บทที่5.พรหมจรรย์...ถ้าเธอไม่ต้องการฉันขอแล้วกัน......
“คุณไม่ได้เก็บข้อมูลสำคัญไว้ที่อื่นบ้างหรือคะ?” หญิงสาวถามกลับ เธอไม่เชี่ยวเรื่องไอที แต่นักธุรกิจใหญ่ๆ น่าจะมีการสำรองข้อมูล
“ก็มีนะ แต่เพราะผมมาพักไงล่ะ ผมเลยถ่ายโอนเอกสารสำคัญทุกที่มาไว้ในแล็ปท็อปที่เดียว มันคงเพราะคนมันจะซวยน่ะ เป็นการเสียหายร้ายแรงอย่างที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอมา” ชายหนุ่มตอบอย่างชาญฉลาด จนเอมิกาจนคำถาม
“...” เอมิกาอึ้ง!! เธอรู้สึกผิดจนอยากจะช่วย
“ตามใจนะ ผมไม่บังคับเธอหรอก ผมเองไม่ชอบบังคับใจใคร แต่ก็ผิดหวังนิดหน่อยที่ของแค่นี้เธอก็ทำไม่ได้ ทั้งที่เธอเป็นทำลายธุรกิจของผม จนเกือบจะย่อยยับเชียวนะ มันเป็นความผิดของผมเอง ที่ดันทะลึ่งสอดมือเข้าไปยุ่งวุ่นวายกับเรื่องของคนอื่น” เสียงเย้ยหยันตัวเองจากคนร่างใหญ่ จนเอมิกาหน้าซีดลงไปเรื่อยๆ
“ค่ะ...ก็ได้ค่ะ เอมิจะทำตามที่คุณต้องการ เราจะได้ไม่ติดค้างกัน เอมิยอมรับความผิดทุกอย่าง เพราะเอมิเป็นคนทำให้คุณเดือดร้อน” เอมิกาโพลงออกไปเมื่อตัดสินใจเด็ดขาด สิ่งที่เฝ้าทะนุถนอมมานานมอบเพื่อชดใช้ค่าเสียหายที่ไม่สามารถประเมินได้ ชั่วชีวิตนี้เธอคงไม่สามารถหามาคืนให้เขาได้ เวลา1เดือนมันคงจะไม่นานแค่แป๊บเดียวก็ผ่านเลยไป
“ดี...ผมจะรอเธอคืนนี้ก็แล้วกันนะ...หวังว่าเธอคงไม่ขลาดกลัวจนยอมเสียคำพูดล่ะ” ชายหนุ่มกล่าวกำชับ เขาขอตัวกลับเมื่อได้ทุกอย่างตามความประสงค์ เขาเดินกลับบ้านพักพร้อมกับรอยยิ้มที่แต้มติดอยู่บนมุมปาก แต่เอมิกาไม่มีโอกาสได้เห็น
ชายหนุ่มเดินมโนไปตลอดทาง...ภาพที่ปรากฏอยู่ในหัวของราฟาเอลตอนนี้ คือร่างกายเปลือยเปล่าหอมกรุ่นของเอมิกา นอนครางครวญอยู่ใต้ร่างของตัวเอง คืนแห่งความสุขที่รอคอยใกล้จะเป็นความจริงเข้าไปทุกที จึงหวาดหวังอย่างสมใจ เขาสัญญากับตัวเองว่าจะทำให้เอมิกาไม่มีวันลืมค่ำคืนแสนหวานครั้งนี้ไปนานเท่านาน เธออาจจะลืมแฟนเก่าไปเลยด้วยซ้ำ เมื่อราฟาเอลมั่นใจในเสน่ห์ล้นเหลือของตัวเองเขาสามารถโปรยเสน่ห์ให้เอมิกาหลงใหลได้ไม่ยากเย็นซักเท่าไหร่
เอมิกาไม่รู้ตัวเองเหมือนกัน มีอะไรดลใจให้เธอตกปากรับคำกับราฟาเอลออกไป แต่ในเมื่อตัดสินใจไปแล้ว เธอก็จำต้องทำอย่างที่รับปากไว้ เมื่อชีวิตที่ผ่านมาไม่ค่อยมีชายหนุ่มทคนไหนให้ความสนใจกับเธอมากนัก เธอจึงไม่รู้ว่าราฟาเอลคิดอย่างไรถึงเลือก เธอให้ชดใช้หนี้ด้วยวิธีนี้
หญิงสาวเครียดจนหัวจะแตก ยิ่งแสงของพระอาทิตย์กำลังจะลาลับขอบฟ้าไป ยิ่งอกสั่นขวัญแขวน ความมืดโรยตัวเข้ามาปกคลุมรอบกาย ทุกอย่างดูมืดมิด จนกระทั่ง..แสงสว่างจากไฟฟ้า เริ่มส่องสว่าง แสงสีอ่อนๆ ไม่ได้ช่วยให้เธอรู้สึกดีขึ้นเลย เหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดขึ้นตามไรผม อากาศรอบตัวดูร้อนอบอ้าวเสียจนเหงื่อไหลซึมทั่วแผ่นหลัง แสงไฟตามบ้านพักเริ่มทยอยเปิดขึ้นทีละดวงสองดวง เพราะความมืดเข้ามาเยือนทุกพื้นที่ ทำให้เอมิกามีความกังวลมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม หญิงสาวเดินไปแหวกผ้าม่านเพื่อมองดูบ้านพักด้านข้าง ไฟภายในบ้านเปิดขึ้นสว่างไสวขึ้น เธอพยายามมองหาชายผู้นั้น แต่มองไม่เห็นร่างสูงใหญ่ของราฟาเอลมาตั้งแต่ตอนที่เขาเดินจากไป
เอมิกายิ่งเครียดหนัก ผู้ชายคนนั้นคงกำลังยุ่งเหมือนที่เขากล่าวทิ้งท้ายไว้ ข้อมูลสำคัญขนาดนั้นเขาคงต้องระดมความคิดอย่างหนัก มันคงทำให้ตัวราฟาเอลยุ่งวุ่นวายจนปวดหัวไปหมด
“กลัวอะไรเอมิ!! ไม่มีอะไรต้องกลัวหรอกน่า เดี๋ยวมันก็ผ่านไปแล้ว เธอทำเขาเสียหายนะ ชดใช้แค่นี่เองไม่ถึงตายหรอก” เสียงพึมพำปลอบโยนตัวเอง ก่อนจะตัดสินใจเดินเข้าห้องน้ำ เธอต้องชำระร่างกายจากเหงื่อไคลเสียก่อนที่จะไปหาเขาที่ตกลงกันไว้
ราฟาเอลนั่งรอเวลาอย่างสงบ ทั้งที่ภายในใจร้อนรุ่มดังไฟเผาผลาญ เขาแทบจะออกไปตาม และลากตัวเอมิกามาโยนขึ้นเตียง จัดการทุกอย่างตามที่ใจปรารถนา แต่มันจะเป็นกริยากักชฬะเกินไป เขาจึงจำใจนั่งรออย่างอดทน
กลิ่นหอมอ่อนๆ ลอยตามลมมา เมื่อร่างเย้ายวนเดินมาหยุดอยู่ด้านหน้าบ้านพัก หล่อนลังเลเล็กน้อย จึงหมุนกลับไปกลับมาอยู่หลายครั้ง ชายหนุ่มตะแคงหูฟังเสียงย่ำเท้าบนพื้นทรายนั่น เขาออกไปรับหล่อน แต่กลัวว่าหล่อนจะเปลี่ยนใจ
ก๊อกๆ