๓ โรงเก็บหญ้ากับคนเมา (๒)
บุลลาแทบเต้นเมื่อได้ฟังการปฏิเสธตาใส หล่อนกระทืบเท้าลงพื้นแล้วชี้หน้าเขาด้วยความโกรธที่บอกไม่เคยล่วงเกิน
“นายกัดปากฉัน แถมยังแอบกอดฉันด้วย” ไม่เกินจริงจากที่เข้าใจ
ทว่าสำหรับชายหนุ่มผู้ช่ำชองและมีชั่วโมงบินสูงถือว่าการกระทำนั่นไม่ใช่การล่วงเกินเพราะไม่เห็นว่าร่างบางจะขัดขืนตรงไหน มีเพียงแค่นิ่งเป็นหินแถมยังแก้มแดงราวมะเขือเทศ
“สกปรกสิ้นดี แหวะ ผู้ชายแบบนายฉันไม่อยากจะชายตาแลด้วยซ้ำ” แค่คิดก็ขนลุกชัน ทว่าไม่ใช่เพราะรังเกียจดังปากว่าหากแต่หัวใจกลับเต้นไม่เป็นจังหวะ ร่างกายร้อนราวอยู่บนกองเพลิง มันร้อนราวจะเผาให้ร่างแหลกเป็นจุณ
“ใช่สิ ผู้ชายอย่างฉันมันคงจนเกินไป ไม่เหมือนไอ้ธีที่รวยจนมีเงินเหลือใช้” ย่างสุขุมเข้าไปหาด้วยใบหน้าถมึงทึงอย่างน่ากลัว
บุลลาสัมผัสได้ถึงบรรยากาศอันน่าอึดอัดจึงก้าวถอยหลัง แต่ก็โดนลำแขนแกร่งโอบเอวไว้เพื่อไม่ให้เดินหนี
“ที่นัดมันมาก็เพราะอยากได้เจ้าของไร่เป็นผัว อยากเป็นคุณนายจนตัวสั่น หึ ผู้หญิงอย่างเธอมันน่าสมเพชสิ้นดี”
ใบหน้าคมหันตามแรงตบโดยไม่ทันตั้งตัว หล่อนเม้มปากแน่นทั้งที่ดวงตากลมโตวาวโรจน์มีแต่ความโกรธอยู่ในแววตาคู่นั้นพร้อมทั้งพยายามดิ้นเพื่อให้ตนออกจากอ้อมแขนแกร่ง แต่ดูเหมือนว่าจะไม่สามารถหลุดพ้น
ร่างหนาหันมาทันทีพลางใช้ลิ้นดุนกระพุ้งแก้ม ยกยิ้มมุมปากพยายามระงับอารมณ์โมโหที่โดนตบอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ครั้งล่าสุดที่โดนผู้หญิงตบหน้าคือสมัยเรียนมหาวิทยาลัยเมื่อรถไฟชนกันและคนที่คุยด้วยก็ผนึกกำลังกันทำร้ายผู้ชายแทนการทะเลาะกันเอง จำได้ว่าหน้าระบมจนแทบดูไม่ได้
“เมื่อกี้เธอตบหน้าฉันเหรอ”
“ให้ฉันย้ำอีกไหม ไอ้หมอปากสกปรก ผู้ชายอย่างนายดีแต่รังแกผู้หญิง ไอ้หน้าตัวเมีย”
สาบานได้เลยว่าหากไม่ได้สั่งสอนให้ผู้หญิงคนนี้รู้สำนึกอย่ามาเรียกเขาว่าพณณกร ใบหน้าคมก้มลงไปปิดริมฝีปากบางที่พ่นคำด่าได้อย่างเจ็บแสบด้วยความรวดเร็วและรุนแรงราวงูเห่าพุ่งฉกเหยื่อที่น่าสงสาร
..ทำตัวเองโดยแท้
หล่อนไม่ทันได้ตั้งตัวจึงไม่อาจช่วยเหลือตนเองได้นอกจากทุบหน้าอกหนาทั้งดันให้ห่างจากกายทว่าไม่เป็นผลสักนิด
