บทที่1.เอมิกา........
เสียงกระดิ่งหน้าประตูดังกรุ๊งกริ๊ง!! เมื่อมีคนเปิดประตูร้านเข้ามาภายใน เกสรรีบกระวีกระวาดไปตอนรับด้วยรอยยิ้ม พร้อมทั้งรับออเดอร์เพื่อมาให้เอมิกาจัดการขั้นต่อไป หญิงสาวรีบสลัดความทุกข์ออกไปจากใจชั่วคราว หันมาใส่ใจงานตรงหน้าและขะมักเขม้นอยู่กับมันเพื่อให้ตนเองลืมความทุกข์ รอยยิ้มแม้จะฝืดเฝื่อนแต่ก็เต็มใจยิ้มมากกว่าหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเริ่มจะทำใจยอมรับความจริงได้บ้างแล้ว
เสียงประตูเปิดเข้าเปิดออกดังขึ้นเป็นระยะตลอดทั้งวัน เอมิกาทำงานจนหัวหมุน ไม่มีเวลามาใส่ใจเรื่องที่ติดค้างอยู่ในใจ จนเหลืออีกไม่กี่นาทีก็ใกล้ถึงเวลาปิดร้าน เกสรเริ่มเก็บของบนโต๊ะและเช็ดสทำความสะอาดโต๊ะทุกตัว เอมิกาก็เตรียมเช็ดหน้าเคาน์เตอร์ เพื่อเตรียมตัวกลับบ้าน แต่...เสียงกระดิ่งหน้าประตูดังขึ้นกรุ๊งกริ๊งอีกครั้ง จนทั้งเกสรและเอมิกาต่างหันไปมอง
เอมิกาอ้าปากเตรียมจะขอโทษลูกค้าที่เข้ามาใหม่ แต่ก็ต้องรีบหุบปากลง เมื่อมองเห็นผู้หญิงแปลกคนหนึ่ง เดินเข้ามาในร้านพร้อมกับกรณ์ที่เดินตามหล่อนมาทางด้านหลัง แววตาเย้ยหยันที่ส่งมาจากสาวสวยผู้นั้น บีบหัวใจจนเอมิกาเริ่มรู้สึกอึดอัด กลิ่นน้ำหอมราคาแพงลอยฟุ้งกระจายในอากาศ กลิ่นหอมหวานเย้ายวนเหมาะสมกับบุคลิกวัยทำงานของผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงด้านหน้า
พรรณรายกวาดตามองร่างบอบบางตรงหน้าอย่างน่าเกลียด มีผู้หวังดีกระซิบเตือนเธอจนนั่งไม่ติด ผู้หญิงตรงหน้าเป็นอดีตคนสำคัญของว่าที่สามี ที่เธอไม่เคยรับรู้มาก่อน มันเป็นเรื่องปกติของคนสมัยนี้ที่จะมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันก่อนแต่งงาน สิ่งที่กรณ์ปรนเปรอพรรณรายคือบทรักร้อนแรง สาวใหญ่ที่อยู่โดดเดี่ยวและร้างจากเพศสัมพันธ์มาเป็นเวลานาน จึงกับหลงใหลหนุ่มรุ่นลูกจนโงหัวไม่ขึ้น อะไรก็ตามที่เขาอยากได้ เธอจัดให้ไม่คิดเสียดาย ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ ข้าวของเครื่องประดับอะไรก็ตามแต่ที่กรณ์เอ่ยปากพรรณรายไม่เคยปฏิเสธ หล่อนรีบจัดหามาให้กรณ์ทุกสิ่งทุกอย่างโดยไม่มีข้อแม้
“เธอหรือ...ที่คอยตามตื้อกรณ์เขาอยู่น่ะ?” พรรณรายถาม มือขยับแว่นตากันแดดลงจากหน้า พร้อมทั้งรอฟังคำตอบจากเด็กสาวด้านหน้า เมื่อไม่มีคำตอบ คำพูดเผ็ดร้อนคำต่อไปจึงดังออกมาไม่หยุด
“หน้าตาก็ดีนี่...ร้านรวงก็ดูท่าจะขายได้ ทำไมถึงยังสิ้นคิดจนคิดจะจับสามีของฉันอีกละจ้ะ” ปากสีแดงสดขยับพูดและกวาดตามองไปรอบๆ ตัว
“คะ...” หญิงสาวครางเสียงหลง ทุกอย่างเป็นความผิดของเธอเหรอไง?
“ได้ไปเท่าไรแล้วล่ะ ที่เขาเอาเงินของฉันมามอบให้เธอ อยากได้อีกเท่าไรเหรอจ้ะ เธอถึงจะยอมเลิกยุ่งกับคนรักของฉันได้” พรรณรายเหยียดยิ้ม เธอมองเอมิกาเต็มตัวพร้อมทั้งสาดคำพูดดูถูกใส่เอมิกา
“น่าจะมีการเข้าใจผิดแล้วล่ะค่ะ ที่คุณพูดมา เกี่ยวกับเอมิตรงไหนคะ?” เอมิกากล่าวแย้ง เมื่อพรรณรายเข้าใจผิดประเด็น เธอไม่เคยปลอกลอกกรณ์ ยามเลิกรากรณืสิสมควรคืนสิ่งที่หยิบยืมเธอไป แต่เอมิกาก็ยังไม่เคยทวง หญิงสาวจึงทอดสายตามองกรณ์อย่างผิดหวัง คนหน้าด้านเสหลบสายตาของเธอ เขาไม่กล้าสบนัยน์ตาเธอด้วยซ้ำ
“หมายความว่าไงยะ มันเกี่ยวกับเธอเห็นๆ” พรรณรายตะคอก เรียวคิ้วขมวดเป็นปม
“หมายความตามที่พี่เอมิพูดนั้นแหละคุ๊ณ พี่เอมิไม่เคยขออะไรจากผัวคุณนาย มีแต่จะให้ด้วยซ้ำ ถ้านับเงินที่ยืมพี่เอมิไปแล้วยังไม่คืนก็น่าจะหลายพันอยู่นะคะ ลำพังเงินเดือนพนักงานต๊อกต๋อยอย่างไอ้หมอนั่นไม่มีเสื้อผ้าแพงๆ ใส่หร๊อก!! จนกร็อบขนาดนั้น คุณไปฟังข่าวมั่วๆ ที่ไหนมาล่ะ ไม่ต้องมาเถียงหนูๆ พูดเรื่องจริง ไม่ต้องมาทำเป็นหวงก้างหรอกคุณ เลิกกับคนพรรณนั้นได้ดีเสียอีก ไม่มีปลิงคอยเกาะ มีที่เกาะใหม่ร่ำรวยแล้วนี่ สงสารก็แต่คุณนั้นแหละ...หมดไปเท่าไรแล้วล่ะกับผู้ชายมีราคาอย่างนั้น” เกสรพูดกระแทกใส่ เธอสอดมือเข้ามาช่วย เมื่อเห็นท่าทีคุกคามของพรรณราย หล่อนยิ้มเยาะแม่สาวรายใหม่ที่กลายเป็นถังข้าวสารให้หนูหิวโซแบบกรณ์กระโดดลงไปกินจนอิ่มเอม