บท
ตั้งค่า

บทที่ 8 รับมือภัยพิบัติ2

บทที่ 8 รับมือภัยพิบัติ2

เมื่อถึงวัดร้างติดกำแพงเมืองทิศใต้ สิ่งที่ปรากฏในสายตาของหูอันฉี ช่างน่าเวทนานัก วัดร้างที่ผุพังจนแทบเรียกว่าซากปรักหักพัง และเด็กนับร้อยที่บดเบียดกันเพื่อบรรเทาความหนาวเย็น ร่างกายผ่ายผอมเพียงหนังหุ้มกระดูก เสื้อผ้าที่แทบจะกันลมปกติไม่ได้เลยด้วยซ้ำ ไม่ต้องพูดถึงลมหนาว หากพายุหิมะมาเยือนทุกชีวิตที่นี่อาจจะไม่มีผู้ใดรอดเลยก็เป็นได้

“พวกเจ้าเอาของไปแจกจ่ายให้เด็กๆก่อน” หูอันฉี เมื่อเห็นเด็กๆมองของในมือของพวกเขาก็รีบส่งลูกน้องนำของไปแจกจ่ายทันที

“ขอรับ หัวหน้าหู” เหล่าลูกน้องเองเมื่อเห็นสภาพอันน่าสลดก็เร่งทำตามคำสั่งทันที

“อาตง เดี๋ยวเจ้านำเงินนี้ไปซื้อซาลาเปามา 300 ลูก” หูอันฉีควักเงินส่วนตัวให้ลูกน้องที่ยืนอยู่ใกล้ๆเพื่อซื้ออาหารอุ่นๆ สำหรับทุกคนที่นี่

“ขอรับ” เมื่อรับเงินอาตงที่หัวหน้าหูเรียกก็รีบวิ่งฝ่าลมหนาวออกไปทันที

เด็กๆขอทานที่เห็นว่ามีคนนำของมาแจกจ่ายก็ดีใจมาก หลังจากที่ผู้เฒ่าหลิวหรือหลิวหยางออกไปตามข่าวว่ามีจวนเศรษฐีตระกูลตวนมู่มีใจอยากช่วยเหลือชาวเมืองหยางให้ผ่านหน้าหนาว ต่อสู้กับพายุหิมะที่ทางการประกาศเมื่อวานนี้ ระหว่างรอเสบียงความช่วยเหลือจากทางการที่อาจจะมามิทันการ

ซึ่งคราแรกที่รู้ข่าวพายุหิมะทุกคนที่นี่ต่างเตรียมใจไว้แล้วว่าคงไม่อาจผ่านพ้นหน้าหนาวนี้ไปได้เป็นแน่ แต่จู่ๆก็มีประกาศแจกจ่ายเครื่องกันหนาวพร้อมเสบียง ทำให้มีประกายความหวังขึ้นมาบ้าง แต่ก็ไม่แน่นักว่าพวกเขาจะได้รับแจกด้วยหรือไม่ เพราะพวกเขาเป็นแค่ขอทานไร้บ้านเท่านั้น

“ท่านลุง ผ้าห่มอุ่นๆนี่ ท่านให้พวกเราจริงหรือเจ้าคะ” เสียงเล็กๆของเด็กสาวคนหนึ่งที่มอมแมมจนแทบมองไม่ออกว่าเป็นหญิงหรือชายถ้าไม่ได้ยินเสียงเล็กๆนั่น นางถามขึ้นอย่างไม่มั่นใจ ร่างกายเล็กเกร็นราวเด็กไม่เกิน 3 หนาว ทำเอาบุรุษที่มาจากจ่ายสิ่งของอดรู้สึกสงสารจับใจมิได้

“ใช่แล้วเด็กน้อย ของพวกนี้นำมาให้พวกเจ้าทุกคน เอาล่ะต่อแถวมารับเสื้อกันหนาวกันคนละตัว ผ้าห่มอาจจะต้องใช้ร่วมกันไปก่อน” เด็กๆเมื่อได้ยินดังนั้นก็พยุงกันลุกขึ้นมารับของแจก แม้อ่อนแรงเพียงใดก็ตาม เนื่องจากพวกเขาไม่ได้ทานอาหารนั่นเอง

เสียงเด็กๆ พากันโอ้อวดเสื้อกันหนาวตัวใหม่ ดังไปทั่วบริเวณท่ามกลางความเงียบของสถานที่รกร้าง หูอันฉีเข้าไปคุยกับผู้ใหญ่ที่นั่นเพื่อสอบถามบางอย่างทันที

“ท่านผู้เฒ่า พวกเจ้าทุกคน ข้าหูอันฉีเป็นหัวหน้าผู้คุ้มกันของจวนตระกูลตวนมู่ ข้าพูดตามตรงสถานที่นี้อาจจะไม่อาจรับแรงพายุหิมะได้ และไม่อาจผ่านพ้นหน้าหนาวได้ ทุกคนยินดีที่จะย้ายออกจากที่นี่หรือไม่”

หูอันฉีกวาดตามองทุกคนที่เงียบเสียงลงทำท่าครุ่นคิด โดยเฉพาะเด็กที่พ้นวัย 10 หนาวขึ้นไปตลอดจนผู้ใหญ่ต่างจมอยู่กับความคิดของตน เพราะในใจของพวกเขาแม้ได้รับของแจก แต่วัดร้างแห่งนี้ก็ไม่ใช่ที่ที่ปลอดภัยจริงๆ แล้วพวกเขาเลือกอันใดได้ล่ะ

“ถ้าย้ายแล้ว พวกเราจะไปอยู่ที่ใดหรือ” ชายวัยกลางคนผอมบางคนหนึ่งพูดขึ้น ขณะที่กำลังประคองร่างเล็กๆของเด็กคนหนึ่งในอ้อมแขน

“จวนตระกูลตวนมู่!!!” หูอันฉีตอบชายวัยกลางคนผู้นั้นทันที พร้อมกับเดินเข้าไปใกล้ๆ ดูเด็กที่ชายผู้นั้นประคองไว้ แม้อยากพูดภารกิจที่คุณหนูมอบหมายให้เสร็จสิ้น แต่ดูท่าทางเด็กคนนั้นจะอาการน่าเป็นห่วง

“เขาเป็นไข้หนาวสั่นใช่หรือไม่” หูอันฉีเมื่อเห็นอาการสั่นสะท้านไปทั้งร่างของเด็กชายก็ถามขึ้นทันที

“ข้าไม่ทราบขอรับ บุตรชายข้าเป็นเช่นนี้มา 2-3 วันแล้ว ไม่ดีขึ้นเลย” ชายวัยกลางคนผู้นั้นตอบด้วยความกังวลทันที เพราะปีที่แล้วเขาก็ได้สูญเสียภรรยาไปจากอาการเช่นนี้เหมือนกัน

หูอันฉีเมื่อได้ฟังดังนั้นก็ล้วงขวดโอสถที่บรรจุโอสถไว้ราว 100 เม็ด เขาเทโอสถ 1 เม็ดออกมาก่อนจะยื่นให้บิดาของเด็กป้อนให้ลูกของตัวเอง ชายผู้นั้นไม่ลังเลป้อนโอสถให้ลูกชายของเขาทันทีเพียงไม่ถึง 5 ลมหายใจ ร่างที่สั่นเทาของเด็กน้อยก็บรรเทาลง และหายใจอย่างสม่ำเสมอ สร้างความตื่นตะลึงให้คนที่อยู่ที่นั้นทันที หูอันฉีจึงรีบอธิบายสรรพคุณของยา

“ขวดนี้คือโอสถแก้ไข้หนาวสั่นและคลายความหนาวเย็น ให้คนที่มีอาการเป็นไข้ ร่างกายสั่นเทา กินวันละ 3 ครั้ง ครั้งละ 1 เม็ดหลังอาหารติดต่อกันเป็นเวลา 5 วัน ” หูอันฉียื่นขวดโอสถนั้นให้ชายคนนั้นทันที

“ขอบพระคุณขอรับนายท่าน ชาตินี้ข้าจะไม่ลืมบุญคุณนี้เลย ขอบพระคุณขอรับ” ชายผู้นั้นเมื่อได้รับโอสถก็ร้องไห้ออกมา พร้อมคุกเข่าโขกศีรษะให้หูอันฉีทันที

หูอันฉีเห็นดังนั้นก็รีบตรงเข้าไปฉุดชายผู้นั้นให้ลุกขึ้นจากพื้นที่หนาวเย็น

“ไม่ต้องโขกศีรษะให้ข้าหรอก ที่จวนตระกูลตวนมู่เราไม่มีธรรมเนียมเช่นนี้ คุณหนูใหญ่ของเรายึดถือเรื่องความเท่าเทียมกันของคนยิ่งนัก และยานี่ก็เป็นสิ่งที่คุณหนูใหญ่เตรียมไว้เผื่อมีผู้เจ็บไข้ได้ป่วยต้องช่วยเหลือ”

“ ขอบพระคุณคุณหนูใหญ่ตวนมู่แล้ว แต่เรื่องย้าย.....” ผู้เฒ่าหลิวหยางกล่าวขอบคุณแทนทุกคน และยังมีความสงสัยเรื่องที่จะย้ายออกจากที่นี่ไปอาศัยจวนตระกูลตวนมู่

“เรื่องย้ายไปจวนตระกูลตวนมู่ หากทุกคนเต็มใจจวนตระกูลตวนมู่ย่อมต้อนรับทุกคน จวนของเรามีอาหารให้ครบ 3 มื้อ...”

“ 3 มื้อ!!!!” ทุกคนฟังมิทันจบก็อุทานขึ้นอย่างพร้อมเพรียงกัน อาหารสำหรับพวกเขาสำคัญมาก ความอดอยากเป็นบาดแผลของทุกคนที่นี่มากมายนัก

“ใช่แล้ว 3 มื้อ มื้อเนื้อ 2 มื้อต่อวัน”

“เนื้ออออออ!!!” เด็กๆตาโต ต่างนึกฝันถึงรสชาติเนื้อที่ไม่เคยลิ้มลอง แค่เคยได้กลิ่นตามตลาดในเมืองเท่านั้น แต่รู้ว่ามันต้องอร่อยมาก

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel