บท
ตั้งค่า

บทที่ 8 รับมือภัยพิบัติ3

บทที่ 8 รับมือภัยพิบัติ3

“ขออภัยนายท่านแทนพวกเด็กๆแล้ว” ตาเฒ่าหลิวโค้งศีรษะขออภัยที่เด็กๆ เสียมารยาทส่งเสียงขัดไม่หยุด ก่อนจะหันไปปรามเด็กๆสองสามคำ

“อ่า นอกจากอาหารแล้ว ก็มีที่อยู่อาศัย มีเงินค่าตอบแทนรายเดือนจากการทำงาน และหากเจ็บป่วยก็รักษาโดยไม่ต้องเสียเงิน ส่วนงานมีมากมายเป็นงานไร่ งานสวน เลี้ยงสัตว์ และหลังจากหน้าหนาวก็มีสวนสมุนไพรที่ยังไม่ได้เปิดรับคนงาน ทุกคนสามารถทำงานตามความสามารถของตัวเองได้”

หูอันฉีอธิบายรวบรัดให้เข้าใจง่ายมากยิ่งขึ้น เพราะขอทานส่วนใหญ่มักกลัวถูกหลอกไปขายเป็นทาสจึงไม่ค่อยไว้ใจผู้ใดมากนัก แต่ตัวเขาเปิดด้วยความจริงใจ พวกเขาจึงปลดระวางความระแวดระวังลงบ้าง

“แต่เด็กๆบางคนอาจจะยังไม่สามารถทำงานเต็มกำลังได้ จะไม่ลำบากจวนตระกูลตวนมู่มากไปหรือไม่” หญิงวัยกลางคนผู้หนึ่งถามขึ้น

หูอันฉีได้ฟังก็รู้สึกดีกับคนกลุ่มนี้ไม่น้อยที่ไม่เห็นแก่ความสุขสบายของตน ยังนึกเห็นใจไปถึงผู้อื่นด้วย จึงพูดสิ่งที่พวกเขาจะต้องตอบตกลงเมื่อได้ฟังแล้ว

“เด็กๆคนใดที่มีอายุตั้งแต่ 5 หนาวไม่เกิน 20 หนาว หากมีใจจะทำงานกับทางจวนตระกูลตวนมู่ คุณหนูใหญ่จะจัดให้มีการเล่าเรียนอ่านเขียนอักษร ใครที่สนใจวิชายุทธ์ก็จะมีการฝึกสอนให้ เพราะกิจการของตระกูลตวนมู่ยังขาดคนที่มีความรู้ความสามารถอีกมาก”

เมื่อได้ฟังสิ่งที่หูอันฉีพูดไป ทุกคนก็ตกอยู่ในภวังค์ความคิดอีกครั้งแต่ไม่นานนักผู้เฒ่าหลิวหยางที่เป็นหัวหน้าในกลุ่มคนไร้บ้านก็ให้คำตอบทันที

“ตกลง พวกเราจะย้ายไปอยู่จวนตระกูลตวนมู่ขอรับ”

“ท่านผู้เฒ่าตัดสินใจได้ดีแล้ว” หูอันฉีกล่าวขึ้นมาอย่างยินดี ก่อนจะเห็นอาตงที่เพิ่งกลับมาจากซื้อซาลาเปาก็รีบรับของมายื่นให้ผู้ใหญ่ที่นั่น

“ ซาลาเปาร้อนๆ นี้แจกจ่ายให้ทุกคนเถิดจะได้มีเรี่ยวแรงขึ้นมาบ้าง อีก 3 วันข้าจะมารับทุกคนที่นี่ไม่เกินยามเฉิน (09.00 น.)” ผู้ใหญ่ทุกคนพยักหน้าอย่างเข้าใจ

เด็กๆเมื่อเห็นอาหารก็ต่อแถวมารับทันที ไม่ได้กรูกันเข้ามา บ่งบอกถึงการสอนสั่งที่ดี บางคนถึงกับร้องไห้เมื่อกัดซาลาเปาเจอเนื้อสัตว์มันวาวหอมกรุ่น ผู้ใหญ่บางคนก็พลอยน้ำตาซึมกับอาหารที่ได้รับ

หูอันฉีเดินไปที่ผู้เฒ่าหลิวหยางอีกครั้งก่อนจะมอบเงินจำนวนหนึ่งให้เขาเก็บไว้ พร้อมทั้งถุงชุดเสบียงจำนวนหนึ่ง

“ก่อนจะถึงวันที่ข้าจะมารับ ท่านผู้เฒ่าก็ใช้เงินจำนวนนี้หาซื้ออาหารสำหรับทุกคนให้ได้กินอิ่ม ชุดเสบียงเหล่านี้ก็ใช้อย่างเต็มที่ไม่ต้องประหยัดนะขอรับ ให้ทุกคนได้กินครบ 3 มื้อถึงจะดีต่อสุขภาพ”

หูอันฉีกล่าวสำทับอีกครั้งก่อนจะจากไปพร้อมเกวียนที่ว่างเปล่า ทุกคนที่อยู่ในวัดร้างต่างมองท้ายเกวียนจนลับตา และคาดหวังว่าพวกเขาจะกลับมารับตามสัญญา

ในระยะเวลาการแจกจ่ายเครื่องกันหนาว และชุดเสบียงในเวลา 3 วันผ่านพ้นไปได้ด้วยดี แม้มีปัญหาบ้างอย่างครอบครัวใหญ่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ที่อยู่ด้วยกันทั้งบ้านใหญ่ บ้านรอง และบ้านสาม โดยบ้านใหญ่เป็นผู้มารับของก่อน บ้านรองตามมาอีกวัน พบว่าบ้านใหญ่ได้รับของในส่วนของพวกเขาไปแล้วจึงเกิดเรื่องขึ้น เนื่องจากบ้านรองของพวกเขาไม่เคยได้รับของที่แจกจ่ายไปแม้แต่ชิ้นเดียว ท่านเจ้าเมืองจึงมาตัดสินด้วยตนเอง สุดท้ายก็ทำการแยกบ้านให้ครอบครัวนี้ และยึดของจากบ้านใหญ่คืนให้บ้านรอง และบ้านสาม หากไม่ครบถ้วนต้องชดเชยเป็นเงินให้กับทั้งสองบ้าน นับว่าวุ่นวายพอสมควร

และมีเหตุการณ์เช่นนี้ให้ท่านเจ้าเมืองและรองเจ้าเมืองปวดหัวอีกหลายครอบครัว จนแผนการเข้าหาลูกสะใภ้จำต้องพับเก็บไปก่อน

“คนไร้บ้านมีเพียงกลุ่มเดียวคือ กลุ่มที่วัดร้างทางทิศใต้ วันพรุ่งนี้ข้าน้อยจะไปรับมาที่จวนขอรับ” หูอันฉีที่เพิ่งจะมีโอกาสรายงานเรื่องนี้แก่คุณหนูใหญ่

“อ่า ข้าป่วยมา 2 วันต้องลำบากท่านลุงอันฉีแล้ว” ซูเม่ยที่เพิ่งฟื้นไข้ก็นึกเห็นใจท่านลุงผู้นี้ไม่น้อยที่ต้องวิ่งวุ่นงานหลายอย่างแทนนาง

“ไม่ลำบากอันใดขอรับยังมีคนคอยช่วยข้าน้อยอีกมาก คุณหนูมิต้องเป็นกังวล”

“เช่นนั้นก็ดีแล้ว เรื่องที่พักที่เตรียมให้พวกเขาเพียงพอหรือไม่” ซูเม่ยที่ตอนนี้กังวลเรื่องที่พัก เพราะคนที่มาก็นับ 100 คนทีเดียว หากมิใช่หน้าหนาวน่าจะทำอะไรสะดวกกว่านี้

“เพียงพอขอรับ แต่อาจจะแออัดไปสักหน่อย หน้าหนาวพ้นไปก็ได้ขยับขยายแล้วขอรับ”

“นั่นสินะ แค่ระยะ 2 -3 เดือน อย่างไรก็อยู่แต่ในห้องได้เท่านั้นในช่วงนี้” ซูเม่ยที่คิดตามก็พยักหน้าเบาๆ พวกเขาเหล่านั้นเห็นว่าเคยลำบากมามาก อยู่ในวัดร้างอัตคัดขัดสน คงมิรังเกียจห้องพักเล็กๆของนางหรอกกระมัง

หากหูอันฉีได้ยินคงบ่นออกมาทันที

‘อันใดเรียกว่าเล็ก ห้องพักคนงานห้องหนึ่งอยู่ได้ราว 10 คน เล็กที่ไหนกันคุณหนู!!!!’

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel