บท
ตั้งค่า

บทที่ 9 พายุหิมะมาเยือนและความช่วยเหลือ2

บทที่ 9 พายุหิมะมาเยือนและความช่วยเหลือ2

“ไม่เป็นไร ข้าใส่เสื้อผ้ามาอบอุ่นดีแล้ว อยากเข้าไปดูชาวบ้านที่ประสบภัยเสียหน่อย” ซูเม่ยกระชับชุดกันหนาวตัวยาวเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยแจ้งความประสงค์การมาของนางครั้งนี้

“เช่นนั้น ชิงชิงประคองคุณหนูให้ดีพื้นยังมีคราบน้ำแข็งอยู่บ้างระมัดระวังเสียหน่อย” หูอันฉีหันไปกำชับเด็กสาวที่คอยดูแลคุณหนูใหญ่

“เจ้าค่ะ หัวหน้าหู” มู่หว่านชิงพยักหน้าอย่างแข็งขัน

ซูเม่ยเดินเข้าไปบริเวณบ้านหัวหน้าหมู่บ้านก็เรียกสายตาของผู้คนทันที เพราะถือว่านางนั้นเป็นคนแปลกหน้าสำหรับชาวบ้าน

“หัวหน้าหมู่บ้าน นี่คือคุณหนูใหญ่ตวนมู่เป็นเจ้านายของพวกข้า มาดูการช่วยเหลือชาวบ้าน ข้าต้องฝากหัวหน้าหมู่บ้านด้วย” หูอันฉีเดินนำซูเม่ยเข้ามาหาหัวหน้าหมู่บ้านที่คอยกำกับการลำเลียงคนเจ็บเข้ามาภายในบ้านของเขา

“อ่า คุณหนูใหญ่ตวนมู่ ข้าและชาวบ้านต้องขอบพระคุณในการช่วยเหลือครั้งนี้อย่างยิ่งขอรับ” หัวหน้าหมู่บ้านเมื่อได้ยินการแนะนำจากกลุ่มคนเบื้องหน้าที่เข้ามาช่วยเหลือพวกเขาก่อนที่ทางการจะเข้ามาถึง ก็ซาบซึ้งในน้ำใจครั้งนี้เป็นอย่างมาก ไหนจะของแจกจ่ายที่คนในหมู่บ้านทุกคนต่างได้รับก่อนหน้านี้ไม่กี่วันย่อมมาจากหญิงสาวตรงหน้าเขาตอนนี้

ชาวบ้านที่ได้ยินว่าหญิงสาวแปลกหน้าที่เดินเข้ามาเป็นใคร ก็ต่างมองมาอย่างซาบซึ้ง และขอบคุณทั้งสิ้น บางคนถึงกับเอ่ยคำอวยพรออกมาให้นางพบสิ่งดีๆ จากการสร้างบุญสร้างกุศลของนาง

“หัวหน้าหมู่บ้านมิต้องเกรงใจถึงเพียงนั้น หากข้ามีกำลังย่อมอยากช่วยเหลือทุกคน ท่านไม่ต้องดูแลข้าหรอก ช่วยเหลือชาวบ้านย่อมสำคัญกว่า ตัวข้านั้นมีวิชาแพทย์เล็กน้อยจะช่วยดูแลคนเจ็บเหล่านี้ ผู้ใหญ่บ้านจะขัดข้องหรือไม่” หัวหน้าหมู่บ้านมองซูเม่ยอย่างเลื่อมใสในความมีเมตตาไม่ถือตนนับชนชั้นของหญิงสาวตรงหน้า ก่อนจะรีบตอบรับน้ำใจนั้นไว้

“ไม่ขัดข้องขอรับ ไม่เลย หมู่บ้านซีอานไม่มีหมอต้องรอหมอจากทางการ กว่าจะเข้ามาคงอีกนาน หากคุณหนูกรุณารักษาเบื้องต้นข้าไหนเลยจะขัดข้องอันใด” นอกจากผู้ใหญ่บ้านแล้ว ชาวบ้านก็ส่งเสียงว่าไม่ขัดข้องเช่นกัน

