บทที่2.ราฟาเอล ฟาเบียโน่
“กรี๊ด!!” พรรณรายกรีดร้องโหยหวน เมื่อถูกเด็กรุ่นลูกกล่าววาจาดูถูก สายตาวาววับหันกลับไปมองคนของตัวเองอย่างคาดคั้น หล่อนสะบัดหน้าใส่ ก่อนก้าวเท้าเดินฉับๆ ออกไปจากร้านกาแฟของเอมิกาด้วยความอับอาย กรณ์รีบถลาวิ่งตามพรรณรายออกไป
เสียงประตูปิดลงดังปัง! จนพวงกระดิ่งที่แขวนอยู่หน้าประตูกระทบกันส่งเสียงดังกราวใหญ่ เอมิกาน้ำตาร่วงริน ผิดหวังจนเจ็บแปลบไปทั้งใจ เมื่อผู้ชายที่เคยคิดจะฝากชีวิตด้วยมีพฤติกรรมไม่ต่างอะไรกับสัตว์เลื้อยคลานน่าละอายและน่ารังเกียจพอๆ กัน
“มันน่าฟาดปากด้วยส้นร้องเท้าซักที คนอะไร๊...พูดเอาดีเข้าตัว เอาชั่วโยนให้คนอื่น สงสารก็แต่ยัยคุณนายนั่นล่ะ ไม่รู้ว่าต้องหมดเงินอีกเท่าไหร่กับผู้ชายอย่างหมอนั่น” เกสรบ่นเสียงขรม ขณะมองตามหลังร่างของผู้ชายชั่วกับผู้หญิงร้าย ที่เดินผ่านประตูออกไปด้วยสายตาเกลียดชังปนสมน้ำหน้า
ร่างสมส่วนสูงใหญ่ของ ราฟาเอล ฟาเบียโน่เดินออกมาจาก เกรททางเดินผู้โดยสารขาเข้า เขามาพร้อมกระเป๋าเป้ใบใหญ่ที่สะพายอยู่ด้านหลัง สวมแว่นตาสีดำปิดบังหน้าไว้จนเกือบมิด แต่ออร่าความหล่อเหลาก็ยังแทงทะลุแว่นสีดำนั่นออกมา สาวๆ ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง ต่างพากันเหลียวมอง และส่งสายเชิญชวนเขาอย่างเปิดเผย หวังแค่เพียงให้ราฟาเอลเหลือบมามองบ้าง สักครั้งก็ยังดี
กัมปนาทโบกมือให้ พร้อมกับรีบเดินเข้าไปหา เขามองเห็นราฟาเอลตั้งแต่ร่างสูงใหญ่เดินออกมาจากเกรทผู้โดยสาร ร่างสูงดูโดดเด่นแม้จะอยู่ภายใต้เสื้อผ้าพื้นๆ กางเกงยีนส์เสื้อยืด แต่ก็ยังสามารถสะกดสายตาผู้คนที่พบเห็นได้เหมือนเคย สมกับเป็นหนุ่มสเปนหล่อล่ำ แข็งแรงและร้อนแรงไม่ว่าจะไปที่ไหนก็มักจะได้รับความสนใจจากสาวๆ เสมอ
“ไงวะไอ้เสือ มาเที่ยวนี้ไม่ยักกะหนีบหญิงติดมาด้วยเสียชื่อ...ราฟาเอลยอดนักรักหมด” กัมปนาทกล่าวสัพยอก เอียงตัวกระแทกหัวไหล่กับไหล่บึกบึนของเพื่อนรัก
“มันเบื่อๆ หน่ะ...อยากอยู่คนเดียวมากกว่ามั้ง” ราฟาเอลยิ้มรับ ยกมือตบบ่ากว้างของเพื่อนรักแสดงการทักทาย
“เห้ย!!...ไม่จริงหรอก เป็นไปได้ไง ยอดชายคุณราฟาเอลบ่นว่าเบื่อผู้หญิง” กัมปนาทอุทานทำท่าตกใจเสียเว่อร์วัง
“มันก็เบื่อกันได้นี่หว่า ของมันมีเยอะแยะจนเบื่อไปเอง อยากพักผ่อนนอนเงียบๆ มากกว่าว่ะ” ราฟาเอลมีสีหน้าเซ็งๆ ก่อนตอบเมื่อจู่ๆ เขาก็เหม็นเบื่อผู้หญิงรอบตัวอย่างไม่รู้สาเหตุ
“เออมีเยอะจริง...ขนาดผมอยู่ที่นี่ยังได้ยินข่าวคุณไม่ขาดเลยราฟ แล้วนี่จะอยู่นานแค่ไหนกันล่ะ”กัมปนาทหัวเราะขำเพื่อนจนท้องแข็ง เขารีบพาราฟาเอลเดินไปยังทางออก เพื่อเดินทางไปยังจุดหมาย หนุ่มเอเชียส่ายหน้า ทุกย่างก้าวที่เดินผ่านมีสาวๆ พยายามส่งสายตาหวานเชื่อมมาให้ราฟาเอลตลอดทาง จนกัมปนาทเริ่มรู้สึกเอียนเหมือนเช่นราฟาเอลรู้สึกเลย
“สักเดือน...กะว่านอนให้เต็มที่ แล้วค่อยกลับไปลุยงานต่อ” ราฟาเอลถอดแว่นที่สวม เก็บในกระเป๋าเป้ที่สะพายไว้ด้านหลัง
“งานคุณเข้าที่แล้วไม่ใช่เหรอ...ทำไมยังยุ่งอีกล่ะ” กัมปนาทขึ้นนั่งประจำที่หันมาถามราฟาเอลอย่างไม่ใคร่เข้าใจ
“มันก็เข้าที่หรอกนะ แต่คุณต้องเข้าใจด้วยว่ามันมีการแข่งขันอยู่ตลอด ธุรกิจการค้าขายมันก็เป็นธุรกิจที่ไม่หยุดนิ่ง ขนาดผมมาเที่ยวนี้ยังต้องเคลียร์งานนานเป็นเดือนกว่าจะหาเวลาว่างมาพักได้” ราฟาเอลทรุดลงนั่งบนเบาะด้านข้างและอธิบายให้เพื่อนฟัง ในสิ่งที่เขาไม่เข้าใจ
“คุณมันจับอะไรเป็นเงินเป็นทองไปหมดนี่นา ขนาดอาหารทะเลแช่แข็งที่ใครๆ ก็ไม่คิดว่าจะมีช่องทางทำกิน คุณยังทำเสียกลายเป็นธุรกิจใหญ่โต”กัมปนาทชม ขณะขับรถมุ่งตรงไปยังสถานที่ๆ จองไว้ให้ จากนี้ไปเวลาหนึ่งเดือนราฟาเอลจะอยู่พักที่นั่นจนกว่าจะกลับไปสเปน
“อีกไกลไหมกว่าจะถึงหน่ะ ผมอยากนอนเต็มแก่แล้ว” ราฟาเอลอ้าปากหาวหวอดๆ อย่างง่วงงุน เขาเอนตัวลงพิงเบาะหลุบเปลือกตาลงอย่างอ่อนเพลีย
“นี่ถ้าคุณไม่บอกก่อนว่าลุยงานหนักมานะ ผมเดาว่าคุณต้องไปฟัดกับสาวทรงสะบึมมาจนหมดเรี่ยวหมดแรงแน่” เสียงกระเซ้าดังจากปากสีเข้ม
“สาวๆ อะไร ตอนนี้แค่แรงยกขายังไม่มีจะไปทำอะไรใครได้” ราฟาเอลบ่นพึม หลับตาปิดกั้นแสงสว่างที่ส่องแสงแยงนัยน์ตา
กัมปนาทหัวเราะหึๆ เขาปล่อยให้เพื่อนรักพักผ่อนต่อไปตามสบาย ชายหนุ่มหันมาสนใจเรื่องการขับรถ เขาขับเคลื่อนรถยนต์ตรงไปข้างหน้าอย่างระมัดระวัง หนทางอีกไม่ไกลก็จะถึงรีสร์อทเล็กๆ ที่จองไว้ มีความเป็นส่วนตัวแบบพิเศษสุด ที่ราฟาเอลขอให้เขาช่วยจัดการให้