บทที่ 5
โยธินที่นอนเงียบมาตลอดทั้งคืนค่อยๆ ปรือตาขึ้น...นี่กี่โมงแล้วหว่า ยังมืดตื๋ออยู่แล้ว แล้วทำไมเตียงเขาวันนี้มันแข็งๆ นะ มือคลำไปทั่ว ก็ให้ฉงนกับพื้นกระเบื้องที่เย็นเชียบ ตาเขาลืมขึ้นเต็มที่แล้วตอนนี้...อา...พอจะรู้ล่ะทำไมมันมืด...เขานอนใต้เตียง!
ทำไมมานอนใต้เตียงวะ...
งงๆ เบลอๆ เมาก็ยังเมาค้าง ค่อยๆ คลานออกมา หูได้ยินเสียงเพลงดังเบาๆ นี่เขาเปิดเพลงค้างไว้หรือเปล่า?
อื้อหือ...ลืมตีขึ้นมาทำให้เขารีบลุกพรวดขึ้นแล้ววิ่งถลาเข้าไปในห้องน้ำ...
คนที่กำลังอาบน้ำอยู่เพลินๆ ฟังเพลงเพราะยามเช้าที่เปิดไว้ถึงกับสะดุ้งสุดตัว เมื่อประตูห้องน้ำเปิดผัวะออก แล้วก็มีผู้ชายคนหนึ่งโผล่มา
ปฏิกิริยาทางร่างกายที่ว่องไวของแก้วจันทร์ คือหยิบของใกล้มืออย่างขันพลาสติกที่ใช้ล้างห้องน้ำ แม้จะยังเปลือยเปล่า ตรงรี่เข้าไปประชิดตัวของชายคนนั้นที่กำลังก้มหน้ากับอ่างล้างหน้าของเธอแล้วอาเจียน เขาเหมือนไม่เห็นเธอด้วยซ้ำ
โป๊กๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ขันพลาสติกถูกรัวใส่ศีรษะของผู้บุกรุก เสียงกระทบของพลาสติกโดนเนื้อเน้นๆ เข้าทุกดอก
“ออกไปนะ ไอ้บ้า ออกไป แกเข้ามาได้ยังไง ออกไป ออกไป๊!”
“โอ๊ยๆๆๆ”
โยธินพยายามปัดป้อง ร้องโอดโอยโบกมือห้าม ร่างกายเขาตอบโต้การทำร้ายได้เชื่องช้าทั้งที่ปรกติจะไวกว่านี้เวลาโดนโจมตีเพราะแฮงก์เหล้า เขาโดนเข้าไปดอกเต็มๆ ที่คิ้วจนเลือดโกรก มือของเขามือหนึ่งคว้าทันที่มือของผู้บุกรุก? (กำลังอ้วกอยู่ดีๆ ใครเอาอะไรมาตีตูฟะ) บิดให้อาวุธหล่นร่วงลงไป เลือดเข้าตาจนเห็นอะไรสีแดงๆ ผ่านการมองเห็น เขารวมร่างนั้นเข้าสู่อ้อมแขน ร่างนั้นนุ่มมากแม้จะเห็นไม่ชัด
หอมด้วยสิ
ถึงจะหน้าสิ่วหน้าขวานโดนทุบกบาลเอาจนปูดไปหมด มึนๆ งงๆ แต่การรับรู้ก็เด่นชัดมากเมื่อรวบร่างนั้นไว้ได้ในอ้อมแขน
ผู้หญิงชัดๆ
“กรี๊ด ปล่อยนะ ปล่อย ไอ้บ้า”
แก้วจันทร์ตกใจที่โดนรวบร่างเข้าไปในร่างใหญ่ เขาตัวโตกว่าเธอมาก แล้วเธอเพิ่งรู้ตัวว่ากำลังเปลือย...โอ...ร่างของเธอเต็มไปด้วยสบู่แต่เขาก็ยังรัดไว้แน่น
โจรที่ไหนกัน มาถึงทุบเอาทุบเอาปานเราเป็นกระท้อน
“ใจเย็น เฮ้...เย็นไว้ก่อน”
ตาของโยธินปิดไปแล้วข้างหนึ่งเลือดเข้าตาจนลืมไม่ขึ้น เหลือข้างเดียวที่กำลังก้มมองเธอ เป็นจังหวะเดียวกับที่แก้วจันทร์เงยหน้ามองเขาพอดี
“เฮ้ย คุณ”
“คุณ!”
แก้วจันทร์และโยธินต่างก็ตกตะลึงเมื่อเห็นกันและกันถนัด เขาปล่อยมือจากเธออย่างรวดเร็ว แก้วจันทร์เองก็รีบวิ่งไปอยู่หลังม่านพลาสติก...ที่ใสจนปิดอะไรแทบไม่มิด เทรนเนอร์หนุ่มเมินหน้าหนีจากภาพ...โอ...ฉิบหาย ดีนะที่ใส่กางเกงยีนขาเดฟรัดติ้วไว้ อะไรๆ มันเลยดันขึ้นมาไม่เห็นชัดนัก
“ออกไปก่อนไป๊”
เธอตะโกนไล่เขา โยธินเลยเดินออกมาแล้วปิดประตูดังปัง
ตุบๆๆๆ
เสียงหัวใจของคนหน้าห้องน้ำและในห้องน้ำตอนนี้ เต้นดังรัวด้วยความตื่นเต้นอิหยังวะพร้อมๆ กันไปแล้ว
..................
