ชีวิตใหม่
หลังจากเดินเล่นชมเมืองหลินซูซินและเสี่ยวฟางก็เริ่มรู้สึกเหนื่อยล้า ทั้งสองจึงตัดสินใจเดินกลับจวนของแม่ทัพ แต่ขณะที่กำลังเดินผ่านตรอกเล็กๆ แห่งหนึ่ง สายตาของหลินซูซินก็เหลือบไปเห็นป้ายประกาศอยู่บนกำแพง
"ให้เช่าร้าน" ตัวอักษรสีดำขนาดใหญ่เขียนไว้อย่างชัดเจน
หลินซูซินหยุดเดินและจ้องมองป้ายนั้นด้วยความสนใจ นางหันไปหาเสี่ยวฟาง "เสี่ยวฟาง เจ้าเห็นนั่นไหม"
เสี่ยวฟางมองตามสายตาของคุณหนู "เห็นเจ้าค่ะ คุณหนู"
"ข้าอยากเปิดร้าน" หลินซูซินพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น "ข้าอยากเปิดร้านขายเครื่องหอม"
เสี่ยวฟางเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ "คุณหนู ท่านพูดจริงหรือเจ้าคะ"
หลินซูซินพยักหน้า "จริงสิ ข้าฝันอยากจะมีร้านเป็นของตัวเองมานานแล้ว"
เสี่ยวฟางยิ้มกว้าง "ดีเลยเจ้าค่ะ คุณหนู ข้าน้อยจะช่วยท่านเต็มที่"
หลินซูซินเดินเข้าไปดูร้านที่ให้เช่าอย่างละเอียด ร้านนั้นมีขนาดไม่ใหญ่มากนัก แต่ก็อยู่ในทำเลที่ดี มีผู้คนเดินผ่านไปมาพลุกพล่าน ภายในร้านยังว่างเปล่า ไม่มีเครื่องเรือนหรือของตกแต่งใดๆ แต่หลินซูซินกลับมองเห็นภาพร้านเครื่องหอมในฝันของนางได้อย่างชัดเจน
ความสามารถพิเศษของหลินซูซินคือการดมกลิ่นที่เฉียบคมราวกับสุนัขล่าเนื้อ ดอกไม้ เครื่องหอม ยาพิษ หญิงสาวจำแนกออกได้หมด แม้ปริมาณจะน้อยนิด นางเคยใช้ความสามารถนี้ในการทำงานเป็นมือสังหารเงา แต่ตอนนี้นางอยากจะใช้ความสามารถนี้ในเส้นทางที่ถูกต้อง
"ข้าจะเปิดร้านเครื่องหอมที่ไม่เหมือนใคร" หลินซูซินพูดกับตัวเอง "ข้าจะใช้ความสามารถของข้าในการสร้างสรรค์กลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ และข้าจะไม่รับงานมือสังหารเงาอีกต่อไป"
หลินซูซินรู้ดีว่าหลังจากท่านตาของนางได้รับความดีความชอบก็ยิ่งมีศัตรูจ้องทำลายอยู่รอบทิศ นางอยากจะวางมือและเริ่มต้นชีวิตใหม่ ใช้ชีวิตอย่างสงบสุข
หวังหมิงหลงเดินเข้าไปในตำหนักของหยางกุ้ยเฟย สนมเอกผู้เลื่องชื่อในความงดงาม มารดาของเขาด้วยท่าทางหงอยเหงาผิดกับปกติที่มักจะสดใสร่าเริง
"ลูกแอบไปเที่ยวหอคณิกาอีกแล้วใช่ไหม!" หวังหมิงหลงก้มหน้าสำนึกผิด
หยางกุ้ยเฟยส่ายพระพักตร์ด้วยความผิดหวัง "หมิงเอ๋อร์ ลูกนี่ช่างไม่รู้จักโตสักที เหตุใดจึงยังคงเที่ยวเตร่สำส่อนเช่นนี้อีก"
หยางกุ้ยเฟยวางถ้วยชาลงบนโต๊ะอย่างแผ่วเบา "หมิงเอ๋อร์ ลูกอายุก็ไม่ใช่น้อยๆ แล้ว เหตุใดจึงยังไม่คิดเรื่องอภิเษกสมรสเสียที"
หวังหมิงหลงเงยหน้าขึ้นจากถ้วยชาของตนเอง "ท่านแม่ ลูกก็แค่ยังไม่เจอคนที่ถูกใจ"
"คนที่ถูกใจ?" หยางกุ้ยเฟยเลิกคิ้วขึ้น "เจ้าเที่ยวหอคณิกาแทบทุกคืน ยังจะมาบอกว่าไม่เจอคนที่ถูกใจอีกหรือ"
หวังหมิงหลงหน้าแดงก่ำด้วยความอับอาย "ท่านแม่..."
หยางกุ้ยเฟยพูดเสียงเข้ม "ลูกเป็นถึงองค์ชาย จะทำตัวเหลวไหลเช่นนี้มิได้"
"แต่ท่านแม่..." หวังหมิงหลงพยายามจะแก้ตัว
"ไม่มีแต่" หยางกุ้ยเฟยตัดบท "แม่เบื่อที่จะต้องคอยฟังข่าวลือเรื่องเจ้ากับพวกนางคณิกาเต็มทีแล้ว"
หวังหมิงหลงก้มหน้าลง "ลูกขอโทษ"
"คำขอโทษมันช่วยอะไรไม่ได้" หยางกุ้ยเฟยพูดอย่างเหลืออด "แม่ต้องการให้เจ้าแต่งงาน มีพระชายาที่คู่ควรเสียที"
"แต่ลูกยังไม่พร้อม" หวังหมิงหลงเถียง
"ไม่พร้อมอะไรกัน" หยางกุ้ยเฟยตวาด "เจ้าอายุเท่าไหร่แล้ว ยังจะมาอ้างว่าไม่พร้อมอีกหรือ"
หวังหมิงหลงเงียบ ไม่กล้าพูดอะไรต่อ
หยางกุ้ยเฟยถอนหายใจ "หมิงเอ๋อร์ แม่เป็นห่วงเจ้า เจ้าเป็นถึงองค์ชาย จะทำตัวเสเพลไปวันๆ มิได้"
"ลูกเข้าใจแล้วท่านแม่" หวังหมิงหลงตอบเสียงเบา
"ดี" หยางกุ้ยเฟยพยักหน้า "แม่จะให้ฝ่าบาทจัดการเรื่องนี้ให้ เจ้าอย่าทำให้แม่ผิดหวังอีก"
หวังหมิงหลงได้แต่รับคำอย่างว่าง่าย เขาไม่เคยเห็นมารดาของเขาโกรธมากขนาดนี้มาก่อน
หวังหมิงหลงก้าวออกจากตำหนักมารดาด้วยสีหน้าบึ้งตึง ความหงุดหงิดจากคำตำหนิของหยางกุ้ยเฟยยังคงคุกรุ่นอยู่ในอก ราวกับไฟที่พร้อมจะลุกโชนขึ้นมาได้ทุกเมื่อ
เขาเดินอาดๆ ไปยังเรือนพักของเหล่าสตรีอุ่นเตียงของเขา ซึ่งมีมากมายจนแทบล้นจวน บรรดาสตรีอุ่นเตียงที่เห็นองค์ชายห้าในสภาพเช่นนี้ต่างพากันหวาดกลัว พวกนางรู้ดีว่าเมื่อใดที่องค์ชายไม่สบอารมณ์ พวกนางมักจะต้องเป็นที่รองรับอารมณ์นั้นทุกครั้งไป
"พวกเจ้าทั้งหมด มานี่เดี๋ยวนี้!" หวังหมิงหลงตวาดเสียงดัง เหล่าสตรีต่างพากันวิ่งกรูเข้ามาหาเขาด้วยความหวาดหวั่น
"วันนี้ข้าจะเลือกพวกเจ้าทุกคน!" เขาประกาศก้อง สายตาของเขาเต็มไปด้วยอารมณ์กำหนัดที่กำลังคุกรุ่น
พวกนางหน้าซีดเผือด พวกนางรู้ดีว่าคืนนี้จะเป็นค่ำคืนที่ยาวนานและทรมาน พวกนางได้แต่ภาวนาขอให้รุ่งเช้ามาถึงโดยเร็ว เพื่อที่จะได้หลุดพ้นจากฝันร้ายนี้เสียที
หวังหมิงหลงมองดูสตรีเหล่านั้นด้วยสายตาเหยียดหยาม เขาไม่เคยเห็นพวกนางเป็นมากกว่าเครื่องเล่นสำราญใจ และเขาก็ไม่เคยคิดจะจริงจังกับพวกนางเลยแม้แต่น้อย
คืนนั้น หวังหมิงหลงระบายความหงุดหงิดและคับแค้นใจทั้งหมดลงที่เหล่าสตรีอุ่นเตียง เขาไม่สนใจเสียงร้องครวญครางของพวกนาง
เมื่อรุ่งสางมาถึง หวังหมิงหลงก็ลุกขึ้นจากเตียงด้วยความรู้สึกเหนื่อยล้า เขามองไปรอบๆ ห้อง เห็นเหล่าสาวใช้และสตรีอุ่นเตียงนอนสลบไสลอยู่บนพื้น ร่างกายของพวกนางเต็มไปด้วยร่องรอยแห่งความรุนแรง
เขาเดินออกจากห้องไปโดยไม่หันกลับมามอง เหล่าสตรีอุ่นเตียงที่นอนอยู่บนพื้นก็ค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นมา พวกนางมองหน้ากันด้วยความเศร้าสร้อยและสิ้นหวัง พวกนางรู้ดีว่าชีวิตของพวกนางจะต้องเป็นแบบนี้ต่อไป ตราบใดที่พวกนางยังคงเป็นสตรีอุ่นเตียงขององค์ชายห้า
แม้จะเพิ่งปลดปล่อยความใคร่ไปกับสตรีมากมาย แต่ในห้วงคำนึงของหวังหมิงหลงกลับมีเพียงภาพของหญิงสาวที่บังเอิญสบตากันที่หอคณิกาเด่นชัดขึ้นมา นางแตกต่างจากสตรีอื่นๆ ที่เขาเคยพบเจอ สายตาของนางไม่ได้มีแววหวาดกลัว หรือปรารถนาในตัวเขา แต่กลับเต็มไปด้วยความเย็นชาและดูแคลน ราวกับมองเขาเป็นเพียงเศษธุลีไร้ค่า
ความรู้สึกแปลกใหม่นี้ทำให้หวังหมิงหลงรู้สึกสับสน เขาไม่เคยถูกผู้หญิงคนไหนปฏิบัติเช่นนี้มาก่อน ยิ่งนางแสดงท่าทีรังเกียจเขาเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งอยากได้นางมาครอบครองมากขึ้นเท่านั้น
"เจ้าเป็นใครกันแน่" หวังหมิงหลงพึมพำกับตัวเอง รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นบนริมฝีปากของเขา "ไม่ว่าเจ้าจะเป็นใคร ข้าจะต้องตามหาเจ้าให้พบ และทำให้เจ้าเป็นของข้าให้ได้"