ตอน 5
“หา...ทำไมถึงถามแบบนั้นคะ” อาจารย์สาวที่รับหน้าที่สอนการตลาดและดูแลกิจกรรมด้านกองเชียร์ รู้สึกตกใจกับคำถามจึงยกมือกุมใบหน้าของตัวเองด้วยอาการกังวล นึกอยากควักกระจกออกมาส่องด้วยซ้ำไป เมื่อก่อนเคยคิดว่าตัวเองสวยที่สุด ทว่าเมื่อจารุภาย้ายเข้ามา และเป็นคู่แข่งกันทุกด้านกลายเป็นคนวิตกจริต ไม่มั่นใจในตัวเองขึ้นมาซะอย่างนั้น
“ก็เห็นหน้าบูดๆ” คนที่เอ่ยถามเฉลยคนอย่างอาจารย์พราวนภา ไม่ใช่คนสวยเลิศ สวยเด่น อย่างอาจารย์จารุภา แต่ก็น่ารักในความเป็นคนร่าเริงแจ่มใส อารมณ์ดีเป็นเยี่ยม ชอบทำให้คนทั้งมหาวิทยาลัยได้หัวเราะ จริงๆ ไม่ควรคุมกิจกรรมด้วยซ้ำ น่าจะให้ไปคุมการละครมากกว่า
“สงสัยหน้าพราวไม่ได้ใส่สารกันบูดมามั้งคะ” หล่อนติดตลกแบบนี้ประจำ
“แหม...ตลกนะครับอาจารย์พราว” อาจารย์ดลพลอยเยิ้มเริงร่ากับมุกตลกไปด้วย จากนั้นทั้งคู่จึงเดินไปด้วยกันตรงสนามเพื่อทำหน้าที่ของตน แต่อาจารย์สาววัยเลขสามกลางๆ ก็ยังอาวรณ์ใครบางคนที่จากไปก่อนหน้า
จารุภาแสร้งเดินช้ากว่าตะวันสองก้าว หล่อนเหลือบมองรอบกายแล้วว่าไม่มีใครตามมา โดยเฉพาะยาเบื่ออย่างพราวนภาที่ชิงดีชิงเด่นแย่งตัวตะวันพร้อมๆ กับตนแม้แต่เมื่อก่อนที่หล่อนสนใจอาจารย์ดล พราวนภายังหันมาสนใจด้วย ดังนั้นตอนนี้ปลอดสายตาคนแล้วถึงเวลาทำคะแนนกับตะวันแล้วล่ะ หล่อนยิ้มกรุ้มกริ่มกับตัวเอง
“ว้าย !!” เท้าของอาจารย์สาวมากเล่ห์ ที่เดินตามหลังไม่ห่างจากชายหนุ่มสะดุดอะไรสักอย่าง หล่อนกรีดร้องแล้วร่างก็เซถลาไปหาตะวัน
“เป็นอะไรครับอาจารย์แคท” ตะวันรู้สึกตกใจกับเสียงหวีดร้องของคนที่เดินตามหลังมา หล่อนเซถลาจนร่างกระแทกกับเขา
“โอ้ย...เจ็บจังเลยค่ะ ไม่ทราบสะดุดอะไรค่ะ”
ลำแขนแกร่งประคองร่างอวบอิ่มอาจารย์สาวที่มีความอาวุโสกว่า ทั้งอายุและวุฒิภาวะทางหน้าที่การงานไว้ในลำแขนของตัวเอง พยุงหล่อนไว้ไม่ให้ล้ม ซึ่งไม่รู้ว่าเท้าแพลงหรือพลิกหรือเปล่า
ขณะที่อาจารย์สาวซ่อนรอยยิ้ม แกล้งก้มบีบนวดข้อเท้าตัวเอง เพื่อให้สมจริงพร้อมทั้งแอบสูดกลิ่นบุรุษเข้าปอดเต็มๆ กลิ่นผู้ชายช่างเร้าใจไร้คำจำกัดความ โดยเฉพาะกลิ่นอาจารย์ตะวัน ช่างกระตุ้นต่อมและฮอร์โมนที่กำลังวิ่งทั่วกายจริงๆ เคราสากๆ เขียวครึ้มที่ล้อมกรอบใบหน้าคมสัน หากได้มาครูดตามเนื้อตัวและจุดซ่อนเร้นของหล่อนจะสุขใจสักเพียงใดกันนะ หล่อนซ่อนคิดอย่างน่ากลัวพานให้คนที่ถูกเอาเปรียบทางสายตาไม่ปลอดภัยไปด้วย
“เท้าแพลงหรือเปล่าครับ เจ็บตรงไหนบอกผมสิครับ” เขาคิดจะบีบนวดและปฐมพยาบาลให้กับอาจารย์สาวซึ่งอาจได้รับบาดเจ็บจากการสะดุดอะไรสักอย่างข้างสนามหญ้าทางเดินไปยังคณะ
“ข้อเท้าค่ะข้อเท้า” หล่อนใส่มารยาราวกับเจ็บอย่างกับทหารถูกกับระเบิดที่ชายแดนภาคใต้ มือก็เกี่ยวเกาะชายหนุ่มแน่นพอๆ กับลูกลิงเกาะแม่ไม่ปาน