“คิ้วแตกเย็บหกเข็ม หัวแตกสองแผลอีกที่ล่ะสิบเข็ม...มีแผลฟกช้ำตามแขน นิ้วเคล็ดไปสามนิ้ว และตามหน้าตาอีกเล็กน้อย ซีทีสแกนแล้วไม่พบความกระทบกระเทือนอะไรกับสมองครับ”
“ขันพิฆาตแท้ๆ”
โยธินบ่นอุบ ตาของเขาปิดไปข้างหนึ่ง เพราะแผลมันพาดลงมาเกือบถึงตาเลยต้องปิดไว้ คนทำร้ายและรับบทคนพาเขามาส่งหมอด้วยยิ้มแหย ก่อนจะเอ่ยบอกเขาเสียงอ่อยว่าขอจ่ายค่ารักษาเองเป็นการรับผิดชอบ ทว่าโยธินกลับส่ายหน้าแล้วแย่งชิงเธอสแกนจ่ายเงินเสียอย่างนั้น
ค่ารักษาตั้งเป็นหมื่น...เห็นแล้วแก้วจันทร์ยิ่งรู้สึกผิด...
เธอพาเขาขับรถกลับบ้าน ตัวของเขาอยู่ใหญ่โตในรถคันเล็กของเธอ รถของแก้วจันทร์เป็นรถอีโก้คาร์ขนาดกระทัดรัดเหมือนคนขับที่ตัวเล็กสูงแค่ร้อยห้าสิบนิดๆ วันนี้ได้คนมานั่งข้างเป็นชายหนุ่ม หลังจากที่เมื่อจบจากเรื่องชุลมุนวุ่นวายในตอนเช้ามืดนั้นแล้ว เธอก็ลางานแล้วเร่งพาเขาส่งโรงพยาบาลเพราะเลือดเต็มหน้าเต็มหัวเขาไปหมด ขันพลาสติกยี่ห้อนี้สุดยอดจริงๆ กระหน่ำทุบขนาดนั้น ยังไม่มีแม้แต่รอยร้าว
มันไม่ใช่เวลาจะมาชื่นชมความทนทานของขันน้ำนะ...
“เอ่อ...” แก้วจันทร์พยายามรวบรวมคำพูด แต่คนข้างๆ ชิงเอ่ยขึ้นมาก่อน
“ขอโทษนะครับ”
“คะ?”
“ขอโทษที่ผม คือผมเมามากเลยเข้าบ้านผิด...ผมมันโง่เง่ามากจริงๆ คุณคงตกใจมาก”
โยธินว่า สภาพของเขาตอนนี้น่าขันมาก หัวหูเต็มไปด้วยผ้ากอซปิดแผล เขาผิดเองจริงๆ นั่นแหละ ที่เดินเป๋เข้าไปในบ้านเธอ ไปนอนใต้เตียงของเธอ แถมยัง...ไปอ้วกในซิงค์ล้างหน้าของเธอ
อีกแถม...
เห็นเธอในสภาพที่...
ความขาวพร่าเข้าตาจนตาพร่า ส่วนที่ควรจะชมพูก็ชมพูสวย ขนาดเห็นไม่ชัดถนัดตามากนักเพราะเหลือตาเดียวตอนมอง แต่ก็...ติดตรึงในสมองอะไรจะขนาดนั้น
เป็นสรีระของผู้หญิงที่เห็นแล้ว...
โอ...
ไม่ไหว...
แค่คิดครึ่งๆ กลางๆ เขาก็กุมจมูก เลือดลมแล่นจนเลือดกำเดาทะลัก โชเฟอร์หันมาเห็นก็ร้องว้ายอย่างตกใจ รีบเบรกจอดรถแล้วรีบถามเขาว่าเป็นอะไร ทำท่าจะเลี้ยวรถกลับโรงพยาบาลอีกหน แต่โยธินห้ามไว้เสียก่อน แล้วบอกว่าไม่เป็นอะไรมาก แค่เลือดกำเดาพุ่ง...เท่านั้นเอง
หลังจากเลือดกำเดาของโยธินไหลพรูออกให้ตกอกตกใจแล้ว ทั้งคู่ก็ไม่พูดอะไรกันอีก จนมาถึงที่บ้านของเขา
รถของโยธินยังไม่กลับมาบ้าน สงสัยว่ายัยยุน้องสาวของเขาจะยังไม่ตื่น เธอจอดรถเลยไปที่บ้านของโยธินแล้วลงมาเปิดประตูรถให้เขา พร้อมกับลังเลที่จะประคองคนเจ็บลงจากรถ
“เดินไหวไหมคะคุณ”
“ผมมองไม่ค่อยเห็นชัดเท่าไหร่น่ะครับ เอ่อ...ถ้าจะกรุณา”
เขาช่างสุภาพ จนแก้วจันทร์ยิ่งสำนึกผิดคูณสิบไปอีก
จะว่าไปเขาก็เป็นผู้ชายไม่กี่คนล่ะนอกจากญาติพี่น้องล่ะที่ไม่ได้มองเธอด้วยสายตาอ่านกิน...เธอเลยเต็มใจที่จะเอาตัวเข้าใกล้ชิดกับเขา อย่างที่ไม่เคยทำกับใครต้องคอยระแวดระวังตัว เพราะเจอแต่ผู้ชายสันดานร้ายมาเยอะจนเข็ดหลาบ
“มาค่ะ เดี๋ยวแจ๋มช่วยพาเข้าบ้าน ไหนคะกุญแจ”
เขาล้วงไปที่กระเป๋ากางเกงแล้วยื่นส่งกุญแจให้กับเธอ บอกว่ารั้วบ้านไม่ได้ล็อค ล็อคไว้แต่ประตูบ้าน
แก้วจันทร์ไม่ค่อยจะแปลกใจนักที่เขาบอกว่าเมาจนจำบ้านผิด แปลนบ้านจัดสรรเหมือนกันทุกหลังนั่นแหละ แล้วรั้วของเขากับเธอก็เป็นสีเดียวกัน การจัดวางของในบ้านก็แบบเดียวกันอีกต่างหาก เธอยื่นมือให้กับเขาได้จับแล้วยิ้มพร้อมกับเอ่ยเสียงหวาน
“ขอแจ๋มจับมือนะคะ”
โยธินรู้สึกว่าเสียงของเธอหวานยิ่งกว่าน้ำตาลเสียอีก มันซ่านเข้าไปถึงใจ เขาส่งมือให้สาวสวยข้างบ้านจับ แกล้งทำสำออยอย่างไม่เคยทำมาก่อน...เธอน่ารักเหลือเกิน...แล้วก็มือโคตรหนักอีกต่างหาก
เธอพาเขาไปนั่งที่โซฟา แล้วยืนหันรีหันขวางมองแวบไปรอบบ้าน บ้านของเขากับเธอมันก็คล้ายๆ กัน จริงๆ ต่างกันแค่เฟอร์นิเจอร์กับของตกแต่งแต่ก็วางอยู่มุมเดียวกันเพราะเหมือนแบบบ้านจะล็อคโดยอัตโนมัติว่าให้แต่งบ้านแบบนี้ เธอถามเขาว่าจะดื่มน้ำอะไรไหม? แล้วเขาอยู่กับใคร...โยธินมองคนตัวเล็กด้วยตาข้างเดียว แล้วเอ่ยเสียงทุ้ม
“ผมอยู่กับน้องสาวครับยังไม่มีแฟน”
ประกาศสถานะกลายๆ กันเลยล่ะว่าเขายังโสด แก้วจันทร์เลิกคิ้วเล็กน้อย ถามเขาว่าจะต้องรับประทานยาอะไรไหมแล้วขออนุญาตดูยาที่เขาได้รับมาจากโรงพยาบาล มียาที่จะต้องรับประทานหลังอาหารอยู่ แน่ล่ะเขายังไม่ได้กินอะไรแน่ๆ เหมือนกันกับเธอ
“เอ่อ...แล้วน้องสาวคุณจะกลับเมื่อไหร่คะ”
“ยังไม่รู้เลยครับ ผมยังไม่ได้โทรหายัยยุเลย หายต๋อมไปแบบนี้...กว่าจะกลับน่าจะค่ำๆ”
“ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวแจ๋มกลับไปบ้านก่อนไปหาอะไรให้กินนะคะ คุณจะได้กินข้าวแล้วก็กินยา”
จะออกไปข้างนอกก็คงจะนาน เพราะที่นี่อยู่ไกลจากตลาดและห้างพอสมควร จะสั่งเดลิเวอรี่ก็นานอีกเลยคิดว่าจะไปทำอาหารง่ายๆ ให้เขารับประทาน เพราะพอจะเหลือของสดจากปาร์ตี้เมื่อวานอยู่บ้าง
“ในครัวของผมพอจะมีของสดของแห้งอยู่บ้างน่ะครับ คุณ...แจ๋ม ถ้ายังไงก็จัดการได้เลยครับ”
เขาเรียกชื่อเล่นของเธอ แก้วจันทร์ฟังเสียงทุ้มๆ นุ่มนั่นเรียกชื่อเล่นของตัวเองแล้วก็รู้สึกพิกล เขาทำให้เธอรู้สึกเขินแค่เรียกชื่อเธอเท่านั้น
อะไรกันนะยัยแจ๋ม