บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 17 หรือนางมีพลังภายใน

1 วันต่อมา

ซูเชี่ยวฟื้นขึ้นมาด้วยอาการเมื่อยล้า เจ็บตามเนื้อตามตัวและรู้สึกปวดที่เเขนและขาของนาง ตอนนี้มีรอยเขียวเป็นจ้ำเต็มไปหมดจากการที่หญิงสาววิ่งเพื่อหนีไปตามเฟยซิ่น แต่ก็ไปไม่ถึงหลังจากที่สลบไป1 วัน1 คืนเต็มๆ ทำให้นางรู้สึกสดชื่นมากขึ้น เมื่อสักครู่ตอนนางฟื้นขึ้นมาเจียอี่เข้ามาพอดีและได้บอกกับหญิงสาวว่า ท่านหมอบอกว่านางไม่เป็นอะไรมากแค่นอนพักก็หาย

ซูเชี่ยวหยิบยาต้มสมุนไพร ที่โต๊ะหน้าเตียงนอนตอนที่เจียอี่นำมาให้เมื่อสักครู่นี้เพื่อจะดื่ม แต่นางก็ต้องเบี่ยงหน้าหนีเพราะในถ้วยยามีน้ำสีน้ำตาลเข้มออกไปทางดำ แค่กลิ่นที่โชยขึ้นมาเมื่อยกมาก่อนดื่มลงไปก็รู้แล้วว่ามันจะต้องขมมากแค่ไหน “ข้าไม่ดื่มได้หรือไม่” นางคิดอยู่ในใจ แต่แล้วก็จำใจต้องดื่มเข้าไปเพราะมันเป็นทางเดียวที่จะทำให้นางหายจากอาการที่ปวดตามเนื้อตามตัวตอนนี้ นางใช้นิ้วอีกข้างที่ไม่ได้ยกถ้วยยาบีบที่จมูก ก่อนที่จะกลั้นใจยกยาดื่มในรวดเดียว แต่ก็ดื่มไปได้แค่ครึ่งเดียวเท่านั้นและไอออกมาด้วยความขม

“ขืนข้ากินหมดนี่ น่าจะตายก่อนที่จะหาย” นางพูดกับตัวเองด้วย สีหน้ายับยู่ยี่หลังจากที่กลืนยาลงไป1 อึกใหญ่ และวางอีกครึ่งถ้วยที่เหลือลงบนโต๊ะหน้าเตียงดังเดิม

“คอยดูเถอะลี่หยาง ที่ใดมีเจ้าที่นั่นไม่มีข้า” ซูเชี่ยวพูดเสียงดังออกมาเรียกความมั่นใจของตัวเอง และนั่งกำมือ 2 ข้างทุบไปที่เตียงด้วยความหนักแน่น

“โอ๊ยยยยย “หญิงสาวร้องออกมาด้วยความเจ็บ นางลืมว่าตัวเองตอนนี้ร่างกายปวดที่ตามเนื้อตามตัวจนทำให้เจ็บออกมาหลังจากทุบไปที่เตียงอย่างเเรง

ทางด้านตำหนักหยกขาว ขณะนี้มีชาย 2 คนนั่งขัดสมาธิที่บนเตียง ลี่หยางฟื้นจากการหมดสติไปหลังจากซูเชี่ยวฟื้นได้ไม่นานตอนนี้ร่างกายของเขาถูกรักษาและกินยาถอนพิษไป ทำให้ร่างกายตอนนี้ของเขายังหลงเหลือพิษอยู่ไม่มากและกำลังให้เฟยซิ่นช่วยใช้พลังภายในช่วยเร่งขับพิษออกมา ตามใบหน้าของลี่หยางเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อจำนวนมากผุดขึ้นมา หน้าตาซีดเซียวแต่ยังหลงเหลือความหล่อเหลาให้เห็นอยู่เขาสวมเพียงเสื้อตัวในสีขาว เวลาผ่านไปถึงครึ่งชั่วยามลี่หยางสำลักเลือดออกมา สีเลือดของเขาเป็นสีดำคล้ำจากนั้นเฟยซิ่นจึงหยุดใช้พลังภายในและก้าวลงจากเตียง

“ตอนนี้พิษในร่างกายของท่าน ข้าใช้พลังขับออกมาจนหมดแล้วขอรับ” เฟยซิ่นพูดออกมาด้วยสีหน้าดูเหนื่อย เพราะการใช้พลังภายในช่วยผู้ที่มีพลังมากกว่าตนทำให้เสียเเรงไปมากกว่าช่วยคนปกติ

“ขอบใจเจ้ามาก เจ้ากลับไปพักเถอะ” ลี่หยางเจ้าสำนักวารีพูดด้วยเสียงบางเบาและไอออกมา 2 ครั้ง เฟยซิ่นเพียงทำท่าคารวะและเดินออกไป ด้านลี่หยางตอนนี้พิษในร่างกายของเขาถูกขับออกหมดแล้วหลังจากที่ได้เฟยซิ่นช่วย เพียงแค่ต้องพักผ่อนให้กำลังเพิ่มขึ้นเท่านั้น หากครั้งนี้นางไม่ได้ไปตามเฟยซิ่นมาช่วยได้ทัน เขาอาจไม่มีชีวิตรอดจนถึงตอนนี้ ทำให้เขาตระหนักดีว่าถึงเขาจะมีพลังระดับสูงสุดหรือมากมายแค่ไหนก็ตาม หากเขาประมาทเหมือนครั้งนี้อีกก็อาจจะทำให้เขาต้องจบชีวิตลงง่ายๆ

.

ณ สำนักพฤกษชาติ

กลางห้องโถงหลักของสำนัก มีชายอายุประมาณ 60 กว่าปี สวมชุดสีน้ำตาลเข้มถึงแม้อายุจะมากแล้ว แต่หน้าตาก็ยังดูหนุ่มและร่างกายเเข็งแรงเป็นอย่างมาก สมกับสำนักที่ขึ้นชื่อเรื่องการรักษาและสมุนไพร แต่เบื้องหลังยังลอบศึกษาการใช้พิษเขาไม่ใช่ใครเเต่เป็นเจ้าสำนักพฤกษชาติฮุ่ยเจิน

“อะไรนะ ครั้งนี้ก็ยังไม่สำเร็จอย่างนั้นเหรอ” ฮุ่ยเจินเจ้าสำนักพฤกษชาติตะโกนออกมากลางห้องโถง พร้อมปาตำราลงที่พื้นด้วยความโมโห เมื่อได้ยินลูกน้องของเขามารายงานและเขาได้เสียลูกน้องฝีมือดีอีก 1 คนไป จากการรายงานที่ลูกน้องของเขากล่าวมาพบว่าชายชุดดำ 20 คนและลูกน้องฝีมือดีอีก1 คน นอนเสียชีวิตที่ทางเข้าสำนักวารีหยกตอนที่ไปถึง แถมยังถูกทางสำนักวารีหยกเก็บศพคนที่เสียชีวิต 1 ใน21 คนไป ไม่แน่ทางสำนักวารีหยกต้องการที่จะสืบอะไรจากศพนั้น จนอาจสาวมาถึงตัวของสำนักเขา

“ให้สายที่อยู่ในนั้นจัดการเผาศพนั่นซะ อย่าให้ผิดพลาดเป็นครั้งที่3 เด็ดขาด” ฮุ่ยเจินตวาดสั่งการลูกน้องที่กำลังคุกเข่านั่งลงอยู่กลางห้องโถงแห่งนี้

“ขอรับเจ้าสำนัก”

หลังจากที่ลูกน้องออกไป ฮุ่ยเจินกำหมัดแน่นแล้วทุบไปที่โต๊ะเขียนตำราที่เขากำลังนั่งอยู่อย่างแรง จนมีเลือดซึมออกมาแต่เขาก็ไม่ได้แสดงความเจ็บปวดออกมาเลยแม้แต่น้อย

“เจ้ารอดให้ได้ทุกครั้งแล้วกัน” ฮุ่ยเจินพูดออกมาด้วยสีหน้าโกรธเกรี้ยว จากนั้นลุกขึ้นและสะบัดเสื้อคลุมก้าวเท้าออกจากห้องโถงทันที

.

3 วันต่อมา

ภายในสำนักวารีหยกเกิดเรื่องวุ่นวาย ตอนนี้เกิดไฟไหม้ตำหนักที่ศพคนร้ายถูกเก็บไว้ แต่ไม่นานไฟก็ถูกดับลง

ณ ตำหนักหยกขาว

บริเวณสะพานไม้หลังตำหนักมีชายคุ้นตาคนเดิมนั่งจิบชาด้วยความเพลิดเพลิน ไม่นานก็มีเสียงฝีเท้าวิ่งเข้ามาหาเขาไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นเฟยซิ่นรองเจ้าสำนักคนเดิม

“ตอนนี้ศพที่นำมาถูกเผาแล้วขอรับ” เฟยซิ่นทำท่าคารวะและรีบรายงาน ลี่หยางเพียงพยักหน้า 3วันมานี่เขาพักผ่อนรักษาร่างกาย เพราะการมีพลังสูงสุดและการฝึกฝนด้วยวิชาธาราหวนคืน ที่ใช้พลังจากน้ำช่วยเพิ่มพลังให้เขารวดเร็วมากขึ้น เป็นอย่างที่เขาคาดไม่ผิดว่าคนร้ายที่จู่โจมเขาจะต้องทำลายหลักฐานที่เขานำกลับมา

“จับตัวคนวางเพลิงได้หรือไม่” ลี่หยางเอ่ยปากถามหลังจากหันกลับมาเเละผายมือเป็นการเชิญให้เฟยซิ่นนั่งลงจากนั้นรินชาให้ตัวเองและเฟยซิ่น

“จับได้ขอรับ เป็นอย่างที่ท่านเจ้าสำนักคาดการณ์ เป็นคนของสำนักพฤกษชาติที่แฝงตัวเข้ามา” เฟยซิ่นกล่าวขึ้นเป็นคนของสำนักพฤกษชาติที่แฝงตัวเข้ามาเป็นบ่าวรับใช้ที่นี่จริงๆ

“ดี จัดการคนพวกนั้นให้หมด” ลี่หยางพูดเสียงเรียบ และยกชาขึ้นดื่ม เป็นอย่างที่เขาคิดไม่ผิดว่ามีคนของสำนักพฤกษชาติจริงๆ ที่แอบแฝงตัวอยู่ที่นี่ ไม่งั้นทางนั้นจะรู้การเคลื่อนไหวของเขาได้อย่างไร และการที่เขานำศพกลับมาด้วยไม่ได้ที่จะต้องการสืบสาวหาตัวคนบงการเพราะเขารู้อยู่แล้ว แต่ต้องการจับตัวคนที่แฝงอยู่ที่นี่ เขาคิดอยู่แล้วว่าหากเขานำศพกลับมาทางนั้นต้องสั่งให้คนที่แฝงตัวจัดการกับศพแน่นอน ถึงได้วางแผนให้คนเฝ้าศพในที่ลับตาและปล่อยไม่ให้มีคนเฝ้าที่หน้าตำหนักที่เก็บศพมากนัก

“ครั้งนี้ถือว่าข้าโชคดีที่เจ้ามาช่วยได้ทัน ไม่อย่างนั้นคงไม่รอด” ลี่หยางพูดพลางรินชาให้ตัวเองและเฟยซิ่นอีกครั้ง

“ข้าเพียงเห็นเเสงสีขาวสว่างบริเวณทางกลับสำนัก และมีคนคุ้มกันหน้าประตูเข้ามารายงานว่ามีความผิดปกติ จึงไม่รีบไปดูขอรับ” เฟยซิ่นอธิบายออกไปตามความจริง

