัญหาชีวิต
เขาอาจไม่คิด แต่เชื่อเลยว่าฝ่ายนั้นต้องหวังแน่นอน
เลือกจะไม่โทษคนของตัวเองและยกความผิดทั้งหมดให้ลันตาแทน นึกโกรธที่นอกใจไปแล้วยังหวนกลับมาได้อีก
รักเจ็ดปีมันฝังใจขนาดนั้นเลยหรือไง!
“ปีหายโกรธง่าย ทำขนมไปง้อก็หายแล้วล่ะ” การถามไปก็คงไร้ประโยชน์ ท่านจึงบอกวิธีง้อบุตรชายซึ่งลูกสะใภ้ก็ทำตาโตขึ้นมาทันที ลืมเรื่องเศร้าหมองอย่างรวดเร็ว คิดว่าถ้าทำขนมให้กินพร้อมเขียนข้อความง้อ
ปีแสงก็น่าจะหายโกรธ...
“จริงเหรอคะ งั้นเน่จะลองดูนะคะ” เริ่มกลับมายิ้มได้พลอยทำให้คุณแม่ตามไปด้วย ทั้งสองทำขนมอยู่ในครัวก่อนเธอจะชะงักเมื่อมีสายเรียกเข้า เช็ดมือให้สะอาดแล้วค่อยหยิบโทรศัพท์มาดูเบอร์แปลก ขมวดคิ้วสงสัยว่าจะเป็นคอลเซ็นเตอร์หรือเปล่า ช่วงนี้ยิ่งระบาดหนักอยู่ด้วย
“ทำขนมดีกว่า...ใครโทรมาล่ะเนี่ย” เลือกจะไม่รับแต่อีกฝ่ายก็โทรมาอีก เธอจึงขออนุญาตมารดาออกไปคุยข้างนอก
แค่กดรับสายยังไม่ทันได้เอ่ยทักทายสักคำ ปลายสายก็รีบพูดให้เธอชอกช้ำใจอย่างรวดเร็ว
‘สวัสดีค่ะน้องเน่ พี่ลันเองนะคะ วันนี้จะขอยืมตัวพี่ปีหน่อยนะ อาจจะกลับค่ำเลยโทรมาบอกไว้ก่อน แต่ยังไงจะปล่อยให้กลับไปหาน้องเน่แน่นอนค่ะ’ มือบางกำกระโปรงไว้แน่น สูดลมหายใจลึกเข้าปอดแล้วค่อยผ่อนลมหายใจออกมา สั่งตัวเองไม่ให้หัวเสียกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง
“ค่ะ ตามสบาย” พูดจบก็ตัดสายทันที
ขบฟันแน่นก่อนจะกล่อมตัวเองไม่ให้คิดมากเรื่องนี้ ต้องเชื่อใจสามีถึงจะอยู่ด้วยกันยืด อย่าเอาเรื่องไม่เป็นเรื่องมาใส่ใจเลย
“แค่ยั่วโมโหไม่มีอะไรหรอก ยังไงพี่ปีก็ไม่กลับไปหาคนเก่าอยู่แล้ว อย่าไปเล่นตามเกมให้พี่ปีต้องโกรธสิ ทำขนมรอพี่ปีดีกว่า...ใจเย็นนะใจเย็น” บอกตัวเองอย่างนั้นแล้วลูบกลางอก ค่อยเดินกลับเข้าไปในบ้านเพื่อทำขนมไว้คอยต้อนรับชายหนุ่มเย็นนี้
เขาคงกลับไม่ดึกหรอก...
เธอคิดเช่นนั้นแม้จะกลัวว่าเขาอาจหลีกเลี่ยงพบหน้าด้วยการกลับบ้านดึกก็ตาม นั่งรออยู่ที่โซฟายาวตรงห้องรับแขก ซึ่งเป็นจุดที่เห็นเขาชัดเจนหากอีกฝ่ายเดินเข้ามาในบ้าน ตอนแรกคิดจะหิ้วท้องรอแต่พอมองนาฬิกาก็ต้องเปลี่ยนใจ
เหมือนว่าลูกของตนจะหิวแล้ว คนเป็นแม่เลยต้องกินไปด้วย นั่งรับประทานอาหารโดยเอาเค้กใส่ไว้ในตู้เย็น เมื่อกินอิ่มค่อยมานั่งคอยเขาเหมือนเดิม
“แค่สองทุ่ม ปกติ...สามทุ่มก็กลับ” ชะโงกหน้ามองทางประตู ผุดลุกนั่งหลายรอบจนเริ่มน้อยใจ อยากโทรหาเขาก็กลัวชายหนุ่มจะคิดว่าตนรบกวน ทว่าอีกใจก็กลัวปีแสงไปหาลันตาอย่างที่อีกฝ่ายโทรมาเยาะเย้ย
หรือจะเปิดแอพติดตาม...
ส่ายหน้าทันทีไม่อยากทำตัวเป็นภรรยาขี้หึงให้เขาโกรธ แค่ตอนนี้ยังง้อไม่สำเร็จ กลัวโดนคดีเพิ่มอีกกระทงให้ง้อลำบาก
“อาบน้ำรอดีกว่า พี่ปีกลับมาจะได้ดมแล้วหอม” ก้มมองตัวเองแล้วยังอยู่ในชุดเดิม จึงได้ขึ้นไปบนห้องเพื่ออาบน้ำชำระกาย เธอขัดสีฉวีวรรณจนหอมฟุ้ง ยืนอยู่ใต้ฝักบัวนานเกินไปจึงคิดจะเดินออกมาหยิบผ้าเช็ดตัวพันกายแล้วไปสวมเสื้อผ้า ทว่าแค่คว้าชุดคลุมมาสวมก็เริ่มหน้ามืด ไม่ทันมองว่าบนพื้นมีสบู่จนเผลอเหยียบแล้วทำให้ลื่นล้มลงบนพื้น
“โอ๊ย” บั้นท้ายกระแทกอย่างแรงจนลุกไม่ขึ้น น้ำตาเม็ดใหญ่ไหลออกมาด้วยความเจ็บปวด รีบกอดหน้าท้องตัวเองเอาไว้ เห็นเลือดไหลออกตามขาก็แทบกรีดร้อง พึมพำเรียกสามีตัวเองแล้วตะโกนร้องลั่นเพื่อขอความช่วยเหลือ
“พี่ พี่ปี...” แต่เขาไม่อยู่
