บทที่ 8 ทวงเงินคืน
คนอื่นๆของตระกูลซูล้วนไม่ได้พูดอะไร
ยังไงซูสือโถวก็แยกออกไปจากบ้านและ พวกเขาก็ไม่ได้เปรียบอะไร ถ้าเกิดเรื่องแต่งงานในอนาคตยังต้องให้พวกเขาออกเงินและออกแรงอีก งั้นก็ตัดความสัมพันธ์ทีเดียวดีกว่า
หนังสือเขียนตามหนังสือตัดความสัมพันธ์
เขียนหนังสือเสร็จ ก็มีคนในหมู่บ้านไปเชิญตาเฒ่าและยายแก่ของตระกูลซูมาตั้งนาน
คนที่มาพร้อมกันยังมีซูสือโถวที่เตรียมจะตัดขาดความสัมพันธ์กับตระกูลซู
ในตระกูลซู ซูสือโถวเป็นคนที่ต้องทำงานแต่จะถูกรังแกตลอด เลยไม่มีความสัมพันธ์ใดๆกับตระกูลซู พอมาถึงก็ยืนอยู่ข้างๆซูหงซาน ในใจมีความตื่นเต้นเล็กน้อย มองไปที่พี่สาวเป็นครั้งคราว แต่ตอนที่แอบมองไปที่หานต้าจ้วง ก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา
ตาเฒ่าและยายแก่ของตระกูลซูเดิมทียังไม่ยินยอม เตรียมจะมาโวยวาย แต่เพิ่งมาถึงก็ถูกโจวซื่อและหวังซื่อดึงไปล้างสมองข้างๆ
คราวนี้ คนแก่สองท่านของตระกูลซูก็ไม่ปฏิเสธแล้ว
หลังจากเขียนหนังสือเสร็จ ซูสือโถวและคนของตระกูลซูต่างประทับลายนิ้วมือกัน
คนในหมู่บ้านเห็นเช่นนี้ก็ทอดถอนใจ ซุบซิบกันว่าอนาคตซูสือโถวต้องทำยังไงดี
มีคนบอกว่ายังไงซูต้าญาก็แต่งงานแล้ว จะเลี้ยงน้องชายคนนี้ก็เป็นไปไม่ได้ จากนี้ไปซูสือโถวมีเพียงคนเดียว บ้านก็ไม่มรแล้ว ยังไม่รู้ว่าต้องทำยังไง น่าสงสารหรือเกิน
มีคนบอกว่า การที่จะโดนตีในตระกูลซูไปวันๆ จากไปนังดีกว่าเลย
แต่มีคนส่วนใหญ่กลับพูดว่าคนตระกูลซูไม่มีมนุษยธรรมเลย ปฏิบัติต่อลูกที่พี่ใหญ่ของตระกูลซูเหลือไว้เช่นนี้ ทีหลังจะต้องเจอผลกรรมแน่นอน
หนังสือเซ็นเสร็จ มีทั้งหมดสามชุด คนตระกูลซูหยิบชุดของพวกเขาเสร็จ ก็ด่าว่าไปเรื่อยแล้วเตรียมตัวจะไป
แต่อยู่ๆซูหงซานกลับเรียกพวกเขาเอาไว้"หยุดก่อน!"
วันนี้คนตระกูลซูไม่ได้ผลประโยชน์อะไรเลย แถมยังเสียซูหงซานที่เป็นคนให้เงินทุกเดือนไปด้วย เดิมทีก็รู้สึกโมโห แทบอยากจะฆ่าซูหงซานสองพี่น้องตายเพื่อระบายความโกรธ
ตอนนี้ถูกนางหยุดไว้ ทุกคนก็หยุดลง มองไปที่ซูหงซานด้วยสายตาที่ก้าวร้าว กำลังจะด่า แต่พอเผชิญกับสายตาที่เย็นชาของหานต้าจ้วง ก็ล้วนกลัวมาก
แต่ซูหงซานกลับไม่มองพวกเขา เพียงพูดกับผู้ใหญ่บ้านว่า
"ผู้ใหญ่บ้าน เมื่อกี้พวกเขาแย่งเงินของข้าไป นั่นเป็นเงินที่สามีของข้าไปล่าสัตว์บนภูเขาแทบเหนื่อยแทบตาย ถึงได้มา เป็นเงินก้อนสุดท้ายของบ้านเรา ผู้ใหญ่บ้านโปรดตัดสินความเป็นธรรมให้หน่อยเจ้าค่ะ"
"ซูต้าญา เจ้าอย่ามาใส่ร้ายนะ!"