“ไม่ใช่ซูเชี่ยวมาบอกเจ้าอย่างนั้นหรือ” ลี่หยางถามเฟยซิ่น ด้วยสีหน้าประหลาดใจ เขาจำได้ถึงตอนนั้นสติเขาจะเลือนหายไปบ้างแต่ก็จำได้ดีว่า เขาถ่วงเวลาให้ซูเชี่ยววิ่งไปขอความช่วยเหลือจากสำนัก

“นางไม่ได้มาพบข้า พอข้าไปถึงก็เห็นชายขุดดำทุกคนนอนตายที่พื้นเต็มไปหมดและเห็นนางที่ประคองท่านอยู่เท่านั้น” เฟยซิ่นรีบพูดไปตามความจริง ลี่หยางเริ่มใช้ความคิด เฟยซิ่นรายงานว่าคนชุดดำทั้งหมดตาย รวมถึงหัวหน้าพวกนั้นก็ตายเช่นกันเพราะศพที่เขานำมาคือหัวหน้าพวกมันที่มีพลังภายใน แถมเฟยซิ่นยังยืนยันว่าเห็นแค่พวกเขา 2 คนอยู่ที่นั่น

“นางว่าอย่างไรบ้าง”

“นางบอกจำเรื่องที่เกิดไม่ได้ขอรับ” เฟยซิ่นตอบออกไปทันที นางที่เจ้าสำนักหมายถึงไม่ใช่ใครก็คือซูเชี่ยวที่อยู่ในเหตุการณ์ของวันนั้น ลี่หยางพยายามคิดถึงเหตุการณ์ในตอนนั้นเพื่อหาว่าใครที่สามารถจัดการกับหัวหน้าชุดดำที่มีพลังภายในได้ แต่ก็ไม่สามารถอธิบายได้เพราะไม่มีทางเป็นไปได้เลย พลังเขาในตอนนั้นที่เหลือมากสุดก็ทำได้แค่ทำให้ชายชุดดำล้มไปได้เท่านั้น เฟยซิ่นทำสีหน้าเหมือนมีอะไรจะพูดแต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าจะพูดดีหรือไม่ เพราะเจ้าสำนักของเขาไม่ชอบซูเชี่ยว เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องส่วนตัวของหญิงสาวเท่านั้น

“เจ้าพูดเถอะ” ลี่หยางที่เห็นท่าทางของเฟยซิ่นจริงพูดขึ้น

“1 เดือนที่ผ่านมา ข้าพบว่าซูเชี่ยวนางเอาแต่ศึกษาเกี่ยวกับพลังภายใน ในการบันทึกการยืมตำราในตำหนักใฝ่คุณธรรมมีการบันทึกทุกๆ 2 วัน” เฟยซิ่นกล่าวออกไปในที่สุด ลี่หยางที่ได้ยินก็แปลกใจนางที่ไม่มีวรยุทธจะนำไปทำไม และตอนนั้นเขาจำได้ดีว่าเขาก็เห็นว่านางยืมหนังสือเกี่ยวกับการฝึกวรยุทธเช่นเดียวกัน

“หรือนางมีพลังภายใน” ลี่หยางพูดขึ้นหลังจากเงียบไปนาน คนร้ายที่ตายไปครั้งนี้หากเป็นนางจริงๆ ที่จัดการก็เป็นไปได้ เพราะในตอนนั้นมีเขาเเละนางเพียง 2 คน และเฟยซิ่นที่ตามมาช่วยไม่ทัน

“เป็นไปไม่ได้ ตอนที่นางปลุกพลังภายในเมื่อตอนเจ็ดขวบข้าก็อยู่ด้วยขอรับ”

“เจ้าส่งคนคอยจับดูพฤติกรรมของนางให้ดี”

“ขอรับ” เฟยซิ่นรับคำ และลุกออกไป ลี่หยางเพียงลุกขึ้นและทอดสายตาไปทางเเม่น้ำที่สุดลูกหูลูกตาด้วยอารมณ์ที่หลากหลา

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel