บท
ตั้งค่า

๑ แรกพบประสบพักตร์ (๑)

แรกพบประสบพักตร์

การจราจรที่ค่อนข้างติดขัดทำให้เธอเลือกเดินมายังโบสถ์เพื่อร่วมงานวิวาห์ของเพื่อนสนิท ร่างโปร่งบางอยู่ในชุดเดรสสีม่วงผ้าลื่นสายเดี่ยวยาวกรอมเท้า ผมถูกดัดลอนแล้วมัดเป็นมวย ประดับด้วยมุกเม็ดเล็กรอบศีรษะตามที่ตกลงกันไว้กับเจ้าสาว

มล.พลอยดาวเดินทางมาถึงอเมริกาหลายวันแล้ว แต่เธอเลือกจะไปไมอามีซึ่งอยู่ในรัฐฟลอริดา เพื่อพบกับคุณชายทวีกิติยากรหรือคุณอาทวีผู้เป็นที่รักยิ่งของหลานสาว เวลาหนึ่งเดือนคิดว่าจะอยู่ช่วยคุณอาทำงานที่ร้านอาหาร ค่อยกลับเมืองไทยหลังจากจิตใจสงบผ่อนคลาย สามารถมองพี่ชายและเพื่อนสนิทครองคู่กันได้อย่างเต็มตา ยินดีกับทั้งสองด้วยหัวใจที่บริสุทธิ์

การเดินทางครั้งนี้นอกจากมาพักผ่อนยังมีอีกเหตุผลสำคัญคือมางานแต่งของเพื่อนสนิทอีกคน เธอตีตั๋วเครื่องบินจากฟลอริดามายังมหานครนิวยอร์กเมื่อสามวันก่อนเพื่อร่วมงานสละโสด โดยคนที่มาร่วมงานมีแต่แขกผู้หญิง บรรยากาศเต็มไปด้วยความสนุกสนาน

ก่อนถึงวันงานจริงซึ่งคือวันนี้...

“ขอโทษที ฉันมาสาย” เข้าไปยังห้องรับรองด้านหลังโบสถ์แล้วบอกเจ้าสาวที่สวมชุดสีขาวนั่งอยู่บนโซฟาตัวยาวด้วยความตื่นเต้น

แม้จะเป็นการแต่งงานครั้งที่สอง แต่ค่อนข้างแตกต่างจากครั้งแรกเป็นอย่างมาก เพราะสามีคนเก่าเธอหลงรักเขาเพียงข้างเดียว สุดท้ายก็ไปไม่รอดจึงต้องยอมเซ็นใบหย่า พอดีกับได้ว่าที่เจ้าบ่าวมาดามใจ จึงตอบตกลงแต่งงานทั้งที่คบกันเพียงแค่ปีเดียว

ย้ายถิ่นฐานมาอยู่มหานครที่ไม่มีวันหลับใหล กลายเป็นเศรษฐีนีชั่วข้ามคืนเพราะเจ้าบ่าวของเธอครอบครองธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และยังเป็นเจ้าของผู้ผลิตรถยนต์อีกต่างหาก เป็นหนูตกถังข้าวสารอย่างแท้จริง

“ไม่สาย ๆ คนอื่นยังไม่มาเลย” มองรอบห้องเห็นว่าเพื่อนเจ้าสาวมีเพียงเธอกับผู้หญิงอีกคนเท่านั้น ค่อยพรูลมหายใจด้วยความโล่งอก เธอชอบการแต่งงานแบบอเมริกันอย่างหนึ่งคือไม่ต้องตื่นเช้ามาแต่งหน้าทำผม เพราะกว่างานจะเริ่มก็เป็นช่วงบ่าย ยาวไปถึงการฉลองวิวาห์ยามเย็น งานแล้วเสร็จเวลาประมาณสองหรือสามทุ่ม จึงแยกย้ายกันกลับ เรียบง่ายและเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความรัก

ไม่ต้องมีพิธีรีตองมากมาย...

“เตรียมของแล้วใช่ไหม พรุ่งนี้ต้องขึ้นเรือไปเกาะกับฉันนะ” ย้ำเตือนอีกครั้งจนหล่อนถึงกับพรูลมหายใจด้วยความเหนื่อยหน่าย

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เพื่อนสนิทอย่างเมนิษาย้ำ หล่อนพูดตั้งแต่เจอหน้าครั้งแรก หญิงสาวคิดจะไม่ไปเพราะไม่รู้จักใคร แต่ทนคำรบเร้าไม่ไหวจึงจำต้องตกปากรับคำอย่างเสียไม่ได้ นึกย้อนไปก็โมโหตัวเองเหลือเกิน

เธอไม่อยากไปเกาะสักนิด

เจ้าสาวคือเพื่อนสนิทของเธอที่รู้จักกันมานาน เมนิษา สุขสวัสดิ์ที่ตอนนี้จดทะเบียนสมรสกับสามีชาวต่างชาติและเปลี่ยนนามสกุลเป็นเมนิษา โดมินิกพร้อมถือกรีนการ์ด กลายเป็นพลเมืองของประเทศมหาอำนาจเรียบร้อย

“รู้แล้วน่า เธอย้ำหลายรอบจนจำได้ขึ้นใจ”

การไปเกาะครั้งนี้คือการสังสรรค์ในหมู่เพื่อนเจ้าบ่าวและเพื่อนเจ้าสาว เธอคือเพื่อนเจ้าสาวซึ่งเป็นเอเชียคนเดียวในกลุ่ม หญิงสาวรู้สึกว่าตัวเองแตกต่าง ราวกับว่าหล่อนเป็นเด็กในแก็งผู้ใหญ่อย่างไรอย่างนั้น แค่ส่วนสูงก็ต่างมากแล้ว

ยอมรับในความรวยของสามีเพื่อน มีเกาะเป็นของตัวเองทั้งยังสร้างพูลวิลล่าที่สามารถจุคนกว่าหนึ่งพันได้สบาย ทว่าเขากลับหวงห้ามและยอมให้เพียงเพื่อนสนิทไปเท่านั้น พรุ่งนี้เธอคงจะได้เห็นความยิ่งใหญ่ด้วยตา หลังจากมองภาพที่เมนิษาส่งให้ชมมานาน

“กลัวเธอไม่ไปนี่นา เผื่อเปลี่ยนใจฉันก็แย่สิ อุตส่าห์เตรียมสถานที่ไว้พักผ่อนหย่อนใจโดยเฉพาะ”

“เธอนี่นะ...ทำไมไม่ไปฮันนีมูนกับสามี มาอยู่กับเพื่อนทำไม” นึกสงสัยกับสามีภรรยาคู่นี้ แต่งงานเสร็จก็น่าจะไปสวีตกันสองคนไม่ใช่หรือ แต่กลับชวนเพื่อนไปติดเกาะซะอย่างนั้น

ถ้าสามีของอีกฝ่ายอย่างเจย์เดน โคลด์ โดมินิกไม่ติดเพื่อน ก็ขอคิดว่าอยากโชว์ความรวยแล้วกัน

ถึงครอบครัวของเธอจะมีกิจการมากมายในเมืองไทย แต่เทียบไม่ได้กับมหาเศรษฐีแห่งนครนิวยอร์ก เขาเหมือนมีราศีเปล่งประกายรอบตัวเสมอ เธอยินดีกับเพื่อนเป็นอย่างมากที่ได้คนดีไปครอง หลังจากเสียใจกับความรักมานาน

“ก็เพราะหลังออกจากเกาะพวกฉันจะไปฮันนีมูนหนึ่งเดือนเต็มไงจ๊ะ เลยอยากใช้เวลากับเพื่อนให้คุ้มค่า” ใบหน้าที่แต่งแต้มอย่างสวยงามยกยิ้มภาคภูมิใจ คิดทริปเอาไว้เรียบร้อยสำหรับการดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ครั้งนี้ เขาถึงขั้นวางมือจากงานใช้เวลาอยู่กับหล่อนโดยเฉพาะ

“บอกหรืออวด”

“อวด!” พวกเธอยิ้มขำแล้วรีบถ่ายรูปคู่กันก่อนงานจะเริ่ม

หม่อมหลวงพลอยดาวยินดีกับเพื่อนเป็นอย่างมากจนน้ำตาซึม เธอมองเมนิษาที่สวมชุดสีขาวบริสุทธิ์ เป็นเจ้าสาวแสนสวยที่แขกในงานต่างมองตาค้าง โดยเฉพาะเจ้าบ่าวที่เผยอปากกว้างด้วยความตกตะลึง

แค่เพื่อนมีความสุข...เธอก็สุขใจแล้ว

พิธีแต่งงานของศาสนาคริสต์ไม่ได้ยุ่งยาก แต่สิ่งที่เป็นจุดเรียกความสนใจของงานดูเหมือนจะเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวสุดหล่อที่เป็นถึงดาราฮอลลีวูดคนดัง ภาพยนตร์ของเขาเพิ่งออกโรงเมื่อสามเดือนก่อน แต่กลับตราตรึงในความทรงจำ คาดว่าปีนี้คงกวาดรางวัลนักแสดงนำฝ่ายชายมาครองหลายเวที

ไบรซ์ อาเชอร์ นั่นคือชื่อของเขาผู้มีใบหน้าหล่อเหลาราวเทพปั้น ส่วนสูงกว่าหนึ่งร้อยแปดสิบห้าเซนติเมตรกับรูปร่างสมส่วนที่ชวนหลงใหล ยิ่งดวงตาเรียวยาวราวเหยี่ยวทะเลทรายดึงดูดให้จ้องมองไม่อยากละไปทางอื่น

งานนี้บ่าวสาวจึงถูกกลืนไปกับฉากหลัง เสียงจอแจเต็มไปด้วยชื่อของดาราดัง ทั้งยังมองร่างสูงที่อยู่ในสูทสีเข้มเป็นตาเดียว เพื่อนเจ้าบ่าวคนอื่นถึงกับหมองแล้วพากันส่ายหน้า อุตส่าห์จะมาหาสาวแต่กลับโดนแย่งซีนเด่น

“นั่นไบรซ์หรือเปล่า”

“เพื่อนเจ้าบ่าว...ไบรซ์จริงด้วย! โอ้มายก็อด ฉันได้เจอเทพบุตรตัวเป็น ๆ” เพื่อนเจ้าสาวที่ยืนเรียงหน้ากระดานพากันกระซิบกระซาบเสียงเบา แต่พลอยดาวที่ยืนข้างกันได้ยินชัดเจน จึงเหลือบมองร่างสูงแต่กลับเห็นเพียงหัวไหล่เท่านั้น

ตอนเดินเข้าโบสถ์ก็เห็นแค่แผ่นหลัง แต่ก็รับรู้ว่าชายหนุ่มหล่อเหลาทั้งยังมีออร่าแผ่รอบกายอย่างน่าประหลาด คนเป็นดาราเขามักจะเปล่งประกายเสมอหรือเปล่า น้องสาวของเธออย่างพราวรุ้งก็ชอบเรียกสายตาหลายคู่ให้เหลียวมองเช่นเดียวกัน

แต่ที่เธอไม่ชอบคือการถูกทักผิด ตนไม่ใช่นักร้องแต่กลับโดนแอบถ่ายประจำเพราะคิดว่าเป็นพราวรุ้ง หรือบางคนรู้อยู่แล้วก็ขอถ่ายรูปด้วยเนื่องจากเป็นแฟนคลับพราวรุ้ง ถ่ายรูปกับเธอก็เหมือนถ่ายกับนักร้องตัวจริง

ตอนแรกหล่อนก็ไม่ปฏิเสธ แต่ช่วงหลังมีเยอะขึ้นจึงต้องบอกปัดแล้วรีบเดินหนีโดยเร็ว

“เขาหล่อมากเลย” งานพิธีการไม่มีใครสนใจ เอาแต่จดจ้องเพื่อนเจ้าบ่าวตาไม่กะพริบ กลายเป็นความเหนื่อยหน่ายของพลอยดาวที่อยากซึมซับความหวานของคู่บ่าวสาว

งานพิธีการเสร็จสิ้นแต่งานฉลองเพิ่งเริ่มต้นขึ้น พวกเขาย้ายสถานที่จากโบสถ์ไปยังโรงแรมหรูที่อยู่ใกล้กันห่างเพียงไม่กี่ซอย เปลี่ยนจากชุดเพื่อนเจ้าสาวเป็นเดรสสีหวาน ส่วนหน้าผมไม่ต้องเปลี่ยนเพราะเข้าคู่กับชุดราตรีที่เธอเตรียมมาอย่างดี

ปาร์ตี้แสนอบอุ่นมีญาติของบ่าวสาวและเพื่อนสนิทมิตรสหาย พวกเธอได้กล่าวความรู้สึกแก่คนทั้งสอง พลอยดาวพูดไปก็เกือบร้องไห้เพราะรักเมนิษาเป็นอย่างมาก ส่วนเจ้าสาวเขื่อนแตกเป็นที่เรียบร้อย ร้องไห้จนสามีต้องกอดปลอบ

ความซึ้งผ่านไปก็เข้าสู่โหมดสนุกสนาน หลายคนต่างออกไปวาดลวดลายยังพื้นที่กว้าง ทว่าร่างแบบบางต้องแอบเดินออกมาข้างนอกเพราะปวดหนัก กลัวจะถูกรั้งตัวเอาไว้แล้วไม่ได้เข้าห้องน้ำ

“คุณคือพราวหรือเปล่าครับ” ชายหนุ่มผู้หนึ่งเหมือนรอจังหวะ เขาเดินเคียงหล่อนแล้วกล่าวทักทายด้วยการถามชื่อน้องสาวฝาแฝด ซึ่งเธอไม่ได้หงุดหงิดกับคำถาม เพียงแค่นึกอึดอัดใจจะคุยกับเขาเพราะต้องการไปเข้าห้องน้ำ

“ไม่ค่ะ เราแค่หน้าคล้ายกัน” เลี่ยงจะบอกความจริง อย่างไรก็คงไม่ได้เจอเขาอีก

ชายหนุ่มทำหน้าเสียดาย แล้วรีบเดินมาดักหน้าหล่อนเพื่อให้หยุดคุยกับเขา ดวงหน้าหวานเรียบตึงไม่ชอบใจกับวิธีการรุกของอีกฝ่าย ไม่รู้ใบหน้าของตนไปเตะตาเขาหรือเปล่าถึงตามเป็นเงา ทั้งที่เธอแสดงออกค่อนข้างชัดเจนว่าไม่อยากสนทนา

หรือจะแสดงออกไม่พอเขาจึงไม่เข้าใจ...

เพื่อนหลายคนบอกว่าเธอเป็นสาวประนีประนอม ไม่ค่อยปฏิเสธใครทั้งยังขี้เกรงใจ ชายหลายคนที่เข้ามาจีบมักจะเกาะติดถึงตนจะบอกปัดอย่างชัดเจน อาจเพราะเธอค่อนข้างเกรงใจกลัวอีกฝ่ายจะเสียใจจึงหยิบยื่นความเป็นเพื่อนหรือพี่น้องแทนการเป็นแฟน

หลายคนจึงถือว่าตนยังพอมีหวัง เข้าหาและจีบหล่อนต่อไป...แต่สุดท้ายก็ยังคงสถานะเพื่อนเอาไว้เช่นเดิม

หม่อมหลวงพลอยดาวใจแข็งดั่งเพชร

“ผมอเล็กซ์” แนะนำตัวพร้อมยื่นมือไปตรงหน้าเธอ หญิงสาวจำต้องเชกแฮนด์อย่างเสียไม่ได้แล้วยิ้มเพียงเล็กน้อยเมื่อแนะนำชื่อของตนจบ

“ฉันพลอยค่ะ”

“ยินดีที่ได้รู้จักนะครับคุณพลอย”

“เช่นกันค่ะ” เธอพูดจบก็คิดจะเดินเลี่ยง แต่ชายหนุ่มยังก้าวตามไม่ห่างจนเธอหงุดหงิด ไม่รู้ว่าควรสลัดเขาอย่างไรจึงจะหลุด

หรือต้องพูดให้ชัดเจน อย่างไรคนตรงหน้าก็คงล่าถอยบ้างแหละ เขาไม่ใช่หนุ่มไทยที่ชอบถือคติตื้อเท่านั้นที่ครองโลกสักหน่อย

น่าจะพอเข้าใจถ้าเธอจะบอกตามตรงว่าไม่ต้องการสนทนาด้วย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel