บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 13 มีฝีมือนี่สาวน้อย

ซูเชี่ยวหลังจากลงชื่อเสร็จก็ย่อกายไปทางลี่หยางเล็กน้อย และเดินออกมาจากตำหนักใฝ่คุณธรรมโดยไม่สนใจว่าชายหนุ่มมีเรื่องจะคุยด้วยหรือไม่ "อยู่ใกล้เขาทีไรมักมีเรื่องทุกที ข้าจะต้องอยู่ให้ห่างเขาเข้าไว้" ซูเชี่ยวพูดกับตัวเองในใจ

“หยุดก่อน” เสียงทุ้มกล่าวออกมาเรียบๆ หลังจากเห็นว่าซูเชี่ยวรีบเดินออกมาเพราะต้องการหนีตน แต่ก่อนนางไม่เป็นเช่นนี้ ทุกครั้งที่เจอเขาหากไม่พยายามมาอยู่ข้างกายก็จะตามมาเอาอกเอาใจ แต่เดี๋ยวนี้หากไม่บังเอิญเจอกันก็ไม่เคยเห็นหน้านางเลย เวลาที่เจอนางมักจะหลบเขา ไม่ก็พยายามหนีเหมือนกลัวอะไรเขาอย่างนั้น

“ท่านเจ้าสำนักต้องการเสื้อคลุมคืนใช่ไหมเจ้าคะ เดี๋ยวข้าเอาไปคืนกับท่านรองเจ้าสำนักนะเจ้าคะ หากไม่มีอะไรแล้วข้าขอตัวก่อนนะเจ้าคะ” ซูเชี่ยวพูดติดกันรัวจนเจ้าสำนักลี่หยางไม่สามารถแทรกพูดได้ หลังจากพูดเสร็จหญิงสาวทำท่าคารวะและออกมาเลย โดยไม่ได้มองหน้าเจ้าสำนักลี่หยางเลยแม้แต่น้อย ทางด้านลี่หยางได้แต่ยืนนิ่งอยู่กับที่

“นางมีความลับ” เขาพูดออกมาคนเดียวขณะที่มองตามหลังซูเชี่ยวที่รีบเดินออกไป และยิ้มที่มุมปากเล็กน้อยจากนั้นเดินตรงกลับตำหนักหยกขาว

ด้านซูเชี่ยวหลังจากหนีจากลี่หยางได้ ก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งใจ ตรงกลับที่พักทันทีหญิงสาวรีบปิดประตูลงกลอนให้เรียบร้อย หญิงสาวนำตำราที่ยืมมานั่งเปิดอ่านทีละหน้าอย่างละเอียดเพื่อศึกษาให้เข้าใจเผื่อหากนำไปปฏิบัติแล้วจะได้ไม่ผิดพลาด นางเห็นศิษย์ในสำนักหากผิดพลาดก็ทำให้ตัวเองบาดเจ็บ แต่ไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร ฉะนั้นนางจะต้องอ่านมันหลายๆ รอบเพื่อให้เข้าใจ ซูเชี่ยวใช้เวลาในการเรียนที่ห้องและทบทวนอ่านหนังสือที่ยืมมาเป็นประจำทุกวัน และไม่ลืมที่ไปทำความสะอาดที่ตำหนักใฝ่คุณธรรมทุกวันหลังเลิกเรียน เป็นแบบนี้มา 4 อาทิตย์แล้ว

.

ณ ตำหนักใฝ่คุณธรรม

“ข้ามาทำความสะอาดเช่นเดิมเจ้าค่ะ” ซูเชี่ยวเดินมาบอกผู้คุมห้องตำราเหมือนปกติทุกวัน วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่นางจะมาทำความสะอาด เพราะครบกำหนดที่ถูกทำโทษ และเดินเข้าไปทำความสะอาดเป็นปกติ นางใช้เวลาในการทำความสะอาดประมาณครึ่งชั่วยามก็เสร็จ วันนี้หญิงสาวตั้งใจมายืมหนังสือเพิ่มเพราะหนังสือที่ยืมไป นางอ่านอยู่หลายรอบและท่องจำได้ดีแล้ว ซูเชี่ยวเลือกตำราที่สนใจมา 4-5 เล่มล้วนเป็นเล่มที่เกี่ยวกับพลังภายใน ตอนนี้นางเรียนและเริ่มเข้าใจตามที่อาจารย์ในห้องสอนแล้ว แต่ก็ลองโคจรพลังภายในเล็กๆ อย่างการหมุนเวียนจิตใจให้สงบเวลาถ่ายทอดพลังออกมาเพื่อจะใช้ยังไม่ได้เลยด้วยซ้ำ โดยไม่รู้ว่าเกิดจากสาเหตุใดทั้งที่นางก็ทำตามหนังสือทุกอย่าง โดยที่ไม่ผิดเพี้ยนสักนิดแต่ผลกลับไม่เป็นอย่างที่คิด ซูเชี่ยวมองตำราที่เลือกอย่างพึงพอใจจากนั้นเดินไปด้านหน้าเพื่อลงชื่อยืมอย่างที่เคยทำ ก่อนที่หญิงสาวได้ลงชื่อกลับได้เห็นรองเจ้าสำนักสักก่อน

“คารวะรองเจ้าสำนัก” ซูเชี่ยวพูดและย่อกายลงเล็กน้อยเพราะตอนนี้นางหอบตำราที่หนาเล่มละประมาณ 2 เซนติเมตร ถึง4-5 เล่มไม่สามารถทำมือคารวะได้

“เจ้ามาทำความสะอาดหรือ วันนี้ใช่วันสุดท้ายหรือไม่” เฟยซิ่นยิ้มและเอ่ยถามซูเชี่ยวที่เดินเข้ามา

“ใช่เจ้าค่ะ”

“งั้นพรุ่งนี้เจ้าก็ไปรับป้ายเข้าออกสำนักคืนได้” เฟยซิ่นยังกล่าวด้วยเสียงอ่อนโยน

“ขอบคุณรองเจ้าสำนัก” ซูเชี่ยวตอบกลับเสียงเรียบและย่อกายเล็กน้อยเพื่อไปลงชื่อตำราที่จะยืม เพราะนางหนักมากตอนนี้เฟยซิ่นที่เห็นท่าทางของนางก็ไม่ได้ว่าอะไร หันไปคุยกับผู้คุมเกี่ยวกับตำหนักแห่งนี้ว่าเป็นอย่างไรบ้าง ซูเซี่ยวลงชื่อยืมตำราเสร็จก็เดินออกไปทันที

หลังจากที่ซูเชี่ยวกลับไป

“นางเป็นอย่างไรบ้าง 1 เดือนมานี้ได้ก่อความวุ่นวายหรือได้มาทำงานครบตามกำหนดหรือเปล่า” เฟยซิ่นถามผู้คุมที่ดูแลตำหนักแห่งนี้

“ไม่เลยขอรับ นางทำครบที่ท่านบอกไว้” ผู้คุมกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม 1 เดือนมานี้หญิงสาวคอยช่วยงานเขาตลอด แถมยังไม่ถือตัวพูดคุยกับเขาตามปกติไม่เหมือนข่าวลือที่เขาได้ยินข้างนอก เฟยซิ่นที่ได้ยินเช่นนั้นก็ยังไม่เชื่อ ครั้งที่แล้วเขาลงโทษนางให้ไปทำความสะอาดห้องเรียนแค่ 2 อาทิตย์แต่นางกลับเอาเงินจ้างคนอื่นให้ไปทำแทน ครั้งนี้เขาลงโทษนางไปตั้ง 1 เดือนแต่นางกลับทำจนครบด้วยตัวนางเองโดยที่ไม่บ่นเลยสักคำอย่างนั้นหรือ ด้านผู้คุมมองหน้าเฟยซิ่นที่ยังทำหน้าไม่เชื่อก็รีบพูดขึ้นว่า

“อ้อ หากท่านรองเจ้าสำนักไม่เชื่อดูตำราที่นายืมได้ขอรับ นางจะยืมทุกๆ 2 วันครั้งขอรับ” ผู้คุมพูดพลางยื่นหนังสือที่ไว้คอยบันทึกการยืมตำราให้เฟยซิ่นดู เฟยซิ่นรับหนังสือมาดูทีละหน้าอย่างไม่เชื่อสายตาที่ตัวเองเห็น ในแต่ละหน้าจะมีชื่อซูเชี่ยวลงไว้ทุกหน้าอย่างที่ผู้คุมพูดไม่ผิด แต่สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจมากกว่าก็คือ ตำราทุกเล่มที่นางยืมล้วนเป็นตำราเกี่ยวกับการฝึกฝนพลังภายในทั้งสิ้น แล้วนางจะยืมไปทำอะไรทั้งที่นางไม่มีพลังภายใน เรื่องนี้เขามั่นใจเพราะตอนที่นางปลุกพลังเขาก็อยู่ด้วยและเห็นกับตา เฟยซิ่นยังคงสงสัยแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก เพียงคืนหนังสือแก่ผู้คุมและเดินจากตำหนักใฝ่คุณธรรม

.

วันต่อมา

ซูเชี่ยวหลังจากทานอาหารเช้าเสร็จนางก็กลับมาที่ห้องพักของตัวเอง วันนี้เป็นวันเทศกาลโคมไฟทางสำนักหยุดให้เป็นเวลา 3 วัน ศิษย์ที่บ้านอยู่ใกล้ล้วนพากันกลับรวมทั้งเจียอี่ก็เช่นกัน คนที่บ้านอยู่ไกลก็ออกไปเที่ยวเล่นที่ตลาดด้านนอกสำนัก ส่วนนางที่บ้านอยู่ไกลเช่นกันก็ทำได้แค่ส่งจดหมายกลับไป นางยังไม่เคยเจอกับพ่อและแม่ของเจ้าของร่างนี้เลยสักครั้ง แต่ก็ทำหน้าที่เเทนนางอย่างเต็มที่และสุดความสามารถ ในภพก่อนนางโตมาท่ามกลางสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ทำงานและส่งตัวเองเรียนจนจบ แต่ในร่างนี้ผู้มีพ่อและแม่กับเขาก็อยากที่จะทำให้เต็มที่ เพราะเจียอี่กลับบ้านจึงทำให้หญิงสาวไม่อยากออกไปเที่ยวข้างนอกคนเดียว จึงเลือกที่จะอยู่ที่ห้องอ่านหนังสือเกี่ยวกับการฝึกฝนพลังต่อ ซูเชี่ยวนั่งจดจ่อกับตำราประมาณ 1 ชั่วยามก็รู้สึกเมื่อยล้าจึงลุกขึ้นมองไปที่หน้าต่าง

“วันนี้หิมะไม่ตกแฮะ ออกไปลองโคจรพลังข้างนอกดีกว่า ไหนๆ ก็ไม่ค่อยมีคนอยู่แล้ว” หญิงสาวคิดในใจ และหยิบตำราหนึ่งเล่มพร้อมเดินออกไป นางเลือกบริเวณม่านน้ำตกสูงหลังตำหนักใฝ่คุณธรรม เพราะวันหยุดแบบนี้ไม่มีคนอยู่แถวนี้ ไม่น่ามีใครที่จะมาอ่านหนังสือที่ตำหนักใฝ่คุณธรรมเป็นแน่ ซูเชี่ยวเลือกโขดหินใต้ต้นไม้ใหญ่และขึ้นไปนั่งขัดสมาธิจากนั้นเริ่มโคจรพลัง

ซูเชี่ยววางมือ 2 ข้างทำท่าเหมือนพนมมือโดยการแบมือ2 ข้างมาประกบแต่ไม่ชิดกัน จากนั้นเริ่มถ่ายทอดพลังออกมาโดยการสูดลมหายใจเข้าลึกๆ และเริ่มทำตามตำราที่นางอ่านมาหลายสิบรอบ หญิงสาวลองทำตามตำรากว่า10 รอบ ก็ยังไม่สำเร็จจึงคิดจะถอดใจกลับไปที่ห้องพัก

“ครั้งสุดท้าย” ซูเชี่ยวพูดกับตัวเอง และตั้งสมาธิอีกครั้ง ขณะที่นางเริ่มโคจรพลังที่ระหว่างฝ่ามือ2 ข้างของนางเริ่มปรากฏ แสงสีขาวขึ้นเรื่อยๆ และดับสลายหายไป ซูเชี่ยวยิ้มออกมาเมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น เริ่มเป็นอย่างที่ตำราบอกไว้แล้วแต่นางต้องตั้งสมาธิมากกว่านี้ จากนั้นเริ่มทำแบบเดิมใหม่อีกครั้งแสงสีขาวแบบเมื่อสักครู่เกิดขึ้นระหว่างฝ่ามือของนางและค่อยๆ ขยายใหญ่ขึ้น ทำให้มือของนางทั้ง2 ค่อยๆ กลางออก และเหงื่อที่หน้าผากของนางก็ผุดขึ้นเต็มหน้าผากไปหมด ซูเชี่ยวที่ตอนนี้นางแทบทนรับพลังที่เกิดขึ้นระหว่างมือของนางไม่ได้แล้ว แต่ไม่สามารถควบคุมพลังที่ออกมามหาศาลได้จึงไม่รู้จะทำอย่างไร ได้แต่สะบัดมือขึ้นไปตามที่ที่นางก็ไม่รู้ว่ามันไปทางไหน แต่พลังนั้นกลับไปถูกกิ่งไม้ใหญ่ด้านบน ทำให้กิ่งนั้นหักลงมาที่นาง

“กรี๊ดดด” ซูเชี่ยวกรี๊ดออกมาด้วยความตกใจ แต่กับมีแสงสีแดงพุ่งมาที่กิ่งไม้นั้นแทน นางค่อยๆ ลืมตาดูกิ่งไม้ที่กระเด็นออกไปไกล

“เก่งนิสาวน้อย”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel