บทที่ 1 ข้ามน้ำข้ามทะเล 2
“หนูพิ้งค์คิดถึงป่ะป๊าจังเลยค่ะ” พริมาหยอดยาหอมบิดาผู้ให้กำเนิด
“เจอหน้ากันทีไร เป็นต้องอ้อนทุกทีสินะเรา”
ครูซพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนกว่าปกติ ใครจะคิดว่ามาเฟียหน้าโหดอย่างเขาจะพูดจาอ่อนหวานกับใครได้ โดยเฉพาะกับเด็กหกขวบ
“หนีมาเที่ยวนานขนาดนี้ นึกว่าจะลืมป่ะป๊าไปซะแล้ว” ครูซเอ่ยเสียงเล็กเสียงน้อยกับคนในอ้อมกอด
“หนูพิ้งค์ไม่ลืมป่ะป๊า หนูพิ้งค์รักป่ะป๊าครูซ” พริมาเอ่ยตอบอย่างรู้งาน ทั้งยังซุกหัวซบไหล่หนาของบิดาผู้ให้กำเนิดราวกับลูกแมวน้อยออดอ้อนขอความรัก
“โอ๊ย! ตกกระป๋องแล้วสิเรางานนี้” คนที่ยืนดูสองพ่อลูกแสดงความรักต่อกันอยู่ไม่ไกลเอ่ยขึ้น
“เจ็บไหม?”
ครูซแกล้งถาม ทั้งยังแสดงสีหน้าเอือมๆ ใส่คนมีศักดิ์เป็นน้องชาย แต่มีศักดิ์เป็นพ่อของลูกสาวเขาทั้งทางนิตินัยและพฤตินัย
เพราะเรื่องในอดีตที่แสนซับซ้อน พรพระพายจึงรับหนูพิ้งค์เป็นบุตรบุญธรรมตั้งแต่หนูน้อยลืมตาดูโลก ทำให้สิทธิ์ขาดในตัวหนูพิ้งค์ทั้งหมดตกเป็นของเธอ
แม้ว่าตอนนี้เธอจะแต่งงานจดทะเบียนกับพอลแล้ว อีกทั้งพอลก็รับหลานสาวสายเลือดเดียวกันเป็นบุตรบุญธรรมเรียบร้อย ทว่าสิทธิ์ในตัวหนูพิ้งค์ทั้งหมด ก็ยังคงเป็นของม่ามี้ของแกอยู่ดี ซึ่งเขาก็หวังให้เป็นเช่นนั้น
เพราะมันคือความโชคดีที่สุดแล้ว ที่ลูกสาวที่เขาไม่เคยรู้ว่ามีตัวตนอยู่บนโลกนี้ ได้มีผู้หญิงอย่างพรพระพายเป็นแม่ของแก
“หนูพิ้งค์ก็รักแด๊ดดี้ค่ะ”
ว่าแล้วเด็กหญิงพริมาก็เรียกร้องจะลงจากอ้อมกอดของชายหนุ่ม แกวิ่งไปหาชายหนุ่มอีกคนผู้เป็นพ่อพร้อมกับหอมแก้มซ้ายขวาอย่างเอาใจ จนคนเป็นพ่อแท้ๆ อย่างครูซอดที่จะหมั่นไส้น้องชายตัวดีไม่ได้ แต่ก็นั่นแหละ แม้ลึกๆ จะรู้สึกอิจฉา แต่หากไม่มีพอล เขาก็คงจะไม่รู้ว่าตัวเองมีลูกสาวอยู่บนโลกนี้ไปตลอดชีวิต
“พอได้แล้วค่ะ พาป่ะป๊าไปทานข้าวดีกว่าเนอะ”
พรพระพายเอ่ยขัดจังหวะแสดงความรักของสองพ่อลูก หญิงสาวส่ายหน้าเอือมระอาให้สามีเล็กน้อย ก่อนจะหันหน้าไปทางพี่ชายสามี
“คุณครูซทานอาหารไทยได้ไหมคะ? ถ้าไม่ได้พายจะสั่งอาหารอย่างอื่นมาเพิ่ม”
“อย่าลำบากเลย ผมกินอะไรก็ได้” ครูซตอบกลับ ใบหน้าดุดันของเขายกยิ้มมุมปากขึ้นเล็กน้อย เพื่อไม่ให้ดูน่ากลัวเกินในสายตาของน้องสะใภ้
“ต้มยำกุ้งที่นี่อร่อยมากเลยนะคะ คุณลองชิมดูสิ”
พรพระพายเอ่ยขึ้น ในขณะที่ครูซกำลังมองดูพอลและลูกสาวอ้อนกันในระหว่างมื้ออาหาร ตอนแรกคนเป็นพ่อแกะกุ้งป้อน ตอนนี้ลูกสาวก็ไปอ้อนถึงตัก ดูมีความสุขในการกินมากทั้งคู่
“แบบที่เขาแกะให้เสร็จสรรพพร้อมทานก็มีนะคะ แต่พายไม่ได้สั่ง เพราะวันก่อนสั่งมาทานแล้วหนูพิ้งค์ถามไม่หยุดว่ามันคือตัวอะไร รอบนี้พายเลยสั่งกุ้งเป็นตัวๆ มาให้แกดู พอลเขาก็เลยอาสาแกะกุ้งให้ลูก ทั้งที่ดูก็รู้ว่าแกะไม่ค่อยจะเป็น แต่ก็อยากโชว์เพาเวอร์”
“ก็ผมอยากจะเป็นพ่อที่ครบสูตรสำหรับลูก แกจะได้ซึมซับว่าพ่อของแกเก่งมากแค่ไหน โตไปจะได้รู้ว่าควรเลือกผู้ชายแบบไหนมาเป็นคู่ชีวิต” พอลอธิบายอย่างใจเย็นในความตั้งใจของเขา
“ถ้าคนที่จะมารักมาชอบหนูพิ้งค์เป็นเลว ไม่ดี หรือไม่คู่ควรกับลูกสาวฉัน ฉันก็จะกำจัดมันออกไปเอง ด้วยวิธีของฉัน”
ชายหนุ่มพูดจบแล้วก็โดนน้องสะใภ้ตีเปรี๊ยะหนึ่งครั้งที่แขน ก่อนจะหันไปตีสามีของเธอหนึ่งที่เช่นเดียวกัน
“หยุดความคิดของทั้งคู่ไว้ที่จุดเริ่มต้นเลยค่ะ พายไม่ให้ผ่าน”
“What! / Why?”
“เพราะว่ามันเห็นแก่ตัวเกินไปค่ะ” พรพระพายเอ่ยขึ้นด้วยท่าทางจริงจัง ราวกับคุณครูกำลังอบรมเด็ก (แสบ) ประจำห้องเรียน
“ความตั้งใจของคุณทั้งสองคนเป็นสิ่งที่ดี แต่คุณต้องคำนึงด้วยนะคะว่าคนเราไม่มีใครดีได้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์” พระพายหันหน้าไปทางพี่ชายสามี จากนั้นก็หันไปทางพี่ชายสามี
“คุณครูซ ฉันรู้ว่าคุณรักและหวังดีกับหนูพิ้งค์ แต่เราก็ต้องเคารพการตัดสินใจของแกด้วยนะคะ หากในอนาคตข้างหน้าหนูพิ้งค์เกิดรักใครสักคน แกจะต้องเป็นคนตัดสินใจในอนาคตและทางเดินข้างหน้าของแกเอง พวกเราที่เป็นพ่อแม่ทำได้แค่ยืนอยู่ข้างๆ ไม่ให้เขารู้สึกว่าโดดเดี่ยวตัวคนเดียวเท่านั้น พวกเราตัดสินเรื่องราวชีวิตทุกอย่างแทนแกไม่ได้นะคะ”
แล้วบทสนทนาในหัวข้อดังกล่าวก็จบลง หลังจากที่ผู้เป็นมารดาของหนูน้อยอธิบายยาวเหยียด ในเรื่องของการยกการตัดสินใจต่างๆ ในอนาคตให้ลูกสาว
“เย้! ม่ามี้ชนะ!”
แม่หนูน้อยร้องออกมาด้วยความดีใจ แม้จะออดอ้อนแด๊ดดี้และป่ะป๊าอยู่แทบทุกครั้งที่เห็นหน้า แต่อย่างไรเสีย ม่ามี้อย่างพรพระพายก็คือที่สุดในชีวิตของแก
ครูซมองน้องสะใภ้ด้วยสายตาของความชื่นชม ผู้หญิงคนนี้ผ่านอะไรมาไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องครอบครัวหรือสังคม จนบางครั้งชายหนุ่มก็แอบมีความคิดที่ว่าจะหาผู้หญิงที่ใจกว้าง ยืดหยุ่น รอบคอบและมองการณ์ไกลอย่างน้องสะใภ้คนนี้ได้จากที่ไหน
ภายนอกของเธอดูเรียบง่ายมาก แต่แท้จริงแล้วกลับเข้มแข็งมากกว่าผู้ชายหลายๆ ซะอีก หนึ่งในนั้นอาจจะมีเขารวมอยู่ด้วย
ตลอดชีวิตที่ผ่านมา ครูซไม่เคยมีผู้หญิงในอุดมคติ ไม่เคยคิดว่าผู้หญิงในฝันของตัวเองจะต้องเป็นแบบไหน เพราะผู้หญิงส่วนใหญ่ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของเขา มักมีแต่ประเภทรถด่วน รีบมารีบไป ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นตัวเขาเองที่เป็นฝ่ายหาทางไปก่อน ด้วยเหตุผลที่ว่าเธอคนนั้นไม่ใช่และตีตัวออกหากในที่สุด
แต่ไม่แน่ว่าหลังจากนี้ต่อไป เขาอาจจะต้องตั้งคุณสมบัติของผู้หญิงที่อยากได้มาเป็นภรรยาในอนาคตลงไปบ้างสักข้อสองข้อ อย่างน้อยๆ ถ้าจะมีใครสักคนเข้ามาในชีวิตของเขา เธอคนนั้นต้องรักเด็กและเข้ากับลูกสาวของเขาได้ แม้ว่าใครหลายๆ คนจะคิดว่าผมเป็นแค่ลุงก็ตาม
“แล้วหนูพิ้งค์รู้แล้วเหรอครับ ว่าความรักคืออะไร?” พอลเอ่ยถามลูกสาวตัวน้อย ที่ยามนี้ย้ายไปนั่งข้างๆ ม่ามี้ของตน
“รู้ค่ะ” พริมาเอ่ยตอบเสียงฉะฉาน
“หืม?” ครูซหันหน้าไปมองเด็กหญิงตัวน้อย ที่ตอบคำถามของพอลในทันทีที่พูดจบ
“เรื่องจริงรึเปล่า? ลูกรู้จักความรักด้วยเหรอ อายุเท่าไหร่เองเนี่ยเรา”
ชายหนุ่มเห็นหนูพิ้งค์อมยิ้ม ก่อนจะหันไปมองหน้าคุณแม่คนสวยของแก แล้วหันหน้ากลับมามองที่ชายหนุ่มทั้งสองผู้มีศักดิ์เป็นพ่อทั้งคู่