ซ่านชู้

63.0K · จบแล้ว
โยธกา ดรินทร์ น้ำอ้อม
36
บท
2.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เธอรักเขาเกินกว่าจะยอม... เธอมั่นในรักเกินกว่าจะถอย แม้ว่าจะต้องเป็นชู้เธอก็ยอม และแม้ว่ารักของเธอจะทำลายใคร...วรินดาก็หมายมั่นอยากได้ชัยชนะนี้ เธอรักเขา...เหลือเกิน “เชียร์ นี่มันบ้าอะไรกัน เชียร์บอกพี่ นี่มัน...มันเกิดอะไรขึ้น หะ!” “ก็อย่างที่บอกนั่นแหละค่ะ” วรินดาตอบเขาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “เราเป็นของกันและกันแล้ว” นัยน์ตาของเธอลุกไปด้วยประกายเริงโรจน์ประกาศชัยชนะ “และพี่ภพก็ไม่ต้องกลัวว่าเชียร์จะถามหาความรับผิดชอบใดๆ สิ่งเดียวที่เชียร์ต้องการจากพี่ภพ นั่นก็คือ...เชียร์ขอเวลาแบบนี้จากพี่ภพบ้าง...จะได้ไหมคะ” “ไม่ได้เชียร์ ไม่ได้ เราจะทำอย่างนี้ไม่ได้ ปัดโธ่โว้ย! นี่มันบ้าอะไรกัน เชียร์ เธอทำอะไรกับพี่ หะ! เธอทำบ้าอะไรกับพี่กับตัวเอง” เขาจับแขนของเธอแล้วเขย่า วรินดากลับหัวเราะร่วนราวกับคนเสียสติ เธอยังคงตอบด้วยประโยคเดิมๆ “เรา...จะต้องมีเวลาแบบนี้ด้วยกันอีก เชียร์ขอแค่นี้ เชียร์รักพี่ภพ เชียร์รักพี่!” “เธอมันบ้า...เชียร์” เขาลุกขึ้นจากเตียง เมื่อผลักเธอจนหงายหลังลงไป ชายหนุ่มเดินเซน้อยๆ เขามองหาเสื้อผ้าของตนเอง มันกองเกลื่อนอยู่กับพื้น วรินดายังคงนอนอยู่อย่างนั้น เสียงหัวเราะรื่นของเธอ กรีดใจเขาเหลือเกิน “พี่ภพหนีเชียร์ไม่พ้นหรอกค่ะ ถ้าไม่อยากให้ชีวิตรักของพี่ภพกับนังนั่นพัง พี่ภพก็ต้องให้เวลาเชียร์ เวลาแบบนี้ เวลาที่พี่ภพมาเป็นผัวเชียร์” “เชียร์! เธอเป็นบ้า เธอเป็นบ้าไปแล้วใช่ไหม” วรินดาหลับตา ยังคงหัวเราะ ตามภพเร่งรีบสวมเสื้อผ้า และมองหาข้าวของส่วนตัวของตนเอง เขาเดินเหมือนจะวิ่งออกไปให้เร็วที่สุดเมื่อแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว วรินดายังคงหัวเราะ... และน้ำตาของเธอก็ไหลอาบ...ออกมาทั้งที่เธอยังหัวเราะ สุขที่สุด และทุกข์ที่สุด มันเป็นแบบนี้นี่เอง ป่านนี้เขาคงจะรีบขับรถออกไปจากบ้านเธอแล้วสินะ แต่อย่าหวังว่าจะออกไปจากชีวิตเธอได้ง่ายๆ ถ้าเธอไม่ยอม!

นิยายรักโรแมนติกประธานนอกใจโตมาด้วยเศรษฐี25+

บทที่ 1

บทนำ...

"มาด้วยนะ พี่อยากให้น้องเชียร์มา"

มือของเขายื่นซองสีฟ้าพิมพ์ลายกลีบกุหลาบสีแดง ส่งกลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ ยื่นให้หล่อน คนรับฝืนเป็นอย่างยิ่งที่จะยิ้มให้เขา

"งานของพี่ภพหรือคะ? เอ...แต่งกับใคร อะไร ยังไง เชียร์ไม่เห็นรู้เลยว่าพี่ภพมีแฟน"

ตามภพหัวเราะ ใบหน้าคมสันนั้นดูสว่างไสวราวกับมีพระอาทิตย์สาดส่องมา คนมองยิ่งแปลบใจเมื่อมองหน้าเขา

ใบหน้าของคนที่เธอรัก

รักจนหมดใจ

กลับมาหนนี้เธอตั้งใจเหลือเกินที่จะพิชิตใจเขา

ทว่า...

"ไว้พี่จะแนะนำให้รู้จักนะ น้องสาว"

มือของเขาเอื้อมลูบผมเธอตามความเคยชิน ความชิดเชื้อแต่เยาว์วัยทำให้คนทำไม่ได้คิดอะไร เขาโอบไหล่พาเธอเดินเข้าไปในบ้าน เพื่อไปหามารดาของเขา วรินดาตั้งใจจะมาเยี่ยมเขาหลังจากที่เธอกลับมาที่เมืองไทยหลังเรียนจบแล้ว ตั้งใจจะมาหาเพราะความคิดถึง ไม่ได้คิดว่าจะเจอะเจอกับสิ่งที่ทำให้เธอแทบจะใจสลาย

ใช่เขาไม่เคยคิดอะไร

แต่เธอคิดรักเขามาตลอด

และไม่อาจจะหยุดรักได้!

..........

"พอเถอะยัยเชียร์ แกดื่มมากไปแล้วนะ" มือของเพื่อนสาว เอื้อมยึดมือของวรินดาไว้ จากการป้อนแอลกอฮอล์เข้าปาก วรินดาปัดมือนั้นออก พร้อมกับทำเสียงเขียว

"ไม่...ฉันจะกิน กินให้ตายไปเลย"

"โอ๊ย...มันจะไม่ตายน่ะสิแก ถ้าอยากตายนะ โน่น...แกจะต้องไปกระโดดน้ำ หรือไปกระโดดให้รถชน แกกินเหล้ามากๆ มันไม่ตาย แต่มันจะอ้วก คนเก็บอ้วกแกก็ฉันไง ตอนเช้ามาแกก็จะไม่สบายตัว นอนซม เกรี้ยวกราดเพราะเมาค้าง ใคร...ใครต้องรองรับอารมณ์อีก ก็ฉันไง" ฟังเพื่อนบ่นแล้ว วรินดาก็อดยิ้มไม่ได้ จริงสิ...คนที่คอยห่วงใย ดูแลเธอ เหมือนพี่สาวแท้ๆ รักเธอ...ไม่เคยทิ้งเธอในทุกๆ ปัญหา ก็คงจะเห็นมีแต่เพื่อนคนนี้ของเธอเท่านั้น

ใช่คงมีแต่มลุลีที่รักเธอ

ส่วนคนที่เธอรัก ตั้งใจจะมาหาเขา มาเปิดใจ และมาใช้ทั้งชีวิตกับเขา...กลับ...

เธอรักเขาเหลือเกิน

หัวใจมันเหมือนถูกฉีก...

"พอเถอะ ยัยเชียร์ พอ!"

มลุลีแย่งแก้วจากเพื่อนรักได้จนสำเร็จ เธอถอนหายใจเฮือกใหญ่ เธอรู้ว่า วรินดารักตามภพ รักมาตั้งแต่เป็นเด็ก ฝังใจมากกับผู้ชายคนนี้

ทำยังกับว่ามีผู้ชายคนเดียวบนโลกอย่างนั้น แต่วรินดาไม่เคยพบกับคำว่าผิดหวัง เธอเป็นควีนประจำมหาวิทยาลัย สาวสวย รวย เก่ง มีแต่คนรุมล้อม แต่ความที่รักปักใจ มันทำให้วรินดาคบใครได้ไม่นาน จะเรียกว่าคบแก้เบื่อ ให้ผู้ชายเหล่านั้นเอาใจ และเธอก็จะทิ้งเขา เมื่อปั่นหัวเขาพอ สนุกกับเขาพอแล้ว

คันปากอยากจะพูด ว่ากงกรรมกงเกวียนรึเปล่า ไปหลอกคนให้ผิดหวังไว้มาก แต่วรินดาสภาพนี้ พูดไปก็คงไม่ดีแน่

"ฉันจะทำยังไงดี ยัยลี ฉัน...ฉันใจจะขาด"

"ถ้ามันขาดเขาไม่ได้ขนาดนั้น หล่อนก็ไปขอเป็นชู้เขาสิ ยัยเชียร์ หรือไม่ก็วางแผนแย่งพี่ภพของหล่อนมาจากแฟนเขาเสียเลย ผู้ชายไม่ได้มีคนเดียวในโลกนะยัยเชียร์ แกจะเป็นจะตายขนาดนั้นเลยหรือไง"

พูดไปเพราะแค่อยากประชด

แต่มลุลีไม่รู้ว่า คำพูดของตน กำลังจุดประกายบางอย่างให้แก่วรินดา

นั่นสินะ...

เธอคิด ก่อนจะยิ้มร้ายกาจ พลางซบหน้าลงกับโต๊ะ...แล้วหลับตาพริ้ม

ของรักของเธอ

เธอมาก่อนรักเขาก่อน

จะอย่างไร

ทำแบบไหน

เธอก็ต้อง...ได้

...............................................................................................................................................

ทำลายงานแต่ง แล้วก็แย่งเค้ามาเสีย...

สิ่งนี้ผุดขึ้นมาในหัวของวรินดา แถมเธอยังไม่อาจจะลบมันออกได้เสียด้วย สิ่งแรกที่เธอจะทำ! สิ่งเดียวที่เธอมุ่งมั่น! หญิงสาวท่องมันไปมาในหัว

ยามรักนั้น อะไรก็รั้งไม่อยู่ ยิ่งถ้าจะเสียของรัก คนบางคนก็ยอมทำแม้แต่สิ่งที่ดูสิ้นศักดิ์ศรีที่สุดของความเป็นคน ถ้ารักนั้นเต็มไปด้วยความเห็นแก่ตัว

วรินดาอาบน้ำ ทำตัวให้สดชื่นหอมกรุ่นด้วยน้ำหอมกลิ่นโปรด ปรุงแต่งความงามของตนเองด้วยชุดเดรสชุดสวย สีเขียวปีกแมลงทับ สีเข้มของมันขับผิวของเธอให้ขาวผ่อง แบบเสื้อเน้นสรีระบางส่วนอย่างจงใจแต่ไม่โป๊เพราะปักริมคอเสื้อที่คว้านกว้างไว้ด้วยลูกไม้สีดำ กระโปรงบานพลิ้วเหนือเข่า เธอรวบผมขึ้นแล้วติดกิ๊บรูปดาวฝังเพชรเทียม แต่งหน้าโทนสีหวาน เน้นเป็นพิเศษที่นัยน์ตาเธอใช้อายไลเนอร์สีเข้มเขียนเส้นหนานิดหน่อยเพื่อทำให้นัยน์ตาดูกลมโต คม และมีเสน่ห์

ลิปสติกของ mac สีนู้ดน้ำตาล ทำให้ริมฝีปากของเธอดูอิ่ม เป็นธรรมชาติ และเย้ายวน เธอรู้รสนิยมของตามภพเป็นอย่างดี เขาชอบผู้หญิงสวยเก๋ สวยแบบธรรมชาติ ไม่ได้ชอบสาวเปรี้ยวฉูดฉาด และเธอก็จะเป็นผู้หญิงในแบบนั้น

วรินดาเลือกรองเท้าส้นสูงสองนิ้วสีขาวมาสวม หมุนตัวดูความเรียบร้อยหน้ากระจก เงาสะท้อนที่เธอได้เห็น มันทำให้เธอมั่นใจว่า เขาจะต้องชอบเธอ

เธอแค่ปล่อยเขาให้ห่างเพราะย่ามใจ และความที่มักจะตามข่าวเขาเสมอ จึงทำให้ค่อนข้างแน่ใจว่าผู้ชายที่เธอรัก ไม่ได้คบหาใครจริงจัง เขาขลุกอยู่กับการตั้งใจบริหารกิจการ มีข่าวน้อยครั้งว่าเขาจะคบหาใคร แม้กระทั่ง...ว่าที่เจ้าสาวเธอก็ยังไม่เคยได้ข่าว หรือได้ยินแม้ชื่อ

มุกดาว...

เธอจำชื่อนี้ได้แม่น เพราะมันอยู่บนการ์ดเคียงคู่กับผู้ชายที่เธอรัก

มือเรียวกำเข้าหากันแน่น ก่อนที่จะยิ้มให้กับตนเองในกระจก เธอคือวรินดา จงสิทธา ผู้หญิงที่เป็นทายาทของตระกูลจงสิทธา ที่มีอิทธิพลระดับต้นๆ ของประเทศ เธอสวย เพียบพร้อม ทำไมเธอจะสู้ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้

ครอบครัวเธอกับเขาสนิทสนมกัน เธอรู้ว่าเขาชอบอะไรเกลียดอะไร เธอมาก่อนนังนั่น...เธอแค่ห่างจากเขาไปแค่ช่วงที่เธอไปเรียนต่อเมืองนอกก็เท่านั้น

วรินดาย้ำบอกกับตัวเองอย่างมุ่งมั่น