เขาดึงร่างบางแนบชิดมากยิ่งขึ้น เลื่อนมือขึ้นไปบังคับใบหน้าหวานให้ได้องศาเหมาะการกับลงโทษก่อนจะขบริมฝีปากล่างจนได้กลิ่นคาวเลือด ไร้ซึ่งความอ่อนหวานที่เคยพานพบ มีเพียงบทลงโทษแสนโหดที่มอบให้
“อื้อ” เจ็บริมฝีปากจนต้องร้องประท้วงอีกทั้งเริ่มขาดอากาศหายใจ
และร่างสูงก็รู้ดีจึงผละจากริมฝีปากเลื่อนลงมาตามลำคอระหงแสยะยิ้มเจ้าเล่ห์
“โอ้ยไอ้บ้า! กัดทำไม” ขืนตัวออกสุดพลังเมื่อรับรู้ได้ถึงความเจ็บที่คอของตนเองคาดว่าเขาต้องฝากร่องรอยเอาไว้เป็นแน่ ถึงเธอจะไม่เคยโดนล่วงล้ำเข้ามาในกายแต่เรื่องการฝากรอยแสดงความเป็นเจ้าของบริเวณลำคอหรือลาดไหล่ก็เคยได้ยินผ่านมาบ้าง
“อยากได้ผัวรวยใช่ไหม ฉันอยากรู้เหลือเกินว่าถ้าได้ผัวจนแล้วยังปากหมาแบบฉันจะเป็นยังไง ลองหน่อยไหมล่ะ” นั่นไม่ใช่คำถามแต่มันคือคำขู่ที่เขากำลังจะทำจริง ดวงตาคมมุ่งมั่น
จนคนที่มองอดหวั่นไม่ได้จึงรีบกระทืบลงที่เท้าของอีกฝ่ายก่อนจะวิ่งไปที่ประตูซึ่งก็ไม่อาจออกไปได้อยู่ดี จนถูกคว้าเอวไว้ได้อีกครั้ง
ดีที่เธอไม่กระแทกเข่าไปที่จุดยุทธศาสตร์ ไม่เช่นนั้นคงนั่งปวดนานกว่านี้ เหยียบแค่เท้าไม่กี่วินาทีก็หายแล้ว อีกทั้งห้องนี้ก็ถูกปิดตายเพราะฉะนั้นเขาและเธอยังได้สนุกกันอีกนาน..
“จะหนีไปไหน” ร่างหนากอดเอวเล็กจากข้างหลังรัดแน่นก่อนจะเหวี่ยงหล่อนไปบนพื้นที่ปูด้วยฟางหญ้า ค่อยๆ ย่างสามขุมเข้าไปหาด้วยใบหน้าเรียบเฉย “เธอทำร้ายฉันสองรอบแล้วนะ”
“อย่าเข้ามานะ ถ้านายเข้ามาฉันจะร้องให้คนช่วยจริงๆ ด้วย”
คุณหมอหัวเราะเสียงขึ้นจมูกอย่างสมเพช มองร่างบางที่เขยิบถอยหนี จนกระทั่งแผ่นหลังบางไปชิดกับผนัง ไร้ซึ่งหนทางจะรอดพ้นจากวิกฤต
“ตอนนี้คนในไร่เขากำลังสนุกอยู่ที่งานเลี้ยง ใครจะมาได้ยินเสียงของเธอ” ร่างสูงย่อตัวลงตรงหน้าบุลลา ในขณะที่เธอมีสีหน้าหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัดพร้อมระคายตัวจากการถูกหญ้าเสียดสี
“ฉันร้องจริงนะ อย่าเข้ามา ช่วยด้วยค่ะ ช่วย..อื้อ” เสียงที่เปล่งออกมาถูกปิดด้วยริมฝีปากได้รูปของคุณหมอแห่งฟาร์มสายรุ้ง และคราวนี้เขาไม่ทำเพียงแค่กั้นเสียงเล็กทว่ายังสอดแทรกลิ้นเข้าไปเกี่ยวกระหวัดอย่างช่ำชอง จนคนไม่ประสาได้แต่ปล่อยให้เขากระทำด้วยหัวใจที่เต้นตุ๊มๆ ต่อมๆ
มือเล็กยังคงผลักเขาให้ออกห่าง ทว่าเรี่ยวแรงที่เคยมีกลับลดหายไปอย่างรวดเร็ว แทนที่มาด้วยอาการเสียววาบในช่องท้อง เธอหนีบขาเข้าหากันทันทีเมื่อรับรู้ว่ามันคืออารมณ์ที่พุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วเพราะเกิดจากการปลุกปั่นของคนที่ควบคุมเกมอย่างพณณกร
ชายหนุ่มเลื่อนมือขึ้นไปประคองไหล่เล็ก ลูบแผ่วเบาด้วยความถูกใจเพราะมันเนียนลื่นมือก่อนจะค่อยๆ ดึงชุดเปิดไหล่ลงมาจนเผยให้เห็นบราปีกนกสีเนื้อที่กอบกุมทรวงอกเอาไว้ ก็นึกสมเพชในใจ
..คงใส่เพื่อมายั่วไอ้ธีเต็มที่เลยสิ แต่เสียใจด้วยที่คนจะได้สัมผัสคือฉัน..คนที่เธอเกลียดอย่างไรเล่า
บราถูกดึงออกแล้วโยนทิ้งอย่างไม่ไยดีก่อนมือหนาจะกอบกุมดอกบัวคู่งามเอาไว้ทั้งสองข้าง บีบคั้นอย่างเมามัน ขณะที่ยังประกบริมฝีปากจิ้มลิ้มไม่ห่าง จนเหมือนว่าคนใต้ร่างจะเริ่มหายใจไม่ออกจึงยอมปล่อยให้เป็นอิสระทว่าใบหน้าคมยังเลื่อนไปฝากรอยไว้ที่ลำคอขาวผ่องอย่างห้ามใจไม่อยู่
ไฟในโรงเก็บหญ้าเป็นสีส้มนวลไม่ได้สว่างจ้าจนแสบตายิ่งสร้างบรรยากาศแห่งอารมณ์รัญจวนให้ทั้งสอง บุลลาจากที่ปฏิเสธและเอาแต่ทุบตี มือเล็กกุมชายเสื้อลายสก็อตของร่างสูงเอาไว้แล้วเอนกายเข้าไปใกล้เขามากขึ้นโดยไม่รู้ตัวสักนิด
หญ้าที่ปูไว้ไม่ได้ทำให้เกิดความระคายเคืองแต่อย่างใดอาจเพราะพุ่งความสนใจไปยังรสชาติที่แปลกใหม่ของอารมณ์รัญจวน
“อะ”
ลิ้นหนาลากผ่านคอระหงก่อนครอบครองทรวงอกคู่งามที่ใหญ่เกินขนาดตัวจนนึกสงสัยว่าเธอไปศัลยกรรมหน้าอกมาหรือเปล่า พอได้สัมผัสจึงรู้ว่าของแท้แม่ให้มาแน่นอน
กลิ่นหอมละมุนอดใจไม่ไหวต้องตวัดลิ้นเลียยอดสีหวานจนแข็งเป็นไต ส่วนบัวงามข้างที่ว่างก็ใช้มือบีบคั้นจนได้ยินเสียงครางจากริมฝีปากเล็ก เขายิ้มอย่างพึงพอใจคิดว่าฝีมือตนยังไม่ตก แม้ไม่ได้ร่วมหลับนอนกับใครมาหลายเดือน ทว่าสิ่งที่ทำให้แปลกใจคือท่าทีราวไม่ประสาของผู้หญิงคนนี้ต่างหาก ปกติหากเขาทำขนาดนี้ฝ่ายหญิงต้องเอามือมาลูบไล้แผ่นหลังหรือไม่ก็ถอดเสื้อให้แล้วซึ่งบุลลาไม่มีปฏิกิริยาแบบนั้นเลย
เธอทำเพียงนั่งกำชายเสื้อเขาแน่นแล้วยังหลับตาเหมือนไม่อยากรับรู้เรื่องราวจนเขาใช้แรงบีบหน้าอกนุ่มจนทำให้ร่างบางสะดุ้ง
“โอ๊ย มันเจ็บนะ”
“ลืมตาแล้วมองฉัน” ดวงตากลมโตเคลือบไปด้วยน้ำใสจนคนมองรู้สึกอยากรังแกให้มากกว่านี้ เขาผละจากบัวตูมข้างที่ได้ลองชิมก็เปลี่ยนเป็นข้างที่ยังไม่ได้ดอมดม
บุลลารู้สึกราวอวัยวะภายในกำลังหลอมรวมเป็นหนึ่ง ร่างกายร้อนเหมือนมีไฟโอบล้อมโดยเฉพาะจุดที่ริมฝีปากได้รูปของชายหนุ่มลากผ่าน
อากาศที่หนาวจากภายนอกไม่สามารถทำอะไรชายหญิงที่กำลังจมดิ่งไปกับเสน่หาได้เลย
มือเล็กเปลี่ยนจากกำชายเสื้อมาเป็นโอบรอบคอเขาแล้วปล่อยให้พณณกรเคลื่อนไหวไปอย่างช้าๆ ริมฝีปากบางพยายามกลั้นเสียงที่จะเปล่งออกเพราะรู้สึกอาย
“ร้องออกมาอย่าเก็บเอาไว้” บอกเสียงแหบพร่าหลังรู้ว่าเธอไม่ยอมทำตามอารมณ์ปรารถนาที่พุ่งขึ้นสูงไม่ต่างจากเขาตอนนี้ที่น้องชายดุนดันอยู่ภายใต้กางเกงตัวหนา
“ไม่ อื้อ” ปฏิเสธแต่ก็ร้องออกมาแล้วแอ่นหน้าอกรับการสัมผัสจากลิ้นหนา
แม้ปากจะบอกไม่ ทว่าก็ยังร้องให้พณณกรพึงพอใจจนตบรางวัลชุดใหญ่ด้วยการฝากรอยเอาไว้ยังเนินอกนำมาซึ่งอาการเจ็บแปลบเพียงชั่วครู่ก่อนจะแทรกด้วยความวาบหวามที่อีกฝ่ายเป็นผู้เดินเกม
เขาผละจากหน้าอกกลมกลึงลากลิ้นผ่านไปที่หน้าท้องแบนราบทั้งยังขาวเนียนจนอดสร้างร่องรอยของตนเอาไว้ไม่ได้ ร่างกายของบุลลาช่างสวยงามจนอดใจไม่ไหวต้องชื่นชมด้วยตาและสัมผัสถึงความหวานนุ่มด้วย..ลิ้น
วนที่แอ่งสะดืออย่างหลงใหลจนได้ยินเสียงครางไม่เป็นศัพท์
“อือ พะ พอก่อน”
มือข้างขวาเคล้นที่ดอกบัวคู่งาม ส่วนข้างซ้ายก็ลูบไล้เรียวขาไปมาก่อนเลิกกระโปรงขึ้นไปกองอยู่ที่หน้าตักเผยให้เห็นจีสตริงสีชมพูซึ่งร่างบางตั้งใจเลือกเพื่อมายั่วเจ้าของไร่โดยเฉพาะ ไม่คิดว่าคนที่เชยชมจะเป็นอีกคน
ผู้ชายที่หล่อนเกลียดขี้หน้า ทว่าไม่รู้ทำไมถึงชอบมองหาเขาแทบทุกเวลา
และตอนนี้เขาก็กำลังจะครอบครองร่างกายของเธอ ทั้งที่ควรปฏิเสธ ควรหยุดเอาไว้เพียงเท่านี้ก่อนทุกอย่างจะเลยเถิด
แต่บุลลาก็ไม่ทำ ปล่อยให้ร่างหนากระทำการย่ำยีกับตนโดยยินยอมพร้อมใจ
“ชอบมันมากเลยเหรอไอ้ธีน่ะ” เห็นจีสตริง อารมณ์โมโหก็ตีตื้นขึ้นมาจุกกลางอก
หากคนที่กำลังได้สัมผัสร่างกายของเธอเป็นชลธีไม่ใช่เขา จะรู้สึกอย่างไร..
แค่คิด กายก็ร้อนรุ่มดังมีเพลิงแผดเผารอบกาย
..ไม่มีวันนั้นหรอก!
“อ่า ชอบ ฉันชอบคุณธี!” ตอบกลับเสียงดังเพราะมือหนาได้กระชากชั้นในชิ้นน้อยซึ่งแทบไม่ปกปิดของสงวนออกจากหล่อน เผยให้เห็นความสวยงามของหญิงสาวซึ่งไม่มีขนให้เห็นสักเส้นอาจเพราะนวัตกรรมความงามสามารถเลเซอร์ออกอย่างง่ายดาย และเพราะหน้าที่การงานต้องใส่ชุดน้อยชิ้นจึงตัดสินใจกำจัดขนบริเวณจุดซ่อนเร้นจนเรียบเนียน
“ถ้าอย่างนั้นต่อจากนี้ก็จำเอาไว้นะว่าคนที่จะเป็นผัวเธอคือฉัน ไม่ใช่ไอ้ธี” พณณกรไม่ปล่อยให้หล่อนได้เอ่ยอะไรออกมา จัดการปิดปากเล็กด้วยการจุมพิตอย่างลงทัณฑ์ นิ้วมือทั้งสามสอดเข้าไปภายในกลีบดอกไม้สีอ่อนจนคนไม่ทันตั้งรับสั่นไปทั้งกาย
อารมณ์แปลกใหม่ที่ได้รับเมื่อเขาขยับนิ้วตามจังหวะพร้อมทั้งความรู้สึกที่เหมือนผีเสื้อภายในท้องกำลังบินว่อนเหมือนจะพุ่งออกมาจากกายเพราะมือหนาเปิดทางให้ ทำเอาร่างบิดไปมาจนต้องขยุ้มเสื้อเขาแน่นหวังบรรเทาอาการนั้น
แต่ไม่เป็นผลเพราะอาการมันรุนแรงจนต้องอ้าปากพยายามเปล่งเสียง ลืมไปเสียสนิทว่ามีริมฝีปากหนาทาบทับเอาไว้และนั่นเป็นการเปิดโอกาสให้เข้ามาชิมความหวานภายในโพรงปากราวเป็นเจ้าของ
“อื้อ อืม” ความเงียบภายในโรงเก็บหญ้าทำให้เสียงที่เปล่งออกมาดังก้องหูจนหล่อนรู้สึกอายที่ได้ยินเสียงของตนเองซึ่งมีความสุขมากกว่าจะเป็นผู้ถูกกระทำ
พณณกรรับรู้ได้ว่าคนตัวเล็กพร้อมสำหรับการปลดปล่อยแล้วจึงเร่งจังหวะให้เร็วขึ้นทั้งที่ตนเองก็รู้สึกปวดไปทั่วร่างไม่ต่างกันมากนัก
ไม่ได้..เขาไม่ยอมเอาตัวเองเข้าไปในกายของหล่อนเป็นอันขาด ไม่รู้ผ่านใครมาบ้างคงจะกร้านโลกน่าดู คิดอย่างเหยียดหยามแล้วปล่อยริมฝีปากจิ้มลิ้มให้เป็นอิสระมองใบหน้าหวานที่ดวงตากลมโตมีประกายความต้องการสูงล้น
“อ่า!” ผีเสื้อนับร้อยบินออกมาพร้อมอารมณ์ที่พุ่งขึ้นแตะเพดานอย่างไม่น่าเชื่อ ความรู้สึกที่คล้ายลอยได้ก่อนจะโดนเขากระชากลงมาบนพื้นอย่างไม่ปรานี เมื่อร่างสูงผละออกมาจากหล่อนพร้อมใบหน้าคมที่แสยะยิ้มราวต้องการเย้ยหยัน
ความสุขที่ได้รับกลับฉาบด้วยอาการอับอายเมื่อสบสายตาคม ร่างเล็กรีบจัดแจงชุดเข้าที่ก่อนคว้าบราและจีสตริงมากำเอาไว้แน่นไม่อยากให้ร่างเรือนกายของตนอีก
..เพียงเท่านี้ก็ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว
“หึ คงชอบไอ้ธีมากสินะถึงขนาดยอมให้ผู้ชายคนอื่นจับต้องได้ขนาดนี้ ฉันล่ะบูชาไอ้สิ่งที่เธอเรียกว่าความรักจริงๆ” กระแทกเสียงใส่แล้วเดินเลยไปนั่งบนก้อนหญ้าอัด ไม่สนใจจะชายตาแลผู้หญิงที่เนื้อตัวสั่นเลยสักนิด
“ฮึก ไอ้บ้า” น้ำใสไหลลงมาด้วยความเจ็บแค้น อยากลุกขึ้นไปตบตีผู้ชายไร้หัวใจคนนั้น ทว่าก็ต้องนั่งพับเพียบปกปิดร่างกายเอาไว้
มือเล็กกำชั้นในสีหวานแน่นไม่กล้าหันไปมองพณณกรที่นั่งไม่ไกลมากนักเพราะโรงเก็บหญ้าแห่งนี้ไม่ได้กว้างขวางทั้งยังมีไฟส่องสว่างจนไร้ความเป็นส่วนตัวจึงไม่อาจหลบซ่อนเพื่อไปจัดการตนเองให้เรียบร้อยได้ ต้องนั่งเป็นเป้าสายตาให้คนลามกมองพลางผิวปากด้วยความอารมณ์ดีทั้งที่จริงลูกชายยังไม่สงบดีด้วยซ้ำ
อดทนไว้ให้เอิร์ธ อย่าตบะแตกเด็ดขาด!