โจวซื่อตวาดออกมา แต่กลับไปแตะถุงใส่เงินที่นางวางอยู่บริเวณหน้าอกด้วยจิตสำนึก
คนอื่นของตระกูลซูจะไม่ยอมรับอยู่แล้ว พยายามเผชิญกับสายตาที่เย็นชาของหานต้าจ้วง ต่างด่าว่า
"ไอ้หญิงเลวเจ้ายังกล้าพูดเพ้อเจ้ออีกหรือ ระวังว่าพวกเราจะเอาเจ้าให้ตายเลยนะ!"
ซูหงซานไม่สนใจพวกเขาเลย เพียงมองไปที่ผู้ใหญ่บ้าน และทำความเคารพต่อคนในหมู่บ้าน พร้อมด้วยใบหน้าที่เศร้าโศก
"เพื่อนบ้านทุกคน ตระกูลซูมีผู้ชายเจ็ดแปดคน แต่ละคนล้วนร่างกายแข็งแรงกัน ที่บ้านเลยมีเงินเหลือบ้าง แม้กระทั่งพ่อแม่ของข้าตอนมีชีวิตก็หาเงินได้มากมาย ตามหลักแล้ว พ่อแม่เสียชีวิตไป ลูกและพ่อแม่จะเป็นคนสืบทอดมรดก แต่ข้ากับน้องชายไม่เห็นเงินแม้แต่นิดเลย......"
"ซูต้าญา พ่อแม่ของเจ้าเสียชีวิต แล้วเจ้ากับน้องชายของเจ้าไม่ต้องกินและใช้อะไรหรือ?*คนตระกูลซูโมโหมาก
แต่ซูหงซานกลับไม่สนใจ พูดต่อว่า
"ตอนที่พ่อแม่ของข้ามีชีวิตอยู่เป็นคนยังไง ข้าเชื่อว่าเพื่อนบ้านทุกคนล้วนรู้อยู่แก่ใจ พวกเขาขยันขนาดไหน เพื่อนบ้านทุกคนก็น่าจะรู้กัน สิ่งที่ข้าอยากพูดในวันนี้ก็ไม่ใช่สิ่งเหล่านี้ และก็ไม่ใช่จะแย่งชิงมรดกของพ่อแม่ข้า
ข้าไม่เอาสิ่งอื่นใดๆ แค่อยากจะเอาเงินสามตำลึงที่สามีของข้าหามาอย่างแทบเหนื่อยแทบตาย ฟ้ายังไม่สว่างก็ไปล่าสัตว์บนภูเขา ใช้ชีวิตแลกมานั้นคืนมา นั่นเป็นเงินทั้งหมดของบ้านเราแล้ว......"
"สามีของข้าเป็นนักล่า บ้านเราไม่มีนาเลย ของกินของใช้ล้วนต้องใช้เงินไปซื้อ ถ้าไม่มีเงินสามตำลึงนี้ บ้านเราก็จะอดอยากตายแล้ว......"
"ผู้ใหญ่บ้าน ข้ารู้ว่าคนตระกูลซูแย่งเงินของเราไป ท่านก็ไม่สามารถไปแย่งคืนมาให้ ข้าแค่......"
ซูหงซานเป็นแบบว่าคำนึงถึงผู้ใหญ่บ้านแต่ก็ไม่มีวิธีใดๆ กัดฟันแล้วพูดว่า
"ถ้าไม่ได้จริงๆ ข้าก็มีแต่ต้องไปฟ้องที่ว่าการอำเภอ ข้าเป็นผู้ใหญ่ไม่มีอะไรกินยังไหว แต่ยังมีเด็กๆด้วยเลย......"
คำพูดทีละประโยคของซูหงซาน ทำให้คนที่ได้ยินล้วนน้ำตาไหล
ส่วนหานต้าจ้วงกลับมองไปทางซูหงซานอีก ขมวดคิ้วขึ้นมา เงินสามตำลึงที่ตัวเองใช้ชีวิตแลกมาหรือ?
นางเข้าใจผิดตัวเองหรือเปล่า?
แล้วก็อดอยากตายเลยหรือ?
สายตาของหานต้าจ้วงย้ายออกไปจากซูหงซาน ใช้สายตาที่เย็นชากวาดมองไปที่คนตระกูลซูอีกรอบหนึ่ง
ไม่ทันรอให้ผู้ใหญ่บ้านพูด คนในหมู่บ้านก็ล้วนขวางทางคนตระกูลซูไว้ไม่ให้พวกเขาจากไป ต่างพูดด้วยความโกรธ
"ตระกูลซู เอาเงินคืนให้ซูต้าญา หมู่บ้านเซี่ยงหยางของเราไม่มีการป้องทรัพย์เกิดขึ้นเลยนะ ถ้าพวกเจ้าไม่คืน เราก็มีแต่จะแจ้งที่ว่าการอำเภออย่างเดียว!"
"ตระกูลซูของพวกเจ้ามีผู้ชายตั้งเจ็ดแปดคน ไปหาเงินที่ไหนไม่ได้ เหตุใดถึงต้องไปแย่งเงินที่ครอบครัวซูต้าญาหามาอย่างแทบเหนื่อยแทบตายอีก"
"ยังไงพวกเขาก็เป็นลูกที่พี่ใหญ่ของตระกูลซูเหลือไว้ พวกเจ้าทำเช่นนี้ไม่กลัวว่าตอนตายจะตกนรกหรือ"
......
คนในหมู่บ้านพูดกันทีละคำ ถึงคนตระกูลซูจะหน้าด้านขนาดไหน ถึงโจวซื่อจะโวยวายเก่งขนาดไหน แต่พอเผชิญกับคนในหมู่บ้านมากมายขนาดนี้ ก็ทำอะไรไม่ได้ มีแต่ต้องมองซูหงซานอย่างโหดร้าย แทบอยากจะขึ้นไปบีบคอนางตาย
ตาเฒ่าซูและยายแก่ซูมาช้า ไม่รู้เรื่องเงินสามตำลึง คราวนี้เห็นว่าซูหงซานพูดไม่กี่ประโยคเองก็ทำให้ตระกูลซูรับความอัปยศอดสู แค้นจนเกือบจะสลบไป
"ต้าญา เจ้าจะขู่จนท่านย่าแท้ๆของเจ้าตายใช่ไหม!"
ยายแก่ซูจับหน้าอกของตัวเอง เสียใจยิ่งนัก
โจวซื่อหมุนลูกตา และออกไปชี้ซูหงซานแล้วพูดว่า
"ซูต้าญา พวกเราไม่ได้เอาเงินของเจ้า ข้าว่าเจ้าจะฉวยโอกาสนี้ใส่ร้ายพวกเราใช่ไหม!"
"ต้าญา ยังไงก็เป็นครอบครัวเดียวกันนะ"
แม้กระทั่งตาเฒ่าที่ไม่ได้พูดตลอดก็เอ่ยขึ้นมา
ซูหงซานฟังจนทำตาขวาใส่ ครอบครัวเดียวกัน?ก่อนหน้านี้ให้เจ้าของร่างเดิมในฐานะที่เป็นลูกสาวที่แต่งออกไปต้องให้พวกเขาเดือนละห้าร้อยเหรียญทองแดง ยังขู่ว่าจะทิ้งซูสือโถวไปเป็นอาหารหมาป่าบนภูเขา ทำไมตอนนั้นพวกเขาไม่พูดว่าเป็นครอบครัวเดียวกัน แต่ตอนนี้กลับเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วล่ะ?
หนังสือตัดความสัมพันธ์ก็เซ็นเสน็จแล้ว ซูหงซานก็ไม่ได้เป็นท่าทีที่อ่อนโยนเหมือนเมื่อกี้แล้ว
นางมองไปที่หานต้าจ้วงและพูดว่า"ท่านพี่ เงินของบ้านเราถูกคนอื่นแย่งไปแล้ว เจ้าว่าจะแจ้งที่ว่าการอำเภอหรือว่า......"
คำพูดของซูหงซานยังพูดไม่เสร็จ หานต้าจ้วงก็ขยับตัว
เห็นแต่เขาเข้าใกล้ซูหยวนหลินทีละก้าว สีหน้าเย็นชามาก การกระทำของเขาไม่เหมือนเป็นการหาเรื่องเลย แต่ถึงแม้เป็นเช่นนี้ ก็ทำให้ซูหยวนหลินกลัวจนรีบถอยลงไป
"เจ้า คิดจะทำอะไร?อ๊ะ......"
ยังพูดไม่เสร็จ เขาก็ถูกหานต้าจ้วงยกขึ้นมา ทันทีทันใดก็ตกใจจนกรีดร้องออกมา
หานต้าจ้วงกลับยกซูหยวนหลินเอาไว้ แล้วมองไปที่โจวซื่อ พูดอย่างเย็นชา"เอาสามตำลึงมา!"
ลักษณะที่โหดร้าย ทำให้คนตระกูลซูกลัวจนหน้าซีด โจวซื่อรับจับถุงใส่เงินที่อยู่ในอ้อมอก แล้วเอาไปให้โดยไม่ยินยอม