บทที่ 3 คนของตระกูลซูตีมาถึงบ้าน
ซูหงซานใจกระตุกทีหนึ่ง รีบไปห้ามอยู่ในหน้าประตูห้องครัว
"อาสะใภ้ เจ้าทำอะไรเนี่ย เมื่อก่อนข้าก็ไม่เคยไม่ให้เงินที่บ้านเลย ครั้งนี้ก็ขยายเวลาให้ข้าอีกสองวัน เป็นเพราะว่าสามีของข้ายังไม่กลับ ข้าก็ไม่มีเงินจริงๆ"
คนของตระกูลซูขึ้นบ้านใคร ก็จะปล้นชิงตลอด
นางไม่ยอมให้เงิน แต่ตอนนี้ต้องหลอกพวกเขาก่อนแล้วค่อยคิดวิธี ดูว่าจะมีวิธีอะไรที่อนาคตไม่ต้องให้เงินอีกแล้ว
แต่โจวซื่อกลับผลักนางออกไปอย่างแรง
"หลบไป"
พอเข้าห้องครัวโจวซื่อก็เดินมาถึงหน้าหม้อใหญ่ เห็นว่าข้างในคือซุปแป้ง เลยใช้กระชอนตักในหม้อสักพักหนึ่ง เห็นว่ามีบะหมี่ขาวสองเส้นแขวนอยู่บนกระชอน โจวซื่อรีบชี้หน้าซูหงซานแล้วด่าขึ้นมา
"ซูต้าญา เจ้านี่ตัวดีจริงๆเลยนะ มาบอกว่าที่บ้านไม่มีเงิน แต่กลับกินของดีๆในบ้าน ยังกินบะหมี่ขาวด้วยหรือ?เจ้านึกว่าคนในตระกูลซูของเรารังแกได้ง่ายๆหรือ?!"
"แป้งอยู่ไหน?เอาออกมาสิ เจ้านี่ไม่ทำอะไรวันๆ เอาแต่กินและนอนเนอะ กล้าไม่ให้เงินแก่ตระกูลซูของเรา วันนี้ข้าจะเอาเจ้าให้ตายแน่"
โจวซื่อชี้หน้าด่าและจะหาแป้งในห้องครัวให้ได้
เดิมทีซูหงซานก็มาจากสมัยปัจจุบัน ปลาและเนื้อล้วนไม่ชอบกินแล้ว จะเคยขาดข้าว แป้งและน้ำมันพืชที่ไหนได้ล่ะ เลยไม่คุ้นชินกับการซ่อนอาหาร ใช้เสร็จก็วางไว้บนเขียง ยังไม่ทันได้เก็บเลย
พอโจวซื่อหันกลับไปก็เห็นแป้งที่อยู่บนเขียง รีบไปจับไว้ในมือ
ซูหงซานแอบพูดว่าประมาทในใจ และคิดจะขึ้นไปแย่ง
แต่ช้าไป โจวซื่อจับถุงแป้งไว้ในมือแล้ว
ได้แป้งมา โจวซื่อดีใจมาก แต่ยังคงชี้หน้าซูหงซานและด่าว่า
"เจ้านี่รู้แต่กินและนอนจริงๆเลย กินแป้งที่ราคาแพงและยังบอกว่าไม่มีเงินให้ ข้าว่าเจ้าตั้งใจที่จะไม่ให้ เดี๋ยวข้ากลับไปก็จะไล่ไอ้ซูสือโถวออกจากบ้าน!"
ซูหงซานไม่อยากสนใจนาง เพียงมองแป้งที่ถูกนางจับไว้ในมือแล้วขมวดคิ้ว คิดอยู่ว่าจะแย่งมาได้อย่างไร
นางไม่ได้รู้สึกว่าแป้งเป็นสิ่งหายาก แต่ในความทรงจำของเจ้าของร่างเดิม ในบ้านนี้แป้งเป็นสิ่งที่มีราคามาก ที่บ้านก็มีเพียงเท่านี้เอง นางเอาให้เด็กสองคนกินได้ แต่คนของตระกูลซูกินหรือ? ฝันไปเถอะ!
"อาสะใภ้ เจ้าคิดดีๆนะ หากเจ้าเอาแป้งเหล่านี้ เงินของเดือนนี้ก็ไม่ให้แล้วนะ"
"เจ้าฝันไปเถอะ ถ้าไม่ให้เงินก็จะไล่น้องชายของเจ้าออกจากตระกูลซู ทิ้งเขาไปเป็นอาหารของหมาป่าบนภูเขา"
โจวซื่อไม่ยินยอมอยู่แล้ว แป้งมีราคาก็จริง แต่นี่มีเพียงไม่กี่โลเอง จะถึงห้าร้อยเงินทองแดงที่ไหนได้ล่ะ
"งั้นเอาสะใภ้ก็วางแป้งลง ยังไงเงินกับแป้งเจ้าเลือกได้เพียงอย่างเดียว!"
ซูหงซานบังอยู่หน้าประตู มองโจวซื่ออย่างเย็นชา มีไฟลุกออกมาจากดวงตา เสียงที่เดิมยังเกรงใจอยู่ก็เย็นชาขึ้นมาทันที
"ออกไป เจ้ามีสิทธิ์อะไร กล้ามาห้ามข้าหรือ!"
โจวซื่อไม่ไว้ซูหงซานในสายตา หลานสาวคนนี้ถูกพวกเขากดขี่ตลอด เมื่อก่อนไม่เคยที่จะคัดค้านเลย
การคัดค้านของวันนี้เหลือเชื่อไปหน่อย แต่โจวซื้อก็ไม่ได้ยึดเป็นเรื่องสำคัญ
ในเวลานี้ หานเสี่ยวซานที่ซ่อนอยู่ใต้เขียงกลับวิ่งออกมาอย่างเร็ว และแย่งถุงแป้งในมือของโจวซื่อไป และกลับไปซ่อนอยู่ใต้เขียงอย่างรวดเร็ว
ซูหงซานยังคิดจะแย่งแป้งกลับมา ตอนนี้เห็นว่าหานเสี่ยวซานแย่งกลับมาได้ ก็ดีใจมาก รู้สึกว่าเด็กคนนี้คล่องแคล่วจริงๆ
โจวซื่อคิดไม่ถึงว่าเด็กสองคนนี้ของตระกูลหานกล้าแย่งของจากมือของตัวเอง ทันใดนั้นก็รู้สึกตัวไม่ได้ หลังจากฟื้นสติมาก็จะไปต่อยหานเสี่ยวซาน
แต่ซูหงซานจะปล่อยให้นางต่อยได้ที่ไหนล่ะ นางบังอยู่หน้าเขียงอย่างรวดเร็ว มองโจวซื่ออย่างเย็นชา
"ยังไง?อาสะใภ้ไม่เพียงแต่จะแย่งเสบียงอาหารของบ้านข้า อยากจะต่อยลูกชายของข้าอีกหรือ?"
หานเสี่ยวซานที่อุ้มเสบียงอาหารไว้ในมือและมองโจวซื่ออย่างระมัดระวังนั้น คิดไม่ถึงว่าแม่เลี้ยงที่ด่าและตบตีพวกเขาอยู่ตลอดนั้นจะบังอยู่หน้าพวกเขา แถมยังบอกว่าเขาเป็นลูกชายของนาง เลยอึ้งไปเลย
เขามองร่างที่ยืนอยู่ข้างหน้าเขียงอย่างอึ้ง อยู่ๆจมูกก็รู้สึกแสบ และอึดอัดใจมาก
โจวซื่อก็คิดไม่ถึงว่าซูหงซานจะพูดเช่นนี้
นางจะไม่รู้ได้อย่างไรว่า ซูต้าญาปฏิบัติต่อลูกเลี้ยงยังไง หัวเราะขึ้นมาทันที
"ลูกชายของเจ้าหรือ?ฮ่าๆ ซูต้าญา เจ้าบ้าไปหรือเปล่า เจ้ามองเขาเป็นลูกชายหรือ?ฮ่าๆ......น่าขำจริงๆ......"
ซูหงซานขมวดคิ้ว น้ำเสียงเย็นชามาก"ข้ามองเขาเป็นลูกชายหรือเปล่านั้นไม่มีความสัมพันธ์กับเจ้าเลย"
โจวซื่อก็ไม่สนใจเขา แค่อยากจะไปแย่งแป้ง แต่ซูหงซานห้ามอยู่ ก็โมโหขึ้นมา และคิดจะขึ้นไปตบหน้าซูหงซานเหมือนเมื่อก่อน
แต่ซูหงซานจะปล่อยให้นางตบได้ที่ไหนล่ะ จับข้อมือของนางเอาไว้ทันที
"อาสะใภ้คิดจะลงมือกับข้าหรือ?"
โจวซื่อคิดไม่ถึงว่า ซูต้าญาที่ซื่อๆในเมื่อก่อนนั้นกล้าต่อต้านแล้ว แต่นางก็โมโหยิ่งกว่าเดิม ยกขาขึ้นคิดจะเตะนาง
ทีแรกซูหงซานก็ป้องกันตัวเองอยู่ จะไม่ให้นางเตะโดนอยู่แล้ว ทำท่าดึงและผลักออกไป ก็ทำให้โจวซื่อเซล้มลงไปบนพื้น
"ซูต้าญา เจ้านี่ตัวดีจริงๆเลยนะ กล้ามาตีข้า!"
ซูหงซานไม่ได้พูด เพียงมองนางอย่างเย็นชา
พอเผชิญกับดวงตาที่เย็นชาของนาง อยู่ๆโจวซื่อก็รู้สึกกลัว แต่ก็ไม่อยากจะทำตัวเข้มแข็งกับนางแล้ว แค่อยากจะขอเงินแล้วไป กลับไปค่อยเรียกคนมาเอานางให้น่าดูแน่ๆ
"ได้ๆ ไอ้ซูต้าญาตัวดี วันนี้ข้าก็ไม่เสียเวลากับเจ้าแล้ว ข้าจะเอาเงินของเดือนนี้ ห้าร้อยเหรียญทองแดง เอามา!"
"ไม่มี"
"ซูต้าญา ข้าว่าเจ้านี่ไม่เชื่อฟังแล้วนะ ได้ งั้นเจ้าก็รอน้องชายของเจ้าถูกส่งไปเป็นอาหารหมาป่าบนภูเขาเถอะ"โจวซื่อจ้องซูหงซานอย่างแรง ด่าเสร็จก็สะบัดแขนเสื้อเดินจากไป
โจวซื่ออยากจะตบซูหงซานนะ แต่วันนี้นางเข้มแข็งกว่าเมื่อก่อนเยอะเลย และตัวเองก็ไม่มีคนของตระกูลซูคอยหนุนหลัง นางเลยรู้สึกกลัวเล็กน้อย เลยต้องกลับไปก่อน
ตระกูลซูของพวกเขา จำนวนคนในครอบครัวเยอะ มีผู้ชายเจ็ดแปดคน คนทั้งหมู่บ้านเซี่ยงหยางไม่มีใครกล้ารังแกพวกเขาเลย
วันนี้ซูต้าญากล้าผลักนาง เดี๋ยวรอให้นางเรียกคนมา จะเอานางให้น่าดูแน่ๆ
โจวซื่อจากไป แต่ซูหงซานกลับว้าวุ่นใจขึ้นมา
จากนิสัยของคนตระกูลซู ต่อมาคนของตระกูลซูก็จะมาหาเรื่องที่บ้านแล้ว
นางไม่ใช่เจ้าของร่างเดิม ไม่กลัวคำพูดคุกคามของคนในตระกูลซูที่ว่าจะทิ้งซูสือโถวไปเป็นอาหารหมาป่าบนภูเขา
ในทางตรงข้าม นางหวังว่าคนของตระกูลซูจะสามารถไล่ซูสือโถวออกจากบ้าน
อย่างนี้นางก็สามารถพาซูสือโถวมาที่บ้าน คนของตระกูลซูก็ฝันไปเถอะว่าจะใช้ซูสือโถวมาขู่นางอีก
ซูหงซานคิดอยู่ในใจว่าถ้าคนของตระกูลซูมาแล้วนางต้องทำอย่างไร หันไปเห็นเด็กสองคนที่อยู่ใต้เขียงกำลังเบิกตากว้างมองนางอยู่
ดวงตาที่แบ่งแยกสีขาวสีดำได้ชัดเจนสองคู่นั้น ในความกลัวและห่างไกล แต่ก็มีความอยากรู้อยากเห็นและความสืบสวน
"ทำไมยังนั่งยองอยู่ข้างในอีก?เมื่อกี้กินอิ่มยัง?จะกินอีกไหม?"
น้ำเสียงของซูหงซานพยายามอ่อนโยนให้ได้ที่สุด บนใบหน้าก็ปรากฏรอยยิ้ม
พี่น้องสองคนรีบส่ายหน้า แต่ยังคงไม่พูดสักคำ
"ยังกินไม่อิ่มหรือ?"
พี่น้องสองคนจะกล้าพูดว่าไม่อิ่มที่ไหนได้ ส่ายหน้าอีกครั้งหนึ่ง
"งั้นก็หมายความว่ากินอิ่มแล้ว ในเมื่อกินอิ่มแล้วยังนั่งยองอยู่ข้างในทำอะไรล่ะ?"
เห็นว่าพวกเขาไม่ขยับ ซูหงซานยิ้มอย่างจนปัญญาแล้วพูดว่า"รีบๆออกมาเถอะ ถ้านั่งยองอยู่ข้างล่างอนาคตจะไม่สูงเลยนะ"