บทที่ 6 ขุมทรัพย์บนเขาพร้อมกับเรื่องราวอันน่าตกใจ3
บทที่ 6 ขุมทรัพย์บนเขาพร้อมกับเรื่องราวอันน่าตกใจ3
“โสมคน โสมคน และโสมคน” ซูเม่ยนั่งลงช้อนมือใต้ใบสมุนไพรและพิจารณาดอกสีแดงที่ชูช่อ ก่อนจะเอ่ยออกมาเบาๆแต่ผู้ฝึกยุทธ์ย่อมได้ยินชัดเจน
ทุกคนมองไปยังเจ้านายสาวอย่างพร้อมเพรียง ก่อนจะมองสมุนไพรดอกแดงๆที่อัดแน่นเต็มโถงนี้ นี่มัน...มากมาย มากจนเอามากินเล่นทั้งปีทั้งชาติยังได้เลย
‘ใครว่า โสมคนมีเพียงเชื้อพระวงศ์ที่ได้ครอบครองที่พวกเขาเห็นคือโคตรดงโสม!!!’ พวกเขาเปิดหูเปิดตาแล้วคิดไม่ผิดที่เดินทางมาพบท่านหูอันฉีมาอาศัยจวนตระกูลตวนมู่
‘คุณหนูใหญ่ช่างเก่งกาจ เห็ดหลินจือเอย โสมคนเอย”
“ทุกคนขุด ขุดเฉพาะต้นที่มีดอกสีแดงที่บานแล้วนะเจ้าคะ ที่เหลือปล่อยให้มันโตก่อน สรรพคุณทางยาจะได้ดีที่สุด” ซูเม่ยสั่งพลาง แต่มือก็ขุดพลางอย่างระมัดระวัง เพราะโสมคนมักจะเปราะบางและช้ำง่าย สรรพคุณทางยาจะดีที่สุดหากหัวของมันมีสภาพที่สมบูรณ์อย่างต้นที่นางขุด
“โสมคน 500 ปี”
“....” ทุกคนหันขวับไปมองโสมหัวแรกที่ถูกขุดขึ้นมา ซึ่งใหญ่เท่าแขนคนเลยทีเดียว มีแขนและขาคล้ายคน ต้นขาวอวบ ที่สำคัญอายุ 500 ปี แต่ละคนนิ่งเงียบก่อนจะลงมือขุดอย่างรวดเร็ว ด้วยความอยากรู้ว่าหัวที่ตนขุดนั้นอายุเท่าไหร
“โสม 100 ปี 85 ต้น”
“โสมมากกว่า 100 ปี แต่ไม่ถึง 500 ปี 68 ต้น”
“โสม 500 ปี 54 ต้น”
“โสมมากว่า 500 ปี แต่ไม่ถีง 1000 ปี 45 ต้น”
“โสม 1000 ปี 30 ต้น”
“ละ...และ โสมมากกว่า 1000 ปี 18 ต้น”
‘แม้แต่ฮ่องเต้แต่ละแคว้นยังมีโสมอายุ 100 ปีไม่เกิน 3 ต้นเลย พวกเขามาอยู่กับตัวตนใดกันแน่เนี่ย’ ต่างคนต่างคิดไปในทางเดียวกัน โดยเฉพาะท่านลุงทั้งสามที่มองด้วยความชื่นชมและนับถือ ช่างคล้าย...คล้ายกับคนผู้นั้นเหลือเกิน
“เรารวยแล้วเจ้าค่ะท่านลุง เอาไปประมูลสักต้นสองต้นก็เลี้ยงคนงานไปได้เป็นสิบปีแล้วเจ้าค่ะ คิคิ” ซูเม่ยคิดอย่างดีใจ นางหลุดทุนก็คราวนี้ละแล้วยังได้กำไรเป็นกอบเป็นกำอีกด้วย
“แล้วคุณหนูจะขนกลับอย่างไรขอรับ กระบุงนี้ใส่ได้กระบุงหนึ่งก็ไม่เกิน 3 ต้นเท่านั้น” หูฮุ่ยซิ่วทักท้วงขึ้นอย่างจนใจ เพราะขุดเพลินจนลืมคิดวิธีนำกลับออกจากป่า
“อ่า...” เอาไงดีละที่นี้ ซูเม่ยใคร่ครวญในใจ ถ้ากวาดเข้ามิติก็ต้องเปิดเผยความลับ แต่หากจะต้องขนออกไปด้วยคนก็ต้องใช้เวลานาน และต้องเดินไปมาหลายรอบ หากตามคนมาช่วย คนก็จะรู้แหล่งที่มาของมันมากขึ้น
‘แค่พวกท่านลุงก็คงไม่เป็นไร ต่อไปจะทำอันใดก็สะดวกมากขึ้น’ ซูเม่ยตัดสินใจจะเผยความลับเฉพาะกับท่านลุงทั้งสาม ส่วนคนที่เหลือคงต้องใช้เจ้าสิ่งนั้น....
ว่าแล้วซูเม่ยก็ลงมือกวาดโสมทั้งหมดที่กองอยู่บนพื้นถ้ำหายวับไปในมิติ จนคนที่อยู่ในโถงถ้ำทั้งหมดถึงกับอ้าปากค้าง เพราะภาพตรงหน้าช่างน่าอัศจรรย์ราวกับการเสกของเทพเซียนในตำราปรัมปรา
‘โสมหายไปได้อย่างไร หายไปไหน คุณหนูใหญ่ทำได้อย่างไร’ และคำถามอีกมากมายเกิดขึ้นในใจของทุกคน โดยเฉพาะท่านลุงทั้งสาม แต่เมื่อเห็นสายตาของคุณหนูที่บ่งบอกว่า ‘อย่าเพิ่งถามตอนนี้’ พวกเขาก็พยักหน้าอย่างเข้าใจ
“เอาล่ะ กลับออกไปเถอะ คนข้างนอกคงกังวลใจแล้วที่พวกเราหายเข้ามาเสียนานเช่นนี้” ซูเม่ยเอ่ยขึ้นฉุดสติของทุกคนเข้าร่าง พวกเขาหันมองหน้าหัวหน้าของตน เมื่อไม่เห็นท่าทีใดก็เตรียมออกจากถ้ำหลังน้ำตกนี้ทันที แม้สติจะยังไม่เต็มส่วนกันก็ตาม
ทุกคนทะยานออกมาถ้ำหลังน้ำตก ท่ามกลางความโล่งอกของคนด้านนอกที่รอคอยอย่างกังวลเพราะผ่านพ้นไปเป็นชั่วยามแล้วยังไม่มีใครส่งข่าวออกมา
เท้าบางแตะริมฝั่งเพียงเสี้ยวลมหายใจ ซูเม่ยก็วาดมือเก็บเห็ดหลินจือทั้งหมดเข้ามิติเช่นกัน ทุกคนที่อยู่ริมฝั่งเพิ่งคลายความกังวลใจก็ตกตะลึงจนลมหายใจสะดุดกลางคันอีกครั้ง ส่วนพวกที่เจอเป็นครั้งที่สองที่สติกลับมาไม่เต็มส่วนยังไม่ชินกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็มีอาการมิต่างกัน ยกเว้นบุรุษระดับหัวหน้าทั้งสามที่พอควบคุมอาการได้แล้วจึงแค่นิ่งเฉยไปเท่านั้น
และไม่ทันที่คนทั้งหมดจะตั้งตัว นางก็ซัดเข็มเคลือบยาลบความจำเข้ากลางหน้าผากของทุกคนยกเว้นท่านลุงทั้งสามของนาง ก่อนที่พวกเขาจะคล้ายคนเลื่อนลอยไปชั่วขณะทันที
หูอันฉี หูฮุ่ยซิ่ว หูฮุ่ยหมิ่น มองการกระทำของหญิงสาวตรงหน้าอย่างตกใจ เมื่อเห็นลูกน้องที่โดนซัดเข็มเหล่านั้นคล้ายคนไม่มีสติทั้งที่ยังลืมตาก็มีความหวาดเกรงแวบเข้ามา ก่อนจะคุณหนูใหญ่ของพวกเขาจะเอ่ยขึ้นท่ามกลางความเงียบ
“พวกเขาแค่กำลังถูกลบความจำก่อนหน้า มิเป็นอันตรายถึงชีวิตเพียง 1 เค่อเท่านั้น ระหว่างนี้ก็มาคุยกันหน่อยเถิดเจ้าค่ะ” ชายวัยกลางคนทั้งสามเมื่อฟังดังนั้นก็คลายความกังวล ต่างพนักหน้าเห็นด้วยที่จะลบความทรงจำเหล่านั้น ด้วยยาที่ไม่เคยรู้ว่ามียาเช่นนี้อยู่ด้วย เรื่องที่เหลือเชื่อและวิเศษไม่สมควรจะมีผู้รับรู้มากมายจริงๆ
ซูเม่ยเริ่มเล่าเรื่องตั้งแต่นางถูกขายแก่หอนางโลมอีกครั้ง จนถึงจุดสำคัญของเรื่องที่นางตายแล้วฟื้นขึ้นมาในป่า พร้อมความทรงจำและความรู้มากมาย รวมถึงมิติ ซึ่งเปรียบเสมือนขุมทรัพย์ที่ทำให้นางและครอบครัวเปลี่ยนแปลงไป โดยละเรื่องโลกเก่า เทพชะตา ดวงจิตต่างๆเอาไว้
พวกเขาฟังเรื่องเหนือธรรมชาติ เหนือกฎเกณฑ์ใดๆที่เกิดขึ้นกับหญิงสาวเบื้องหน้า ก็ได้แต่คิดไปในแนวทางเดียวกันว่าเป็นเพราะเทพเซียนบนสวรรค์เห็นใจจึงมอบสิ่งวิเศษนี้ให้กับเด็กสาวที่น่าสงสารคนนี้
คนที่โดนลบความทรงจำหายจากความเลื่อนลอยก็ทำตัวปกติคล้ายกับเพิ่งเสร็จจากการพัก และพากันออกเดินทางออกจากป่า ชายวัยกลางคนทั้งสามต่างยอมใจกับประสิทธิภาพของยาลบความจำ
แต่เมื่อกลับถึงจวนก็เกิดความวุ่นวายขึ้น เนื่องจากคุณหนูใหญ่ของจวนเป็นลมหมดสติไปขณะกำลังเดินไปยังโรงครัวเพื่อดูเรื่องอาหารเย็น จนต้องตามหมอกันวุ่นวายไปหมด เจียงลู่คงแทบจะหิ้วคอหมอชรามาจากโรงหมอด้วยซ้ำ เพราะเกรงว่าคุณหนูของตนจะเป็นอันตรายหากรอท่านหมอชราที่เดินชักช้าเกินไป
“ท่านหมอ พี่ใหญ่เป็นเช่นไรบ้างขอรับ” ซูเหวินที่ยังพอควบคุมอารมณ์อ่อนไหวได้ แตกต่างจากน้องสาวทั้งสองของเขาที่ร้องไห้จ้าจนหลับไปแล้ว เขาเอ่ยถามท่านหมอที่นั่งจับชีพจรพี่สาวของเขาทันที
ท่านหมอตงหยางหมอประจำโรงหมอฟู่ชางที่จับชีพจรของหญิงสาวบนเตียง ถอนมือออกอย่างช้าๆ ก่อนจะหันไปมองเด็กชายที่ถามเขาเมื่อครู่และตอบข้อสงสัยทันที
“คุณหนูท่านนี้ไม่ได้เจ็บป่วยอันใด แค่อ่อนเพลียจากการ...เอ่อ...”
“จากอะไรขอรับ” เหล่าท่านลุงท่านอาต่างกดเสียงต่ำกดดันหมอชรา จนเขาหายใจแทบไม่ออก ก่อนจะรีบเอ่ยตอบทันที
“การตั้งครรภ์ขอรับ”