ยังไม่ทันจะได้บีบนวดทั้งมือและใบหน้าของตะวันต้องหันไปตามเสียงผู้ก้าวมาใหม่ซะก่อน
“อาจารย์แคทเป็นอะไรไปคะ” อาจารย์พราวนภาก้าวมาชิดคนที่เกาะอาจารย์ตะวันซะแน่นจนไร้ช่องว่าง “มานี่ค่ะเดี๋ยวพราวจะพาไปห้องพยาบาล” คู่ปรับจึงขันอาสาคล้ายกับรู้ว่านี่คือละครฉากสำคัญของอาจารย์สาวลายดอก
“อ้อ...อาจารย์พราวมาพอดีเลยครับช่วยพยุงอาจารย์แคทไปห้องพยาบาลที ไม่ทราบว่าเธอเป็นอะไร เดินมาดีๆ จู่ ๆ ก็สะดุด สงสัยเท้าจะแพลงแล้วล่ะครับ”
“ไม่ต้องห่วงนะคะอาจารย์ซัน ตรงนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่พราวเถอะค่ะ อาจารย์ซันมีสอนใช่มั้ยคะไปได้เลยค่ะ เดี๋ยวลูกศิษย์รอไม่ดีนะคะ” พราวนภาปัดมือไล่ชายหนุ่ม โดยกำชับไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องง่ายๆ ตรงนี้เป็นเองก็หายเองได้ หล่อนซ่อนคิด มารยา...ที่สุด
“งั้นผมฝากด้วยนะครับ” อาจารย์หนุ่มลูกครึ่งภาษาไทยไม่ค่อยชัดผุดลุกเตรียมจะก้าวจากไป เพราะเขาเหลือเวลาเข้าสอนไม่ถึงสิบนาที ปล่อยให้ลูกศิษย์รอไม่ดีอย่างที่พราวนภาว่า อย่างน้อยก็มีอาจารย์ดลมาด้วย คงไม่ต้องห่วงอะไรมาก เขาแสดงความเป็นสุภาพบุรุษเต็มที่
“ดะ...เดี๋ยวอา...” จารย์ซันท้ายประโยคจากปากสีแดงสดของอาจารย์สาวหายลงคอ เมื่อมีมารมาขวางความสุขมาผจญจนหมดโอกาสได้ใกล้ชิด แนบสนิทกับผู้ชายที่เป็นสุดยอดปรารถนา ไหนจะต้องสู้รบกับนักศึกษาสาวๆ หน้าตาดี แรดร่าน แล้วยังต้อมาห้ำหั่นกับยัยเตี้ยใฝ่สูงคนนี้อีก ตอนนี้วิมานที่สร้างไว้กลางอากาศพังพินาศลงเพราะมารเตี้ยแท้ๆ โอ้ย...เจ็บใจนัก
ดังนั้นเมื่อลับร่างชายหนุ่มที่หล่อกระชากหัวใจสาวรุ่นพี่ วิญญาณนางมารจึงกลับมาสิงร่างอาจารย์จารุภา ในบัดดล
“นี่ยัยเตี้ยมันเรื่องอะไรของหล่อนยะ” จารุภาผุดลุกเต็มความสูงร้อยเจ็ดสิบกว่าๆ ซ้ำยังอยู่บนรองเท้าส้นสูงเจ็ดนิ้วอีกต่างหาก ดังนั้นความสูงจึงเกินพราวนภาอีกหลายเซนติเมตร ข่มกันอย่างโจ่งแจ้ง
“อ้าว ไม่เจ็บแล้วเหรอคะอาจารย์ดอก อุ้ย...ลายดอก” ฝ่ายพราวนภารู้เล่ห์เพทุบายอาจารย์ลายดอกดี จึงแสยะยิ้มมองคนเบื้องหน้าตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าด้วยสายตาดูหมิ่น...จะบอกว่าเหยียดหยามก็ได้นะ
“ฉันไม่ได้ชื่อดอก ฉันชื่อแคทและยังเป็นถึงดร. ดีกรีเมืองนอก หล่อนจบแค่ปริญญาโทในมหาวิทยาลัยของไทยอย่าสะเออะมาเทียบกับฉันยัยเตี้ย” วาจาช่างข่มขวัญหยามหยันอย่างเห็นได้ชัด ไม่เพียงแต่คำพูดสายตายังทั้งกัดทั้งจิกจนร่างอาจารย์พราวนภากระจุย
“พอดีความจำสั้น ชื่อดอก หรือ แคทนะคะ” ฝ่ายที่อารมณ์ดีเป็นศรีแก่ตัวเอง ก็ไม่ได้ใส่ใจคำพูดดูถูกจากอีกฝ่าย เพราะชินกับคำพูดเหล่านี้ซะแล้ว นี่ไม่ใช่ศึกวันทรงชัยครั้งแรกระหว่างตนกับอาจารย์ลายดอก หากแต่ประจำล่ะจึงไม่สนใจอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ เมื่อชวดอาหารอร่อย ผู้ชายบางทีอาจจะชอบของแปลกแบบตนก็เป็นได้ ใครจะรู้ ในขณะอาจารย์จารุภา พยายามอ่อยอาจารย์ตะวันทุกวิถีทาง เขาอาจจะหันมาทางตนใครจะรู้
“แคทยะ” ฝ่ายคนลายดอกตอบด้วยอารมณ์ฉุนสุดขีด กัดฟันบอกชื่อของตัวเองซ้ำแล้วซ้ำอีกสำหรับคนที่อ้างตัวเองว่าความจำสั้น แต่เชื่อเถอะสั้นแค่ไหนก็ต้องจำได้ รบกันทุกสมรภูมิขนาดนี้
“อย่าให้มันโจ่งแจ้งนักนะคะอาจารย์แคท” พราวนภาเตือนด้วยความไม่หวังดีนัก อย่างหล่อนไม่จำเป็นต้องวางแผนซับซ้อน เอาความซื่อความน่ารัก และตลกโปกฮาเพื่อนำทางใกล้ชิดอาจารย์ตะวัน แต่สำหรับใครบางคนทั้งงัดเอากลเม็ด ทั้งงัดเล่ห์เหลี่ยมออกมาใช้ผู้ชายยังไม่เล่นด้วย ดูโน่นเขาชิ่งไปไหนต่อไหนแล้ว
“อะไรโจ่งแจ้ง” ต้องการคำความกระจ่างอย่างที่สุด อะไรที่ยัยเตี้ยพูดถึงความโจ่งแจ้ง ในเมื่อหล่อนแอบเนียนที่สุดแล้ว คิดพลางเชิดหน้าในแบบฉบับที่ถนัด
“แหมๆ จบปริญญาเอกจากบอสตัน เป็นถึงดร. คำพูดแค่นี้แปลไม่ออกเหรอคะ งั้นให้คนจบปริญญาโทในไทยแปลให้ฟังก็ได้นะคะ” เชือดเฉือนวาจากันสุดฤทธิ์ ยัยเตี้ยจะตอกหน้ายัยโย่งให้ลืมทะเบียนรถสปอร์ตเชียวล่ะ
“ไม่ต้อง” อาจารย์สาวปริญญาเหนือกว่าอีกฝ่ายสะบัดเสียงใส่หน้าคู่ปรับ แล้วเบี่ยงตัวเตรียมจากไป หึ...ไม่จำเป็นต้องเอาเพชรไปถูกับกระเบื้อง หล่อนไว้ตัวเสมอ ทว่าเวลาอยู่ต่อหน้าคนหมู่มาก จารุภามักแสร้งเป็นมิตรยิ้มหวานโปรยเสน่ห์เป็นอาจารย์ที่แสนดีต่อหน้าทุกคนได้อย่างแนบเนียน มีเพียงพราวนภาที่รู้ว่าทั้งหมดบนตัวจารุภาคือความแอบอย่างแนบเนียน
“อุ้ยเข้าใจแล้วเหรอคะ” ว่าคู่ปรับพลางหัวเราะอารมณ์บรรเจิดข่มอีกฝ่าย “ดูไว้นะคะอาจารย์ดล คนเจ็บหายไว้ไว” หันไปหาพยานที่เดินมาด้วยกันจะได้เห็นจะจะ ว่าใครกันแน่เป็นนางมารร้าย
“ไม่จำเป็นต้องเข้าใจ เพราะไม่ใช่ธุระโกงการอะไรของฉัน” ว่าพลางพร้อมสะบัดก้นจากไป ด้วยท่าทางอารมณ์เสียที่ไม่ได้แนบชิดอาจารย์ตะวัน วันนี้ไม่ได้วันอื่นก็ต้องมี แม่จะบุกถึงบ้าน ถึงที่โชว์รูมรถหรูเชียว
“นางมารร้ายเอ๊ย เป็นไงคะอาจารย์ดลเห็นแล้วนะคะ ว่ายายอาจารย์ลายดอก ปากร้ายที่หนึ่ง เหลี่ยมจัดอีกต่างหาก และอีกหลายคุณสมบัติดีๆ ทั้งนั้น”
“อาจารย์พราวก็ใช่ย่อยนะครับ เล่นงานอาจารย์แคทจนเต้นผาง ลืมอาการเท้าแพลงไปเลย”
“ก็หล่อนไม่เจ็บจริงนี่คะ ต้องการอ่อยอาจารย์หนุ่มขบเผาะชัดๆ” เห็นคนหน้าตาดี สูงยาวเข่าดี ล่ำหล่อ สุดสมบูรณ์ไม่ได้ อาการอยากกินของอร่อยกำเริบทุกทีสิน่า
“แล้วอาจารย์พราวไม่อ่อยเหรอครับ” ชายหนุ่มถามอย่างเย้าหยอก ไม่ได้คิดต้องการคำตอบจริงๆ พลางสาวเท้าจากตรงนั้น