หูอันฉีเมื่อเห็นทุกอย่างเรียบร้อยก็ไปช่วยบ้านที่อยู่ลึกเข้าไปอีกหลายหลังทันที ซูเม่ยที่ได้รับคำอนุญาตก็เดินเข้าไปดูคนเจ็บพร้อมชิงชิงที่เดินถือกล่องยาตามหลังไม่ห่าง

ซูเม่ยเดินดูคร่าวๆ พิจารณาคนที่บาดเจ็บหนักที่สุดเพื่อทำการรักษาก่อน จนพบชายชราผู้หนึ่งที่มีบาดแผลฉกรรจ์บริเวณหน้าอก ซึ่งสิ้นสติไปแล้วจากการเสียเลือด ข้างๆชายชราผู้นั้นมีเด็กหญิงอายุราว 7 หนาวคนหนึ่งร่ำไห้อยู่ไม่ห่าง

“ชิงชิงเปิดกล่องยา” ซูเม่ยหันไปสั่งชิงชิงก่อนจะนั่งคุกเข่าลงข้างๆเด็กหญิง ที่กุมมือชายชราไม่ห่าง

“เด็กน้อย ท่านตาผู้นี้ได้บาดแผลนี้มาจากสิ่งใด พอจะบอกข้าได้หรือไม่” เด็กหญิงเมื่อได้ยินพี่สาวคนงามที่นั่งลงข้างๆถามก็เงยหน้ามอมแมมที่เปรอะเปื้อนคราบน้ำตาขึ้น

“ไม้จากหลังคาบ้านหล่นลงมาใส่ท่านปู่เจ้าค่ะ” เด็กหญิงตอบด้วยเสียงสั่นพร่าปนสะอื้นอย่างน่าสงสาร

“งั้นให้พี่สาวดูอาการท่านปู่ของเจ้าหน่อยนะ เจ้าเขยิบไปนั่งรอตรงมุมโน้นสักประเดี๋ยวเถิด” ซูเม่ยเอ่ยเสียงอบอุ่นเพื่อให้เด็กหญิงตัวน้อยคล้อยตามคำขอร้องของนางโดยเร็ว

“เจ้าค่ะ ท่านปู่จะหายใช่หรือไม่เจ้าคะพี่สาว” เด็กหญิงหันมาสบตาและถามซูเม่ยอีกครั้ง

“หากเจ้าเป็นเด็กดีเชื่อฟังพี่สาว ท่านปู่ย่อมหายดี”

“เย่วเย่ว เชื่อฟังคุณหนูท่านนี้เถิด ออกมานั่งข้างๆป้าจิวมา” ท่านป้าผู้หนึ่งเมื่อเห็นเด็กหญิงสร้างลำบากในการรักษาก็เอ่ยเรียก

เมื่อเด็กหญิงออกไปแล้ว ซูเม่ยก็ให้ชิงชิงเลื่อนม่านไม้ไผ่มาปิดบังสายตาผู้คนเอาไว้และเริ่มทำการรักษา นางใช้กรรไกรตัดเสื้อบริเวณที่มีบาดแผลออก พบว่าบาดแผลค่อนข้างลึกพอสมควรแต่น่าจะไม่โดนอวัยวะภายใน จึงทำการล้างแผล ป้อนโอสถห้ามเลือด เย็บบาดแผลด้วยไหมละลาย และใส่โอสถรักษาบาดแผล ซูเม่ยอยากใช้โอสถรักษาบาดแผลที่เคยใช้กับคนของนาง แต่หากใช้ออกไปนั้นก็เสี่ยงเกินไป จึงใช้ยารักษาแบบทั่วไปแต่มีประสิทธิภาพมากกว่า แม้จะไม่หายทันตา แต่ก็หายเร็วกว่าโอสถปกติเกือบ 2 เท่า

ซูเม่ยทยอยรักษาคนเจ็บตามอาการบาดเจ็บมากน้อย เมื่อรักษาคนใดก็ใช้ม่านบังตาปิดไว้ จนรักษาครบทุกคน ชิงชิงจึงปล่อยให้ญาติคนเจ็บเข้ามาดูญาติของตนได้ ชาวบ้านกรูกันเข้ามาเมื่อได้รับคำอนุญาต ส่วนชิงชิงก็เข้าไปประคองคุณหนูของตนนั่งพักบนเก้าอี้ทันที

“คุณหนูใหญ่จิบน้ำสักหน่อยนะเจ้าคะ” ชิงชิงเปิดกระบอกน้ำจากวัสดุแปลกตาที่ได้จากท่าเรือพวกผมทอง รินน้ำใส่จอกชาเล็กๆ ยื่นให้ซูเม่ย

“...” ซูเม่ยรับไปยกขึ้นจิบช้า เมื่อน้ำไหลลงผ่านลำคอไปร่างกายของนางเหมือนได้รับการฟื้นฟูจากความเมื่อยล้า เพราะน้ำในกระบอกคือน้ำวารีมรกตแบบไม่ผสมนั่นเอง

“คุณหนูใหญ่ตวนมู่ หมู่บ้านของเรายามนี้ไม่มีสิ่งมีค่าใดตอบแทนนอกจากลูกพลับแห้งจานนี้ หากคุณหนูไม่รังเกียจ...” ซูเม่ยรีบเอ่ยขัดท่านป้าซึ่งเป็นภรรยาของหัวหน้าหมู่บ้านทันที เพราะนางไม่เคยรังเกียจคนที่มอบสิ่งใดให้ แม้เป็นของเล็กน้อย หากมอบด้วยใจนางย่อมยินดี

“ท่านป้าอย่าพูดเช่นนี้ ข้าจะรังเกียจน้ำใจจากชาวบ้านได้อย่างไร งั้นข้าไม่เกรงใจรับน้ำใจนี้ไว้สักลูกหนึ่ง ที่เหลือท่านก็แบ่งให้เด็กๆเถิด ข้ากินนิดเดียวก็อิ่มแล้วแต่เด็กๆคงหิวแล้วเป็นแน่” ซูเม่ยรับลูกพลับเพียงหนึ่งลูกก่อนจะบิดออกเป็นสองส่วน ยื่นให้ชิงชิง และเลื่อนจานลูกพลับที่เหลืออีก 4-5 ลูกกลับคืนไป พยักเพยิดใบหน้าไปที่เด็กๆที่มองจานและลูบท้องของตนอยู่ไม่ไกล

“ขายหน้าจริงเชียวเด็กพวกนี้” ภรรยาหัวหน้าพูดขึ้นก่อนจะมองค้อนเด็กๆซูเม่ยมองกิริยาเช่นนั้นของภรรยาหัวหน้าหมู่บ้านด้วยแววตาขบขัน ท่านป้าผู้นี้เป็นสตรีปากร้ายใจดีคนหนึ่งสินะ

“ชิงชิง เจ้าไปยกกล่องอาหารในรถม้ามาสัก 3 กล่อง อย่าลืมบอกคนของเราด้วยว่ามีอาหารอยู่ในรถม้า” ซูเม่ยเมื่อเห็นว่าใกล้เที่ยงแล้วจึงสั่งให้สาวใช้ของตนไปหยิบกล่องอาหารลงมาแจกจ่ายให้กับชาวบ้านก่อน ซึ่งนางเหมาซาลาเปามาจากในตัวเมืองนับ 10 ร้านเลยเชียว

“เจ้าค่ะคุณหนูใหญ่” ชิงชิงเมื่อฟังคำสั่งเรียบร้อยก็จากไปอย่างรวดเร็ว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel